ปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลัง ‘เจเรมี ฮันต์’ ขุนคลังอังกฤษคนใหม่เตรียมเสนอแผนการคลังระยะกลางบางส่วนในช่วงท้ายของการประชุมวันนี้ (17 ต.ค.)
หลังคำแถลงการณ์ของรมว.คลังคนใหม่ของ ส่งผลให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.13 ดอลลาร์ โดยนี่เกิดขึ้นหลังนายกฯ อังกฤษ ‘ลิซ ทรัสส์’ กลับลำนโยบายการคลังครั้งใหญ่ พร้อมปลดอดีต รมว.คลังคนเก่าอย่าง ‘กวาซี กวาร์เทง’ ออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.)
การประกาศแผนการคลังระยะกลางบางส่วนเกิดขึ้นก่อนกำหนดถึง 2 สัปดาห์ แต่แผนฉบับเต็มยังคงมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 31 ต.ค. เช่นเดิม พร้อมกับคาดการณ์จากสำนักงานความรับผิดชอบด้านงบประมาณอิสระ ซึ่งไปสิ่งที่ไม่ปรากฎในแผนที่ประกาศก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ก.ย. จนสร้างผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ของอังกฤษ
‘เจเรมี ฮันต์’ อดีตผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯ กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สิ่งสำคัญที่สุดของเขาในฐานะรมว. คลังคือ ‘การเติบโต’ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีรุ่นก่อน แต่เน้นว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยความมั่นคง
รมว.คลังคนใหม่ของอังกฤษ กล่าวเสริมว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ทั้งผู้คนจำนวนมากขึ้นได้ทำงานที่ดี ธุรกิจใหม่สามารถเติบโตได้ รวมถึงการให้บริการสาธารณะระดับโลกได้ แต่อังกฤษเคลื่อนไหวไกลและเร็วเกินไป
ด้านปธน.โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า แผนการลดภาษีก่อนหน้านี้ของอังกฤษถือเป็นความผิดพลาด สอดคล้องกับ IMF ที่ระบุว่า แผนดังกล่าวจะเพิ่มความไม่เท่าเทียมกัน และไม่แนะนำการใช้มาตรการดังกล่าวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้
ด้าน นายกฯ ‘ลิซ ทรัสส์’ กำลังเจอแรงกดดันอย่างหนัก โดยผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองหลายคนเน้นย้ำถึงผลงานที่ย่ำแย่ของทรัสส์ในวันศุกร์ ขณะที่ผู้ร่างกฎหมายบางคนเรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel