หุ้นของ Tesla ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันพฤหัสบดี หลังจากรายงานระบุว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทในจีนลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในเดือนพฤษภาคม โดยหุ้น Tesla ลดลงแล้วมากกว่า 30% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
หุ้น Tesla ร่วงลงหลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เปิดเผยการเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 และ Y มากกว่า 5,500 คัน เนื่องจากพบข้อบกพร่องของเข็มขัดนิรภัย ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสุทธิรายเดือนของ Tesla ในจีนลดลงเหลือ 9,800 รายการในเดือนพฤษภาคมจากมากกว่า 18,000 รายการในเดือนเมษายนตามข้อมูลจาก The Information
Dan Levy นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse Group AG กล่าวเมื่อวันพุธว่า ส่วนแบ่งการตลาดของ Tesla ในการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกลดลงในเดือนเมษายน โดยเสริมว่าบริษัทเริ่มสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในจีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ด้าน Junheng Li ซีอีโอของ JL Warren Capital กล่าวในอีเมลถึง CNBC ว่า แม้ว่า Tesla จะไม่ได้พูดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก PR Crisis ในจีน แต่เธอคาดว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อ Tesla อย่างมีนัยสำคัญ
“เราเห็นถึงผลกระทบที่ชัดเจนต่อการสร้างแบรนด์ ยอดสั่งซื้อ และการส่งมอบของ Tesla ในเดือนต่อๆ ไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากระบุได้อย่างแม่นยำว่าความต้องการที่ลดลงนั้นเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ Tesla หรือการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากผู้ผลิตรถยนต์ในจีน” เธอกล่าว
ทางด้านโรงงานในเซี่ยงไฮ้ของ Tesla คาดว่าจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 500,000 คันต่อปีสำหรับการส่งมอบในจีนและส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียและยุโรป
ที่มา: CNBC, Bloomberg
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel