News Update: จีนล็อกดาวน์ทั้งเมืองอีกแล้ว ชาวเมือง ‘เจิ้งโจว’ เกือบล้านคน ห้ามออกจากบ้าน ตอกย้ำจุดยืน ‘สี จิ้นผิง’ แม้ชาวจีนเริ่มไม่พอใจ

จีนประกาศล็อกดาวน์ ‘เจิ้งโจว’ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลเหอหนานและยังเป็นศูนย์กลางการผลิต iPhone ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของปธน. สี จิ้นผิง กับนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ตั้งแต่วันนี้ (17 ต.ค.) ชาวเมืองเจิ้งโจวเกือบ 1 ล้านคนถูกสั่งให้ล็อกดาวน์อยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นแค่ในกรณีที่ต้องตรวจโควิด พร้อมสั่งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

การสั่งล็อกดาวน์เมืองเจิ้งโจวเกิดขึ้นหลังการล็อกดาวน์ในพื้นที่ใกล้เคียงบางแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นี่สร้างความประหลาดใจให้กับชาวจีนจำนวนมาก เพราะรัฐบาลจีนเพิ่งประกาศไม่นานมานี้ว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ทั้งเมืองแล้ว

อย่างไรก็ตาม โรงงานของ Foxconn Technology Group ผู้ผลิต iPhone ไม่ได้อยู่ในเขตที่ถูกล็อกดาวน์

เจิ้งโจวรายงานผู้ป่วยใหม่ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) 6 ราย ลดลงจากยอดสูงสุดล่าสุดที่ 40 รายเมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยตอนนี้ทั่วประเทศจีนมีผู้ป่วยเหลือ 697 ราย ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยปักกิ่งพบผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย และเซี่ยงไฮ้มี 32 ราย

จีนยังคงยึดมั่นกับนโยายโควิดเป็นศูนย์และการตรวจหาโควิดเป็นวงกว้าง แม้จะแลกมากับค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางเศรษฐกิจมหาศาลก็ตาม ขณะที่ ปธน.ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในมาตรการนี้

📌อ่านข่าว “สรุปประเด็น ‘สี จิ้นผิง’ เปิดประชุมใหญ่ ไม่ผ่อนปรนโควิดเป็นศูนย์ คัดค้านเอกราชไต้หวัน เตรียมรับตำแหน่งปธน.จีน สมัยที่ 3” ได้ที่นี่

ตอนนี้นโยบายดังกล่าวได้ฉุดรั้งการเติบโตของจีน และทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกต้องหยุดชะงักจากการล็อกดาวน์และปิดโรงงาน เพราะจีนที่ศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญ ตั้งแต่รถยนต์ โทรศัพท์ และต้นคริสต์มาส

ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์โดย Bloomberg คาดการณ์เศรษฐกิจจีนจะเติบโตเพียง 3.3% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวที่อ่อนแอที่สุดเป็นอันดับ 2 ในรอบกว่า 4 ทศวรรษ

การควบคุมโควิดที่เข้มงวดกำลังกระตุ้นความไม่พอใจของประชาชน เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วมีการชุมนุมวิจารณ์ ‘สี จิ้นผิง’ และนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยมีแผ่นป้ายที่เขียนว่า “เราต้องการอาหาร ไม่ใช่การทดสอบ PCR เราต้องการอิสรภาพ ไม่ใช่การล็อกดาวน์และการควบคุม”

อ้างอิง: Bloomberg

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

TSF2024