จีนปูพรมตรวจโควิดชาวเมืองเทียนจินเกือบ 14 ล้านคน หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศครั้งแรกอย่างน้อย 2 ราย จาก 20 รายที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวก พร้อมแนะให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อเข้ารับการตรวจโควิดแต่ยังไม่มีประกาศล็อกดาวน์
เมืองเทียนจินอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งเพียง 115 กิโลเมตร ซึ่งผู้คนจำนวนมากมักเดินทางไปกลับระหว่างทั้งสองเมืองด้วยรถไฟความเร็วสูงหรือรถยนต์ที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทำให้เจ้าหน้าที่กังวลว่า ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนอาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และได้สั่งปิดสถานีรถไฟใต้ดินบางสายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ขณะที่ เมืองซีอานยังคงถูกบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งแม้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวเมืองซีอานกำลังร้องเรียนว่า การล็อกดาวน์ดังกล่าวทำให้เกิดความวุ่นวายจากการไม่สามารถเข้าถึงอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันได้
รัฐบาลจีนยังคงยึดมั่นต่อการบังคับใช้มาตรการรับมือโควิดแบบเข้มงวดตั้งแต่ต้นเพื่อให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ โดยการพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนภายในประเทศเกิดขึ้นไม่ถึง 4 สัปดาห์ ก่อนงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 4 ก.พ.
ก่อนหน้านี้ทางการจีนรายงานการพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแต่กลุ่มดังกล่าวเดินทางมาจากต่างประเทศและถูกกักตัวทันทีที่ตรวจพบ แต่ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. มีผู้ติดเชื้อรายหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งที่ไม่พบเชื้อจนกักตัวครบ 2 สัปดาห์ทำให้แพร่เชื้อไปยังผู้ใกล้ชิด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) ทางการจีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 92 ราย ขณะที่สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 900,000 ราย ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่ามาตรการคุมโควิดแบบเข้มงวดของจีนได้ผลดีกว่ามาตรการผ่อนคลายเป็นครั้งคราวของประเทศอื่นหรือไม่
โดยตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการของจีนนับตั้งแต่โควิดเริ่มระบาดอยู่ที่เพียง 100,000 คน เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อรายวัน 1 ล้านคนของสหรัฐฯ เมื่อตอนต้นเดือน อย่างไรก็ตาม มีคำครหาว่าการรายงานผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่นของทางการจีนนั้นต่ำเกินจริง
อ้างอิง:
https://mgronline.com/around/detail/9650000002532
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel