News Update: หุ้น Facebook ร่วง 5% หลังเวบล่ม 6 ชั่วโมง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก สูญเงิน $7 พันล้าน อดีตพนักงานแฉ “เลือกกำไรก่อนความปลอดภัย”

Facebook เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก หุ้น Facebook ร่วงเกือบ 5% หลัง Facebook, WhatsApp และ Instagram ล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง เมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.)

แพลตฟอร์ม Facebook, WhatsApp และ Instagram หยุดทำงานในช่วงก่อนเที่ยงตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22:30 ตามเวลาไทย โดยมีผู้ใช้งานจำนวนมากเข้ามารายงานปัญหาบน DownDetector กว่า 10.6 ล้านครั้งทั่วโลก

ล่าสุด Facebook, WhatsApp และ Instagram สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระบบยังทำงานได้ไม่เต็มที่ และยังมีรายงานปัญหาจากผู้ใช้งานเกี่ยวกับโพสต์บน Instagram

Facebook กล่าวขอโทษผ่านทาง Twitter ว่า “ ถึงผู้คนและธุรกิจทั่วโลกที่พึ่งพาเรา เราขอโทษ เรากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อกู้คืนการเข้าถึงแอป และยินดีที่จะรายงานว่า ระบบกำลังกลับมาออนไลน์แล้ว ขอบคุณที่อดทนรอ”

Facebook ไม่ได้เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ระบบล่ม แต่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครือข่ายคาดการณ์ว่า สาเหตุเกิดจาก BGP (Border Gateway Protocol) ทำงานผิดพลาด จนเครือข่ายหาทางเข้า DNS (Domain Name System) ไม่เจอ ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกไม่สามารถหา IP Address ของ Facebook ได้

นอกจากนี้ Facebook เผชิญอีกแรงกดดันหลังอดีตพนักงาน Facebook ออกมาเผยข้อมูลว่า Facebook มีนโยบาย ‘เลือกกำไรก่อนความปลอดภัย’

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ต.ค.) Frances Haugen อดีตพนักงานของ Facebook กล่าวในรายการ 60 Minutes บนช่อง CBS ว่า Facebookให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และ Facebook คือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เธอเคยเจอมา

Frances Haugen กล่าวว่า สิ่งที่ปรากฏบน Facebook สร้างความแตกแยกในสังคม และก่อให้เกิดความรุนแรงทางชาติพันธุ์ พร้อมเปิดเผยเอกสารที่ชี้ว่า Instagram เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง

โดย Facebook จะเลือกโพสต์ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานมากที่สุด และกระตุ้นให้เกิดอารมณ์โกรธมากกว่าอารมณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานมีปฏิสัมพันธ์และบริโภคเนื้อหาเหล่านั้นเพิ่มขึ้น

Frances Haugen กล่าวว่า Facebook ใช้อัลกอริทึมเพื่อขยาย Hate Speech หรือ คำพูดแสดงความเกลียดชัง เพื่อสร้าง engagement มากขึ้น เพราะสิ่งนี้สร้างผลกำไรให้แก่บริษัท และเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าแทรกแซงเพื่อจัดระเบียบ Facebook

การล่มของระบบและข่าวเชิงลบดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น Facebook ปรับตัวลง 4.89% เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) หากนับตั้งแต่จุดสูงสุดเดิมกลางเดือน ก.ย. ราคาหุ้นร่วงไปแล้วกว่า 15%

นอกจากนี้ การปรับตัวลงของหุ้น Facebook ทำให้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก CEO และผู้ก่อตั้ง สูญเงินกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้อันดับเศรษฐีที่รวยที่สุดลงมาอยู่อันดับ 5 ในโลกด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 121,600 ล้านดอลลาร์ โดยมีบิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้ง Microsoft แซงหน้ามาอยู่ที่อันดับ 4 แทน

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-10-04/facebook-instagram-whatsapp-having-issues-downdetector?srnd=premium-asia&sref=e4t2werz
https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-10-04/zuckerberg-loses-7-billion-in-hours-as-facebook-plunges?sref=e4t2werz
https://www.voathai.com/a/facebook-whistleblower-says-firm-chooses-profit-over-safety-/6256586.html

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
TSF2024