สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนโยบายเศรษฐกิจของปธน.โจ ไบเดน หลังการโหวตร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเลื่อนมาหลายครั้งจากความเห็นที่ขัดแย้งกันของ ส.ส.เดโมแครต
สภาผู้เแทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายด้วยคะแนน 228 ต่อ 206 เสียง โดยมี ส.ส.รีพับลิกัน 13 เสียง โหวตสนับสนุน ขณะที่ ส.ส.เดโมแครต 6 เสียง โหวตคัดค้าน โดยร่างกฎหมายได้ถูกส่งต่อไปยัง ปธน.โจ ไบเดน เพื่อลงนามอนุมัติ
วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ตั้งแต่เดือน ส.ค. โดยนี่เป็นบัญญัติกฎหมายที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดของพรรคเดโมแครต นับตั้งแต่การอนุมัติกฎหมายเยียวยาโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
สหรัฐฯ พยายามและเผชิญกับความล้มเหลวมาตลอดหลายปีในการผลักดันร่างกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งและสาธารณูปโภค ท่ามกลางแรงกดดันที่มากขึ้นจากสภาพอากาศที่เลวร้ายลง
ก่อนหน้านี้ พรรคเดโมแครตวางแผนที่จะผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมกับร่างกฎหมาย สวัสดิการสังคมและสภาพภูมิอากาศมูลค่า 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ชื่อ “Build Back Better” อย่างไรก็ตาม เกิดความเห็นที่ขัดแย้งเองภายในพรรค ทำให้แผนการอนุมัติเป็นไปอย่างล่าช้า
สมาชิกหัวก้าวหน้าของเดโมแครตต้องการมั่นใจว่าจะมีการอนุมัติร่างกฎหมาย Build Back Better หากพวกเขาโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยหลังจากพูดคุยกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง สมาชิกสายกลางให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนร่างกฎหมายอีกฉบับ
Pramila Jayapal ประธานฝ่ายหัวก้าวหน้าของเดโมแครต กล่าวว่า กลุ่มหัวก้าวหน้าโหวตสนับสนุนแผนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อแลกกับการอนุมัติร่างกฎหมาย Build Back Better ภายใน 15 พ.ย.
ขณะที่สมาชิกสายกลางจำนวน 5 ราย ออกแถลงการณ์แยกว่าจะสนับสนุนร่างกฎหมาย Build Back Better แต่ต้องรอการประเมินจากสำนักงบประมาณแห่งรัฐสภา (CBO) เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณระยะยาว
ปธน.โจ ไบเดน กล่าวหลังการลงคะแนนเสียงเสร็จสิ้นว่า กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานจะสร้างงานนับล้านตำแหน่ง เปลี่ยนวิกฤตสภาพภูมิอากาศให้เป็นโอกาส และจะนำสหรัฐฯ ไปสู่เส้นทางแห่งชัยชนะในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของศตวรรษที่ 21
ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เป็นแกนหลักในวาระการบริหารประเทศของ ปธน.โจ ไบเดน โดยแผนดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมตลาดแรงงาน สร้างหลักประกันให้ครอบครัววัยทำงาน และควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีงบลงทุนมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ ไปปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยจะครอบคลุมตั้งแต่ การขนส่ง ระบบสาธารณูปโภค และโครงข่ายบรอดแบนด์ โดยมีรายละเอียดการลงทุน ดังนี้
- 110,000 ล้านดอลลาร์: ซ่อมแซมถนน สะพาน และทางหลวงที่เก่าแก่
- 66,000 ล้านดอลลาร์: พัฒนาระบบรางรถไฟขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร
- 65,000 ล้านดอลลาร์: ปรับปรุงโครงข่ายบรอดแบนด์สำหรับพื้นที่ชนบท
- 65,000 ล้านดอลลาร์: ปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับ
- 55,000 ล้านดอลลาร์: ปรับปรุงระบบน้ำและเปลี่ยนท่อตะกั่ว
- 39,000 ล้านดอลลาร์: พัฒนาระบบขนสาธารณะ รวมถึงจัดซื้อรถโดยสารปล่อยมลพิษต่ำ
- 25,000 ล้านดอลลาร์: ปรับปรุงรันเวย์ และอาคารสนามบิน
- 7,500 ล้านดอลลาร์: สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2021/11/05/house-passes-bipartisan-infrastructure-bill-sends-it-to-biden.html
https://whyy.org/articles/roads-transit-internet-whats-in-the-final-infrastructure-bill/
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel