Barclays เปิดผลการศึกษาระบุว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เก็บค่าธรรมเนียมสูง ซึ่งมักเป็นบริษัทชื่อดังในอุตสาหกรรม มักมีแนวโน้มทำผลตอบแทนได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เก็บค่าธรรมเนียมถูกกว่าเมื่อเวลาผ่านไป
Barclays ศึกษาค่าธรรมเนียมและผลตอบแทนสูงสุดจากทั้งหมด 290 กองทุน ช่วงปี 2019 – 2022
ผลที่ออกมาอาจเป็นการลบคำสบประมาทกองทุนค่าธรรมเนียมแพงที่ถูกวิจารณ์มาตลอด
ผลการศึกษาพบว่า กองทุนที่ดูแลโดยผู้จัดการกองทุนหลายคนที่เก็บค่าธรรมเนียมเต็มรูปแบบทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ค่าตอบแทนของผู้จัดกองทุน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ สามารถสร้างผลตอบแทนสุทธิและอัลฟ่า (ผลตอบแทนที่เกินกว่าดัชนีชี้วัด) ได้มากกว่าคู่แข่งที่เก็บค่าธรรมเนียมบางส่วนหรือไม่เก็บเลย
Roark Stahler จาก Barclays อธิบายว่า บริษัทชื่อดังมีทั้งทีมผู้จัดการกองทุนหลายคน ภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการจ้างคนเก่ง การเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้มากกว่า และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือต้นทุน
ต้นทุนเหล่านั้นได้ถูกส่งต่อไปเป็นค่าใช้จ่ายของนักลงทุน นอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับบริษัทแล้ว นี่ยังแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยินดีที่จะจ่ายเพราะพวกเขาคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าหลังหักค่าธรรมเนียมแล้ว
นอกจากนี้ การศึกษายังพบว่ากองทุนแบบดั้งเดิมที่มีผู้จัดการกองทุนเพียงคนเดียวและเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าก็สามารถสร้างผลตอบแทนสุทธิและอัลฟ่าได้สูงกว่าคู่แข่งที่เก็บค่าธรรมเนียมต่ำกว่าเช่นกัน
ผลตอบแทนที่สูงขึ้นทำให้ค่าธรรมเนียมแพงขึ้นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ค่าธรรมเนียมสูงนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีขึ้น เพราะถ้าไม่มีผลงานและความสม่ำเสมอ บริษัทก็จะไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่แพงขึ้นได้
ช่วงที่ผ่านมา เฮดจ์ฟันด์รายใหญ่หลายรายได้ขึ้นค่าธรรมเนียม โดยในปี 2019 Element Capital Management ได้เพิ่มค่าธรรมเนียมตามผลงานที่มีชื่อเสียงจาก 25% เป็น 40% ของกำไร
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel