ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นจีนปรับตัวขึ้นแรงหลังปรับตัวลงต่อเนื่องมาตลอดหลายเดือน จนหลายคนอาจเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นจีน?
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความหวังของนักลงทุนว่ารัฐบาลจีนจะเปิดเมืองและผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ส่งผลให้สัปดาห์นี้ ดัชนี Shanghai composite ปรับตัวขึ้นมา 5% ขณะที่ดัชนี Hang Seng ปรับตัวขึ้นมากว่า 8% เป็นการรีบาวด์แรงหลังร่วงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปี ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
จนถึงตอนนี้รัฐบาลจีนยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับนโยบายควบคุมโควิด ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ตรวจหาโควิดเป็นวงกว้าง และจำกัดการเดินทางข้ามเมือง
Zhiwei Zhang ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดเมื่อเช้าวันศุกร์ (4 พ.ย.) เกิดจากความหวังที่ว่าจีนจะเปิดเมืองเร็วกว่าคาด ขณะที่หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของศูนย์ป้องกันและเฝ้าระวังโรคระบาดของจีนยังส่งสัญญาณว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว
สำนักข่าว Cailian Press ของจีนรายงานว่า รัฐบาลจีนน่าจะแถลงการณ์ในช่วงบ่ายของวันเสาร์ (5 พ.ย.) เกี่ยวกับการควบคุมโควิดและมาตรการป้องกันต่างๆ
การควบคุมโควิดอย่างเข้มงวดได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนที่ตลอด 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ โตแค่ 3% จากปีที่แล้ว เหล่านักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกต่างพากันหั่นคาดการณ์ GDP ของจีนเพราะรัฐบาลยังคงยึดติดกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในเวลาที่ทั่วโลกเริ่มอยู่กับโควิดเแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ระบุจุดสิ้นสุดของการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวดในเดือน ก.ย. ขณะที่ตลอดสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จีนได้ออกมาพูดถึงโควิด ว่าไวรัสมีข้อจำกัดในตัวเองและสามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังระบุว่า การกักตัวยังป็นสิ่งที่จำเป็น ขณะที่
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบไดนามิก
Bruce Pang หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และฝ่ายวิจัยของ Greater China at JLL กล่าวว่า สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดถูกส่งมาแล้ว โดยในระยะสั้น จีนจะยังคงยึดติดกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แต่ในระยะยาว จีนจะควบคุมโควิดด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์และกำหนดเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การยืดหยุ่นและผ่อนคลายมาตรการในอนาคต แต่ Bruce Pang ไม่คิดว่ารัฐบาลจีนจะยกเลิกมาตรการจนกว่าจะถึง มิ.ย. 2023
อ้างอิง:
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel