กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน อัตราเงินเฟ้อ CPI เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีที่แล้ว สูงกว่าคาดการณ์ที่ 5.9% โดยแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ 1990 และเพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนที่แล้ว สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.6%
เมื่อหักสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานออกไป อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนที่แล้ว สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.4% และเพิ่มขึ้น 4.6% จากปีที่แล้ว สูงกว่าคาดการณ์ที่ 4% โดยเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ส.ค. 1991
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 12.3% จากเดือนที่แล้ว และ 59.1% จากปีที่แล้ว ขณะที่ ราคาพลังงานโดยรวมเพิ่มขึ้น 4.8% จากเดือนที่แล้ว และ 30% จากปีที่แล้ว
ราคารถยนต์มือสองเพิ่มขึ้น 2.5% จากเดือนที่แล้ว และ 26.4% จากปีที่แล้ว ขณะที่ ราคารถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนที่แล้ว และ 9.8% จากปีที่แล้ว
ราคาอาหารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนที่แล้ว และ 5.3% จากปีที่แล้ว ซึ่งสำหรับหมวดอาหารประเภท เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และไข่ ปรับเพิ่มขึ้น 1.7% จากเดือนที่แล้ว และ 11.9% จากปีที่แล้ว
อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นหมายถึงค่าจ้างแรงงานที่ตามหลังมากขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน ค่าจ้างที่แท้จริงปรับตัวลง 0.5% จากเดือนที่แล้ว ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.4%
ค่าที่พักอาศัย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการคำนวณดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนที่แล้ว และ 3.5% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2019 ทำให้ตลาดกังวลว่า เงินเฟ้ออาจอยู่นานกว่าที่ผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์
Seema Shah หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Principal Global Investors กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด โดยค่าที่พักอาศัยกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ
Jerome Powell ประธาน Fed และ Janet Yellen รมว.คลังสหรัฐฯ ยืนยันว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในปัจจุบันเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว และเชื่อมโยงกับปัญหาเฉพาะอย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อคงอยู่นานกว่าที่คาด แต่เชื่อว่าจะกลับมาสู่สภาวะปกติภายในปีหน้า
รายงานตัวเลขเงินเฟ้อส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง ขณะที่ ผลตอบแทนพันธบัตรปรับเพิ่มขึ้น
อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องอาจทำให้ Fed ดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยก่อนหน้านี้ Fed ระบุว่าจะเริ่มลดวงเงินซื้อพันธบัตรต่อเดือนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่ยืนยันว่ายังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปี 2022 และมีความเป็นไปได้ 44% ที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ขณะที่ Fed ชี้ถึงความเป็นไปได้แบบแคบว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแค่เพียง 1 ครั้ง ในปีหน้า ด้าน James Bullard ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เขามองเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีหน้า
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นลดลง 4,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้า เหลือเพียง 267,000 ราย และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 269,000 ราย
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2021/11/10/consumer-price-index-october.html
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel