เงินยูโรอ่อนค่าเข้าใกล้เงินดอลลาร์มากขึ้น จน 1 ยูโร ใกล้เท่ากับ 1 ดอลลาร์ ความกังวลด้านพลังงานและความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้แนวโน้มในยูโรโซนแย่ลง ขณะที่การหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงหลังการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
ยูโรอ่อนค่าลงมา 1.3% อยู่ที่ 1.0053 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2002 ด้านดัชนี Bloomberg Dollar Spot พุ่งขึ้นมา 1.1%
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงจากการซื้อขายที่ประมาณ 1.15 ดอลลาร์ต่อยูโรในเดือน ก.พ. การปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นเรื่อยๆ ของ Fed ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้แนวโน้มการเติบโตในยูโรโซนแย่ลง รวมถึงต้นทุนการนำเข้าพลังงานสูงขึ้น
การชอร์ตในสกุลเงินทั่วไปเป็นหนึ่งในการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สกุลเงินยูโรมีการเปลี่ยนแปลงรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลหลักอื่นๆ โดยนักกลยุทธ์จาก Scotiabank รายงานการเพิ่มขึ้น 769 ล้านดอลลาร์ในการชอร์ตสุทธิรวม 2,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.
George Saravelos หัวหน้าฝ่ายวิจัยอัตราแลกเปลี่ยนโลกของ Deutsche Bank กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ 1 ยูโร จะเท่ากับ 1 ดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากท่อส่งน้ำก๊าซ Nord Stream 1 ปิดโดยสมบูรณ์ โดย Deutsche Bank คาดการณ์ว่าเงินยูโรจะเคลื่อนไหวระหว่าง ช่วง 0.95 – 1 ยูโรต่อดอลลาร์
ขณะที่ Tom Fitzpatrick นักวิเคราะห์ของ Citigroup ได้ทุ่มสุดตัวในการชอร์ตค่าเงินยูโร โดยกำหนดราคาคู่เงินยูโรต่อดอลลาร์ที่ 0.95
อย่างไรก็ตาม Brad Bechtel จาก Jefferies LLC มองว่า EUR/USD ถูกขายมากเกินไป ‘1 ยูโร = 1 ดอลลาร์’ กลายเป็นเป้าหมายของคนจำนวนมากในตลาด ซึ่งคงไม่น่าแปลกใจหากเห็นกำไรจำนวนมากลดลง รวมถึงการดีดกลับในระยะสั้น
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel