Disney เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ โตเกินคาด หนุนให้ราคาหุ้น Disney นอกเวลาทำการซื้อขาย พุ่งขึ้นกว่า 5% (12 ส.ค.)
ผลประกอบการ Disney ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์จาก Refinitive คาดการณ์ โดยกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $0.80 เทียบกับคาดการณ์ที่ $0.55 และรายได้อยู่ที่ 17,020 ล้านดอลลาร์ เทียบกับคาดการณ์ที่ 16,760 ล้านดอลลาร์
จำนวนสมาชิกของ Disney+ บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง ทะลุ 116 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่ StreetAccount คาดการณ์ไว้เพียง 114.5 ล้านราย และสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีจำนวนสมาชิก 103.6 ล้านราย
โดยรายการที่ได้รับความนิยมใน Disney+ ได้แก่ มินิซีรีส์เรื่อง “The Falcon and the Winter Soldier” และ ซีรีส์ “Loki” จาก Marvel รวมถึงภาพยนตร์จาก Pixar เรื่อง “Luca”
แต่รายได้เฉลี่ยของผู้ใช้บริการ Disney+ ลดลง 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยรายได้จากค่าสมาชิกอยู่ที่ $4.16 /เดือน/สมาชิก เป็นผลจากแผนการตลาดในภูมิภาคเอเชีย ที่คิดค่าสมาชิกต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ส่งผลให้จำนวนสมาชิก Disney+ Hotstar เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม Disney ยังคงทดลองหาวิธีการฉายภาพยนตร์เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมการรับชมที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทเตรียมปล่อยหนัง Shang-Chi จากค่าย Marvel ในโรงภาพยนตร์เป็นเวลา 45 วัน ก่อนเพิ่มลงในบริการสตรีมมิ่ง
โดยรวมแล้ว มีผู้สมัครใช้บริการ Disney+, ESPN+ และ Hulu เกือบ 174 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 โดยรายได้จาก Direct-to-Consumer เพิ่มขึ้นถึง 57% สู่ 4,300 ล้านดอลลาร์ และ รายได้เฉลี่ย/เดือน/สมาชิก เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสำหรับ ESPN+ และ Hulu
Bob Chapek CEO ของ Disney กล่าวว่า บริษัทเพิ่งเริ่มต้นเดินทางในธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่ง แต่สิ่งที่แตกต่างของ Disney คือ เนื้อหาที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่บอกเล่าโดยนักเล่าเรื่องที่ดีที่สุด
Bob Chapek มั่นใจในแนวทางของ Disney+ และคาดการณ์ว่าจำนวนสมาชิกของ Disney+ จะอยู่ที่ 230 ถึง 260 ล้านราย ภายในปี 2024
นอกจากนี้ ธุรกิจ Disney’s Parks and Products ได้กลับมาสร้างกำไรเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ถ้าพิจารณาเพียงฝั่งสวนสนุกยังคงขาดทุน
รายได้ของ Disney’s Parks and Products เพิ่มขึ้น 308% สู่ 4,300 ล้านดอลลาร์ จากการเริ่มเปิดสวนสนุกในไตรมาสที่ 3 และมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 356 ล้านดอลลาร์ เทียบกับการขาดทุน 1,870 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้า ซึ่งมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 564 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นสินค้าเกี่ยวกับ มิกกี้, มินนี่, สตาร์ วอร์ส, เจ้าหญิงดิสนีย์ และสไปเดอร์แมน
สวนสนุกของ Disney ในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือน เม.ย. และมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 2 ล้านดอลลาร์ แต่สวนสนุกของ Disney ในหลายประเทศ ยังไม่สามารถเปิดได้ ทำให้ขาดทุนถึง 210 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการรายงานการขาดทุน 5 ไตรมาสติดต่อกัน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม Bob Chapek มองเห็นความต้องการมาเที่ยวสวนสนุกที่แข็งแกร่งและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค
เมื่อปลายเดือน ก.ค. คู่แข่งอย่าง Comcast ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Universal Studios ทั่วโลก รายงานว่า ธุรกิจสวนสนุกทำกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
การฟื้นตัวในธุรกิจสวนสนุกมีความสำคัญต่อผลกำไรของ Disney โดยในปี 2019 ธุรกิจสวนสนุก โรงแรม และเรือสำราญ คิดเป็นรายได้ทั้งหมด 37% ของบริษัท ซึ่งเป็นมูลค่า 69,600 ล้านดอลลาร์
ที่มา: CNBC
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel