BBC Thai รายงานว่า คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า บรรดามหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศหรือของโลก จะต้องมีระดับสติปัญญาสูงเลิศล้ำเหนือผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า และยึดเอาแนวคิดของมหาเศรษฐีมาเป็นต้นแบบการดำเนินชีวิต
แต่ทีมนักสังคมวิทยาจากสวีเดนและเนเธอร์แลนด์ได้ตั้งคำถามกับความเชื่อดังกล่าว ทั้งยังได้ลงมือศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสติปัญญากับความสำเร็จในชีวิต โดยลงตีพิมพ์ในวารสาร European Sociological Review
งานวิจัยข้างต้นวิเคราะห์ข้อมูลของชายหนุ่มชาวสวีเดนเกือบ 60,000 คน ซึ่งทีมผู้วิจัยได้ติดตามศึกษาพัฒนาการในเรื่องของอาชีพการงานและรายได้ของคนเหล่านี้เป็นเวลา 11 ปี จนกระทั่งพวกเขาอยู่ในวัยราว 35-40 ปี จึงได้ยุติการติดตามเก็บข้อมูล
เมื่อนำข้อมูลข้างต้นไปเปรียบเทียบกับผลทดสอบระดับสติปัญญาและบุคลิกภาพ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างได้ทำไว้เมื่อ 11 ปีก่อน
ผลปรากฏว่าคนที่มีอาชีพการงานในระดับแนวหน้าและมีรายได้สูงเป็นอันดับต้นๆ นั้น มีผลตรวจวัดระดับสติปัญญาและบุคลิกภาพในวัยเยาว์ไม่แตกต่างไปจากกลุ่มคนที่มีรายได้สูงในระดับรองลงมา
เบื้องต้นผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างระดับสติปัญญากับรายได้จะบ่งชี้ว่า สองสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันแบบแปรผันตรง โดยคนที่มีความเฉลียวฉลาดมากกว่าก็จะมีรายได้สูงกว่าตามไปด้วย
แต่เมื่อกลุ่มตัวอย่างบางส่วนเริ่มมีรายได้มากกว่า 64,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี หรือราว 2,160,000 บาทต่อปี ทีมผู้วิจัยกลับไม่พบความแตกต่างทางสติปัญญาของคนรวยในกลุ่มนี้ไม่ว่าเขาจะมีรายได้มากเป็นอันดับที่เท่าใดก็ตาม
สิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างมากก็คือ กลุ่มคนที่ร่ำรวยสุดยอดซึ่งคิดเป็น 1% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด มีแนวโน้มจะ ‘ฉลาดน้อย’ กว่าผู้มีรายได้สูงในระดับรองลงมาด้วยซ้ำ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จทางการเงินในระดับอภิมหาเศรษฐีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสติปัญญาเพียงอย่างเดียว
“ภูมิหลังทางสังคมและการสะสมความได้เปรียบด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากระดับสติปัญญาของตนเอง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้คนผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จระดับสุดยอดในด้านรายได้และอาชีพการงาน” ทีมผู้วิจัยกล่าวสรุป
อ้างอิง: https://www.bbc.com/thai/articles/cxe38979nk1o
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel