ตำนานนักลงทุน ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ บอกว่า ชอบเอาเงินไปลงทุนใน ‘ญี่ปุ่น’ มากกว่า ‘ไต้หวัน’ เพราะประเด็นด้านการเมืองระหว่างจีนและไต้หวัน ทำให้เขาต้องลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นผู้ผลิตชิปอย่าง TSMC
ในการประชุมประจำปีของ Berkshire Hathaway เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ปู่บัฟเฟตต์ยอมรับว่า Taiwan Semiconductor หรือ TSMC เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจัดการที่ดีที่สุดและมีความสำคัญที่สุดในโลก โดยไม่ใครในอุตสาหกรรมชิปที่สู้กับบริษัทนี้ได้
แม้จะชื่นชอบบริษัท แต่ Berkshire Hathaway ลดสัดส่วนการถือหุ้น TSMC ลง 86% ในไตรมาสที่ 4 หลังจากรายงานการลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือน พ.ย. โดยบัฟเตต์ให้เหตุผลการลดสัดส่วนการถือหุ้นมาจาก ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและไต้หวัน
สำหรับจีนและสหรัฐฯ บัฟเฟตต์แนะนำให้ทั้ง 2 ประเทศทำความเข้าใจว่า ‘เกม’ คืออะไร และไม่ควรกดดันมากเกินไป เพราะทั้งคู่จะต้องทั้งแข่งขันกันและประสบความสำเร็จ
ส่วนคู่หูของปู่บัฟเฟตต์อย่าง ‘ชาลี มังเกอร์’ เรียกร้องให้ทั้งจีนและสหรัฐฯ มีความเมตตาซึ่งกันและกันระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง
วันนี้ (8 พ.ค.) ราคาหุ้นของ TSMC พุ่งขึ้น 1.8% ในตลาดหุ้นไต้หวัน
นอกจากนี้บัฟเฟตต์ยังส่งสัญญาณว่า ถึงความตั้งใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมในญี่ปุ่น หลังจากที่เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทการค้าของญี่ปุ่นอยู่ 7.4% แต่บัฟเฟตต์บอกว่าจะถือไม่เกิน 9%
‘เกร็ก อาเบล’ ผู้สืบทอดของบัฟเฟตต์ซึ่งร่วมเดินทางไปญี่ปุ่นกับเขาเมื่อเดือนที่แล้ว เรียกบริษัทญี่ปุ่นดังกล่าวว่าเป็น “การลงทุนที่เหลือเชื่อ”
“สิ่งต่างๆ ที่ญี่ปุ่นนั้นเรียบง่าย ฉันชอบดูบริษัทต่างๆ ฉันชอบดูตัวเลขเกี่ยวกับบริษัท” บัฟเฟตต์กล่าว
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel