ในการประชุมแบบเห็นหน้ากันครั้งแรกแบบออนไลน์ ระหว่าง ปธน.จีน สี จิ้นผิง และปธน.สหรัฐฯ โจ ไบเดน ทั้งคู่ได้พูดคุยถึงความสำคัญในการร่วมมือกันระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยการประชุมดังกล่าวใช้เวลานานกว่าคาด แต่ไม่มีการประกาศความคืบหน้าครั้งสำคัญ
การประชุมผ่านทางวิดีโอที่กินเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ครอบคลุมประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง ประเด็นการค้าระหว่างประเทศ สถานะของไต้หวัน และสิทธิมนุษยชน โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า การพูดคุยเต็มไปด้วยนำเสียงที่เคารพและเปิดเผย เพื่อมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการแข่งขันระยะยาวของทั้งสองประเทศ
🇨🇳🇺🇸 เริ่มต้นการประชุมด้วยความเป็นมิตร
ในช่วงเริ่มต้นของการประชุม โจ ไบเดน กล่าวว่า ทั้งสองประเทศมีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อให้แน่ใจว่าการแข่งขันระหว่างประเทศจะไม่นำมาสู่ความขัดแย้ง รวมถึงวิธีการทำงานร่วมกันในประเด็นที่มีความเห็นต่างกัน เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ
ขณะที่ สี จิ้นผิง เริ่มต้นการประชุมโดยกล่าวว่า ดีใจที่ได้พบ “เพื่อนเก่า” พร้อมเสริมว่า สหรัฐฯ และจีน จำเป็นต้องเพิ่มการสื่อสารและความร่วมมือ เพื่อรับมือต่อความท้าทายระดับโลก ซึ่งรวมถึง การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และการแพร่ระบาดของโควิด-19
สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและสหรัฐฯ ควรปฏิบัติตามหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1) การเคารพซึ่งกันและกัน 2) การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และ 3) แสวงหาความร่วมมือแบบได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย (win-win) โดยจะดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐฯ ไปในทิศทางที่ดีขึ้น
🇨🇳🇺🇸 หารือหลายประเด็น โดยไม่เน้นผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ชี้แจ้งว่าการประชุมจะไม่มีผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามนั้น ขณะที่ สำนักข่าวซินหัวกล่าวว่า รัฐบาลจีนตกลงอนุญาตให้นักธุรกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ประเทศจีนผ่านช่องทางพิเศษ (Fast Track) ซึ่งนี่เป็นเพียงเรื่องเดียวที่เป็นรูปธรรมจากการหารือ
ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์หลังการประชุมว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือถึงลักษณะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของจีนและสหรัฐฯ รวมถึงความสำคัญในการจัดการกับการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ โดย โจ ไบเดน ได้หยิบยกประเด็นต่างๆ ตั้งแต่สิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและซินเจียง รูปแบบการค้าและเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมของจีน ไปจนถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนทนาที่มีสาระสำคัญและเป็นรูปธรรม
สื่อทางการจีนรายงานว่า สี จิ้นผิง หวังว่า โจ ไบเดน จะนำนโยบายสหรัฐฯ กลับคืนสู่เส้นทางที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง และยังกล่าวว่า โลกมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการพัฒนาของทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยไม่มีผู้แพ้หรือชนะ พร้อมเปรียบเทียบทั้ง 2 ประเทศ เป็นเรือขนาดใหญ่ 2 ลำ ที่จำเป็นต้องเคลื่อนที่ข้างหน้าไปพร้อมกันโดยไม่ชนกันเอง
🇹🇼 ประเด็นความสัมพันธ์ สหรัฐฯ-ไต้หวัน-จีน
โจ ไบเดน ย้ำว่า สหรัฐฯ สนับสนุน ‘นโยบายจีนเดียว’ มาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ คัดค้านความพยายามเพียงฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนสถานะประเทศ รวมถึงการกระทำที่เป็นบ่อนทำลายสันติภาพและสเถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน โดยสหรัฐฯ อาจปกป้องไต้หวันในบางกรณี ขณะที่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า ยังไม่มีข้อตกลงหรือความเข้าใจใหม่ในประเด็นนี้ แม้ โจ ไบเดน จะแสดงออกถึงความกังวลอย่างชัดเจน
ขณะที่ สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนา โดยเตือนว่าผู้ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวในประเด็นไต้หวันก็เหมือน “มาเล่นกับไฟ และจะถูกไฟเผาแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้” โดยจีนใช้ความอดทน ความจริงใจ และความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อมุ่งสู่การรวมประเทศอย่างสันติ อย่างไรก็ตาม หากไต้หวันทำการยั่วยุ บีบบังคับ หรือล้ำเส้นสีแดง จีนก็จำเป็นต้องดำเนินมาตรการขั้นรุนแรง
กระทรวงต่างประเทศของไต้หวันตอบสนองต่อการหารือดังกล่าว และกล่าวว่า ไต้หวันหวังว่าจีนจะมีความรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาสันติภาพบริเวณช่องแคบไต้หวัน และแก้ไขความแตกแยกผ่านการเจรจาร่วมกัน
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel