ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มูลค่าของเหรียญ ‘ชิบะ’ ร่วงแรงต่อเนื่อง หลังราคาพุ่งสูงขึ้นตลอดเดือน ต.ค. จนติดอันดับ 1 ใน 10 ของเหรียญที่มีมูลค่าสูงสุดของตลาดคริปโทฯ แม้ว่าที่มาของเหรียญจะไม่มีเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์เพียงพอให้เติบโตก็ตาม
หลังจากที่ราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด (5 พ.ย.) ตามรายงานของ CoinMarketCap ราคาเหรียญชิบะ ร่วงลง 25% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ราคา $0.0000469 ซึ่งร่วงลงจากจุดสูงสุดในวันที่ 28 ต.ค. แล้วกว่า 47%
ความผันผวนของราคาทำให้ความสนใจของโลกคริปโทฯ ไปอยู่ที่นักลงทุนรายใหญ่ที่ควบคุมเหรียญมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยมีข่าวว่านักลงทุนรายใหญ่กำลังเทขายเหรียญ ‘ชิบะ’ ทำให้สร้างความปั่นป่วนแก่นักลงทุนรายย่อยที่ถือเหรียญชิบะอยู่
นี่สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะมีความโปร่งใสในตลาดคริปโทฯ ที่ทุกธุรกรรมถูกบันทึกบนบล็อกเชน แต่การไม่เปิดเผยตัวตนของนักลงทุนบางคน รวมถึงผู้สร้างเหรียญ ทำให้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครกำลังทำอะไรกันแน่
Aaron Brown นักลงทุนคริปโทฯ กล่าวว่า แม้การทำธุรกรรมคริปโทจะโปร่งใส แต่การจับคู่ธุรกรรมระหว่างบุคคลไม่ชัดเจน ซึ่งนี่ตรงข้ามกับระบบธนาคารแบบดั้งเดิม ที่ทุกสิ่งไม่ชัดเจน ยกเว้นการระบุตัวบุคคล
Tom Robinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Elliptic กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 พ.ย.) มีการทำธุรกรรม 4 รายการ จากนักลงทุนรายหนึ่งที่ซื้อเหรียญชิบะไว้เมื่อปีที่แล้ว โดยแต่ละครั้งมีการโอนเหรียญชิบะ มูลค่า 695 ล้านดอลลาร์ ไปยังบัญชีอื่น รวมเป็น 2,780 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ มีรายงานระบุว่า Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้รับเหรียญชิบะมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดมาจากผู้สร้างเหรียญ และได้นำเหรียญชิบะไปเผาทิ้งเพื่อขจัดอุปทานหมุนเวียนของเหรียญ
Mike McGlone จาก Bloomberg Intelligence กล่าวว่า ทั้งอุปทานที่จำกัด การกำหนดราคาเหรียญในจุดทศนิยมที่ต่ำมาก โพสต์ต่างๆ บนทวิตเตอร์ และ การมอบเหรียญให้ Vitalik Buterin ล้วนเป็นสาเหตุที่ดึงดูดให้นักลงทุนต้องการเก็งกำไรในเหรียญชิบะ
ชิบะ ไม่ใช่เหรียญแรกที่เกิดความผันผวนจากการไม่ระบุตัวตนของนักลงทุน ก่อนหน้านี้ราคาของ Bitcoin และ Ethereum ก็ได้รับความผันผวนดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการถือครองของนักลงทุนเหล่านี้ลดลง จากการเข้าสู่ตลาดของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันจำนวนมาก โดยคาดว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ทั้งหมด 2,000 บัญชี ที่เป็นเจ้าของ Bitcoin มากกว่า 40%
Antonio Juliano ผู้ก่อตั้ง DeFi exchange dYdX กล่าวว่า ในแอป De-Fi ซึ่งเป็นการสร้างเหรียญเพื่อให้ผู้คนสามารถซื้อขาย หรือกู้ยืมนั้น มีผู้ใช้งานส่วนน้อยเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง โดยบริษัทซื้อขายคริปโทฯ 20-50 แห่ง คือ ผู้ผลักดันปริมาณคริปโทฯ ส่วนใหญ่ในตลาด
Antonio Juliano เสริมว่า นี่ไม่ได้แตกต่างกับการเงินแบบดั้งเดิมเท่าไรนัก เพราะสุดท้ายแล้ว กองทุน Wall Street รายใหญ่ ก็เป็นผู้ผลักดันปริมาณส่วนใหญ่
การขาดกฎระเบียบและการเฝ้าติดตามตลาดอย่างเป็นทางการทำให้เหรียญชิบะยังคงมีความไม่แน่นอน แม้ว่าราคาที่พุ่งสูงขึ้นจะดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากก็ตาม
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel