เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ราคา Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ทะลุ $55,000 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า หลังนักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ
เช้านี้ (7 ต.ค.) ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 6.02% อยู่ที่ประมาณ $54,847 ขณะที่ Ether เพิ่มขึ้น 0.74% อยู่ที่ประมาณ $3,524 โดย Bitcoin เพิ่มขึ้น 13% ในสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 87% ตั้งแต่ต้นปี
Matt Hougan ผู้บริหารระดับสูงของ Bitwise Asset Management กล่าวว่า ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบคือ สิ่งที่กีดกันนักลงทุนออกจากตลาด และนักลงทุนจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ในทุกครั้งที่ความชัดเจนด้านกฎระเบียบเพิ่มขึ้น ซึ่งนี่คือสิ่งขับเคลื่อนหลักที่จะทำให้ตลาดคริปโทฯ ร้อนแรง
ก่อนหน้านี้ Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ กล่าวว่า ก.ล.ต. ไม่มีแผนแบนคริปโทฯ โดยการแบนจะขึ้นอยู่กับสภาคองเกรสเป็นหลัก สอดคล้องกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Jerome Powell ประธาน Fed กล่าวว่า เขาไม่มีแผนแบนคริปโทฯ เช่นกัน
Matt Hougan กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ประกาศว่า พวกเขาจำเป็นต้องต้องสร้างกฎระเบียบใหม่สำหรับคริปโทฯ ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล เพราะไม่รู้ถึงขอบเขตของความเป็นไปได้ ดังนั้น คำกล่าวของ Gary Gensler และ Jerome Powell จึงทำให้ราคาพุ่งแรงในสัปดาห์นี้
Noelle Acheson หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดจาก Genesis กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ของปีนี้ และมีสัญญาณบ่งชี้ว่ามาจากการขับเคลื่อนโดยสถาบัน
Noelle Acheson กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันเคลื่อนไหวกันเป็นกลุ่ม และกำลังไล่ตามโมเมนตัม โดยเมื่อเหล่านักลงทุนสถาบันเห็นราคาที่พุ่งขึ้น ก็เริ่มคิดว่าอาจพลาดอะไรไปจนทำให้ผลงานด้อยกว่าคู่แข่ง จึงต้องเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ บ้าง
Noelle Acheson ตั้งข้อสังเกตว่า Bitcoin ยังคงรักษาอันดับใน Top 5 สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงได้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งนี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะ Top 5 ส่วนมากจะเป็นเหรียญอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า หรือ Defi นี่จึงเป็นสัญญาณว่านักลงทุนสถาบันกำลังเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ และ Bitcoin คือเครื่องนำทางสู่ตลาด
เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) Bitcoin มี Basis Spread สูงสุด ซึ่ง Noelle Acheson มองว่ามันผิดปกติ เพราะโดยปกติแล้ว CME (Bitcoin Futures) จะตามรอยการแลกเปลี่ยนอื่นๆ โดย CME คือการแลกเปลี่ยนที่ให้ Leverage ต่ำที่สุด แม้มันจะไม่ใช่สินทรัพย์ที่นักลงทุนหรือเฮดจ์ฟันด์ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่เป็นสินทรัพย์ที่สถาบันดั้งเดิมมักเลือกใช้ เพราะเป็นอนุพันธ์คริปโทฯ เดียวที่ถูกกำกับดูแลโดยรัฐบาล
ในขณะเดียวกัน ราคาหุ้นปรับตัวลงจากความกังวลในอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การเปิดเมืองอีกครั้ง และประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
นักลงทุนหลายคนมองว่า Bitcoin คือ สินทรัพย์ปลอดภัย เพราะสามารถยืนหยัดท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาดหุ้นได้ อย่างไรก็ตาม Bitcoin ไม่ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะมีหลายครั้งที่ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น
Janet Yellen เตือนว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะกินเวลานานหลายเดือน โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอย หากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ภายใน 2 สัปดาห์
Jim Cramer กล่าวในรายการ Squawk on the Street ว่า การอภิปรายของ Janet Yellen เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นักลงทุนซื้อ Bitcoin และถ้ามันกลายเป็นเรื่องจริง เงินดอลลาร์เหมือนจะไม่มีค่าเท่าคริปโทฯ
ขณะที่ Lisa Shalett ผู้บริหารระดับสูงของ Morgan Stanley Wealth Management ให้สัมภาษณ์ว่า คริปโทฯ ทำหน้าที่เหมือนลูกผสมระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงิน ดังนั้น ความผันผวนของคริปโทฯ จึงมากกว่าราคาหุ้นถึง 4 เท่า
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2021/10/06/bitcoin-jumps-to-nearly-5-month-high-topping-55000-on-wednesday.html
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel