เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) หุ้น Meta ร่วงแรงกว่า 20% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังบริษัทเผยผลประกอบการน่าผิดหวัง
รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัท
- กำไรต่อหุ้น (EPS): $3.67 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ $3.84
- รายได้: 33,670 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ 33,400 ล้านดอลลาร์
- จำนวนผู้ใช้งานต่อวัน: 1,930 ล้านคน ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 1,950 ล้านคน
- จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน: 2,910 ล้านคน ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2,950 ล้านคน
- รายได้ต่อผู้ใช้: $11.57 สูงกว่าคาดการณ์ที่ $11.38
นอกจากรายงานผลกำไรและตัวเลขผู้ใช้งานที่น่าผิดหวังแล้ว Facebook ยังคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 27,000-29,000 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 3-11% (YoY) ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของ Refinitiv ที่ 30,150 ล้านดอลลาร์
Facebook ที่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Meta กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นส่วนตัวบน iOS ของ Apple และความท้าทายด้านเศรษฐกิจมหภาค พร้อมกล่าวโทษการเติบโตที่ต่ำกว่าคาดว่าเป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อและซัพพลายเชนที่ส่งผลกระทบต่องบประมาณของผู้ลงโฆษณา
นอกจากนี้ Meta ยังพบว่า พฤติกรรมของผู้ใช้งานเปลี่ยนไป โดยในแพลตฟอร์ม Instagram ผู้คนใช้เวลากับ Reels มากขึ้น ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ได้สร้างรายได้มากเท่าหน้าฟีดหลักหรือสตอรี่
ผลประกอบการในไตรมาส 4 ของ Meta ถือว่าไม่ดีนักเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ Alphabet รายงานงบดีเกินคาด และรายได้โตถึง 33% ขณะที่ Apple และ Microsoft รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาดเช่นกัน
ตอนนี้ Meta เผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบ และยังต้องพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ไปสู่โลกเสมือนจริง Metaverse ในขณะเดียวกัน Meta ยังต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น TikTok และ YouTube ที่ได้รับความนิยมมากกว่าในกลุ่มผู้ใช้งานอายุน้อย
ราคาหุ้นที่ร่วงกว่า 20% อาจทำให้มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก สูญเงินถึง 24,000 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 97,000 ล้านดอลลาร์ จาก 120,600 ล้านดอลลาร์ และนั่นจะทำให้เขาหลุด 10 อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.ค. 2015
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2022/02/02/facebook-parent-meta-fb-q4-2021-earnings.html
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel