Citigroup ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น หากเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว และนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น
เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) Citi ได้ปรับลดมุมมองการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เป็น ‘คงน้ำหนักการลงทุน’ (Neutral) โดยมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
Robert Buckland นักกลยุทธ์ตลาดทุน จาก Citi เห็นว่า การปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ล่าสุดอาจเป็นเรื่องชั่วคราว แต่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี จะพุ่งสู่ 2% ภายในปี 2022 จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่เป็นตัวเร่ง
ราคาพันธบัตรได้ปรับตัวขึ้นในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา กดดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลงมาอยู่ที่ 1.18% ท่ามกลางการการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่แย่กว่าคาด
ในขณะที่ ดัชนี S&P 500 อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการกลับมาของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงที่จะถูกขาย เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีสัดส่วนของหุ้นเติบโต (Growth Stock) ในระดับสูง การที่ผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น จึงไม่เป็นผลดีต่อหุ้นเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม Citi มองว่าการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก จะช่วยรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ปัจจัยลบจากการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และ ปัจจัยบวกจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง จะหักล้างกันในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และคาดว่าผลตอบแทนของดัชนี MSCI World จะคงที่ ในกลางปี 2022
ขณะเดียวกัน Citi ได้ปรับเพิ่มมุมมองหุ้นญี่ปุ่นเป็น “Overweight” ด้วยมูลค่าที่ไม่แพง และมีแนวโน้มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ยังคงมุมมองการลงทุนที่เป็นบวก ด้วยคำแนะนำ “Overweight” ในตลาดหุ้นสหราชอาณาจักรเช่นเดิม โดยธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นคือ ธุรกิจการเงิน และกลุ่มวัสดุ
ล่าสุด ผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดการณ์ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ภายในสิ้นปีนี้ อยู่ที่ 1.8% โดยนักวิเคราะห์จาก Citi มองว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะกลับขึ้นมาในระดับ 2% ได้ ในเร็วๆ นี้
ที่มา: Bloomberg
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel