เจอโรม พาวเวลล์ ประานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินเข้มงวด และยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น หลังเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่รุนแรง
ประธาน Fed มองว่า การปรับลดวงเงิน QE สามารถทำได้เร็วกว่าเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นแผนการเดิมที่ประกาศไว้เมื่อต้นเดือน พ.ย.
Jerome Powell กล่าวว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น จึงถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่ Fed จะยุติมาตรการ QE ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยจะมีการหารือประเด็นดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งหมายถึงการประชุมในเดือน ธ.ค. นี้
ตามกำหนดเดิม QE Tapering จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. ของปีหน้า แต่หาก Fed เพิ่มอัตราเร่งในการลดวงเงิน ตลาดอาจได้เห็นการสิ้นสุดมาตรการ QE ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ของปีหน้า ซึ่งหมายความว่า Fed จะมีความยืดหยุ่นในการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น
ตลาดหุ้นร่วงตอบรับความเห็นของประธาน Fed ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่าทีของ Jerome Powell ทำให้ตลาดเกิดความกังวลมากขึ้นต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน แม้จะมีรายงานระบุว่า สายพันธุ์ใหม่ไม่ได้มีความรุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้า
ในการประชุมเดือน พ.ย. Fed ระบุว่าจะเริ่มลดวงเงิน QE ในปลายเดือน พ.ย. เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อจำนองค้ำประกันเดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในรายงานการประชุมที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการ Fed ระบุว่า พร้อมที่จะปรับความเร็วในการลดวงเงิน QE หากแนวโน้มเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง และพร้อมขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง
Jerome Powell ยังคงเน้นย้ำว่า QE Tapering ไม่ใช่สัญญาณในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยยังไม่ได้ระบุว่าจะเพิ่มวงเงินลด QE ที่เท่าไร ด้านนักเศรษฐศาตร์ของ Citigroup คาดว่า Fed อาจลดวงเงิน QE สูงถึงเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 เท่าของแผนการเดิม
นักลงทุนคาดว่าจะได้เห็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5% ในปี 2022 ขณะที่การคาดการณ์ของคณะกรรมการ Fed เป็นไปในทิศทางที่ผ่อนคลายกว่า โดยคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นการประชุมเดือนนี้
ก่อนหน้านี้ ประธาน Fed ยืนกรานมาตลอดว่าเงินเฟ้อเป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราว อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในเดือน ต.ค. พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี
Jerome Powell กล่าวว่า คำว่า ‘ชั่วคราว’ มีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละคน บางคนมองว่ามันหมายถึงระยะสั้น แต่ Fed ใช้คำว่าเงินเฟ้อชั่วคราวเพื่อหมายถึงการไม่ทิ้งรอยแผลเป็นต่อเศรษฐกิจ ซึ่งนี่คงถึงเวลาที่จะเลิกใช้คำดังกล่าว และพยายามอธิบายให้ชัดเจนว่า Fed ต้องการสื่อถึงอะไร
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel