สำนักข่าว BBC รายงานว่าผู้ประท้วงชาวศรีลังกาจะยังคงยึดทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านนายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าผู้นำทั้งสองจะลาออกอย่างเป็นทางการ แม้ว่าประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา และนายกรัฐมนตรี รานิล วิกรมสิงเห ยืนยันที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 13 ก.ค ก็ตาม หลังประชาชนเชื่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศล่มสลาย
🔥ทำไมถึงเกิดการประท้วงในศรีลังกา?
ผู้คนหลายพันคนได้ออกมาประท้วงเป็นเวลาหลายเดือน หลังเชื่อว่าประธานาธิบดีและรัฐบาลบริหารประเทศอย่างผิดพลาด ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ขาดเงินนทุนสำรองระหว่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงอย่างมาก จนทำให้ประชาชนขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง และยารักษาโรคเป็นเวลานานหลายเดือน
ขณะที่สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล ได้โทษโควิด-19 ว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศศรีลังกา พร้อมระบุว่า โควิด-19 ทำให้รัฐบาลต้องทุ่มเงินทั้งหมดในการฉีดวัคซีน
🔥สถานการณ์เศรษฐกิจศรีลังกาในปัจจุบัน
เศรษฐกิจศรีลังกากำลังเข้าขั้นวิกฤติ หลังเดือน มิ.ย ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของศรีลังกา รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 54.6% นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของศรีลังกา ที่ดัชนี เงินเฟ้อสูงกว่า 50%
จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางศรีลังกาได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 100 bps ขึ้นมาเป็น 15.50% และ 14.50% ตามลำดับ โดยเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับสูงสุด นับตั้งแต่ปี 2544 เพื่อหวังควบคุมแรงกดดันมหาศาลจากวิกฤติเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศ
🔥อนาคตของศรีลังกาจะเป็นอย่างไร?
เบื้องต้น ผู้นำทางการเมืองของศรีลังกาจะมีการประชุมเพิ่มเติมเพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างราบรื่นในวันอาทิตย์ (17 ก.ค) นอกจากนี้ประธานรัฐสภาศรีลังการะบุว่า จะต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามพรรคใหม่ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ประธานาธิบดีลาออกอย่างเป็นทางการ
ทางด้านกองทุนระหว่างประเทศ (IMF) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค ที่ผ่านมา โดยหวังว่าสถานการณ์ทางการเมืองของศรีลังกาจะคืนสู่สภาวะปกติในเร็ววัน ซึ่งจะทำให้การเจรจาเรื่องเงินช่วยเหลือเกิดขึ้นใหม่ได้
ทั้งนี้ IMFเพิ่งส่งคณะทำงานเดินทางมายังศรีลังกา เมื่อต้นเดือนนี้ และกำหนดเงื่อนไขในเบื้องต้น ที่รวมถึงการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และการจัดการกับภาวะคอร์รัปชั่น
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/world-asia-62111900
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel