สหรัฐฯ เตือน จีนกำลังขยายฐานคลังอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้จีนมีหัวรบนิวเคลียร์ 700 ลูก ภายในปี 2027 และอาจถึง 1,000 ลูก ภายในปี 2030 สูงกว่าที่สหรัฐฯ คาดการณ์เมื่อปีที่แล้วถึง 2.5 เท่า จีนตอบโต้ “หยุดมโน”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการขยายกองกำลังนิวเคลียร์ ทั้งการเพิ่มจำนวนฐานปล่อยนิวเคลียร์ทางบก ทะเล และอากาศ รวมถึงการเตรียมก่อสร้างทุ่งไซโลสำหรับเก็บขีปนาวุธเพิ่มอย่างน้อย 3 แห่ง ซึ่งจะสามารถเก็บอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปได้อีกหลายร้อยลูก
จีนกำลังสร้างคลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ที่สมบูรณ์ (nuclear triad) เช่นเดียวกับมหาอำนาจนิวเคลียร์ชั้นนำของโลกอย่างสหรัฐฯ และรัสเซีย โดยรายงานระบุว่า จีนไม่ได้ต้องการโจมตีทางนิวเคลียร์แบบไร้เหตุผล แต่แค่ต้องการป้องกันการโจมตีจากชาติอื่นๆ
เมื่อปีที่แล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รายงานว่า จีนมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ที่ 200 ลูก และจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม ช่องว่างของคลังอาวุธยังคงห่างกับสหรัฐฯ โดยในปัจจุบัน สหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ทั้งหมด 3,750 ลูก
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกิดคำถามเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของกองกำลังนิวเคลียร์จีน หลังนักวิจัยอิสระเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมที่ระบุว่าเป็นโรงเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์แห่งใหม่ในภาคตะวันตกของจีน ทำให้สหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนแสดงความโปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า จีนคือความกังวลหลักในด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในขณะที่ จีนเดินหน้าสร้างกองทัพจีนให้กลายเป็นกองกำลังระดับโลกภายในปี 2049 เพื่อประกาศแสนยานุภาพแก่ทั่วโลก เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ ทำมาตลอดหลายทศวรรษ
รายงานล่าสุดระบุว่า การปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยอย่างเร่งด่วนของจีน เกิดจากความต้องการที่จะห้ามปรามและยับยั้งอำนาจจากบุคคลที่ 3 โดยเฉพาะสหรัฐฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายการรวมไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ ภายในปี 2027
เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) มาร์ค มิลลีย์ นายพลระดับสูง เตือนว่า ความก้าวหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกตะลึงของจีน ส่งผลให้โลกเข้าสู่ยุคที่ไร้เสถียรภาพทางยุทธศาสตร์มากขึ้น และทุกคนในโลกคือประจักษ์พยานในการเปลี่ยนแปลงอำนาจยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดทีเคยมีมา
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ออกมาตอบโต้รายงานดังกล่าวของสหรัฐฯ ระบุว่า “สหรัฐฯ ควรหยุดสร้างภาพมโนให้จีนเป็นภัยคุกคามในจินตนาการ” ซึ่งการเพิ่มขึ้นของอาวุธยุทโธปกรณ์มีเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น โดยจีนไม่มีนโยบายเป็นผู้เริ่มต้นยิงก่อน สำหรับอาวุธนิวเคลียร์
อ้างอิง:
https://mgronline.com/around/detail/9640000109228
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel