FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 22/06/2021
“Moody’s เตือนหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน 10%-20% Invesco มองเป็นโอกาสซื้อ”
ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones +586.89 จุด (+1.76%) S&P500 +58.34 จุด (+1.40%) Nasdaq +111.10 จุด (+0.79%) Small Cap 2000 +47.65 จุด (+2.13%) VIX index อยู่ที่ 17.89 (-13.57%) sector ที่ปรับตัวได้ดีของ S&P500 เมื่อวาน คือ Energy, Financials และ Industrials ขณะที่ผลตอบแทน 1 เดือน Real Estate, Info Tech และ Energy เป็น sector ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยกลุ่มที่มีการปรับประมาณการกำไรเพิ่มสูงที่สุด คือ Energy, Consumer Discretionary, Materials และ Industrials
ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 +28.69 จุด (+0.71%) Dax เยอรมัน +155.20 จุด (+1.00%) CAC 40 ฝรั่งเศส +33.38 จุด (+0.51%)
ตลาดหุ้นเอเชียล่าสุด (เช้าวันที่ 22 มิ.ย. 2564) ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดซื้อขายในแดนบวกประมาณเกือบ 3% ขณะที่ตลาดหุ้นจีน CSI300 เคลื่อนไหวในแดนบวก ตลาดหุ้นฮ่องกงติดลบเล็กน้อย และ SET Index เปิดปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5%
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 22 มิ.ย. 2564) ราคาทองคำ 1,788.30 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Silver ราคา 26.04 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 73.20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 75.15 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน แต่เริ่มมีการย่อตัวลง
ราคา Cryptocurrency (เช้าวันที่ 22 มิ.ย. 2564) Bitcoin 32,860.7 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Ethereum 1,967.9 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Binance Coin 287.65 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Dogecoin 0.20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
คาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี ลดลงจากจุดสูงสุงช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจากประมาณ 2.72 มาอยู่ที่ 2.41 สอดคล้องกับ Bond Yield 10 ปีที่ลดลงจากประมาณ 1.6 มาอยู่ที่ 1.47
American Airlines ประกาศยกเลิกเที่ยวบินในประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีพนักงานไม่พอ
ส่วนต่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมัน WTI 3 และ 4 เพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ปี 2013 มีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจจะขึ้นไปแตะ 80 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 3 – 4 ปีนี้
ประธาน FED มีมุมมองว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยชั่วคราว โดยยังคงระมัดระวัง COVID-19 ว่ายังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ
Ray Dalio ออกมาแสดงกังวลถึงแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดในอนาคต ว่าอาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อตลาดหุ้นได้ โดยคาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะค่อยๆ ปรับตัวลดลงในระยะยาว
Moody’s Analytics เตือนว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ โอกาสปรับฐาน 10 – 20% ขณะที่ Invesco ออกมาให้ความเห็นว่า ถ้าเกิดการปรับฐานมาจริง จะเป็นโอกาสในการเข้าไปลงทุน
Max drawdown ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูงที่สุดตั้งแต่ปี 1980 คือ -48% ในปี 2008 และ –34% ในปี 2020 สำหรับปีที่ไม่เกิดวิกฤติ ค่า Max drawdown อยู่ที่ประมาณ 6 – 10%
นโยบายการเงินของสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะไม่ยกเลิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังจะเกิดขึ้น ปัจจุบัน ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei225) ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม 2020 ประมาณ 82%
Sector ในดัชนี TOPIX ที่ปรับตัวได้ดีที่สุดในรอบ 1 เดือน คือ Transportation Equip และ Land Trans กลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด คือ Banks และ Insurance หากนับตั้งแต่ต้นปีกลุ่มที่ปรับตัวได้ดีที่สุด คือ Transport Equip และ Bank และมีติดลบเพียงกลุ่มเดียว คือ Pharmaceutical กลุ่มที่มีการปรับประมาณกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ Land Trans และ Transportation Equip ขณะที่ Relative P/E ของ TOPIX ยังดูถูกเมื่อเทียบกับ S&P500 ตัวเลข Citi Economics Surprise Index ปรับตัวขึ้นสูงมาก ส่วนเงื่อนไขในการดำเนินนโยบายทางการเงินอยู่ในทิศทางผ่อนคลาย
คาดการณ์ GDP ของญี่ปุ่นไตรมาส 2 จะปรับตัวขึ้นดีกว่าไตรมาส 1 และระยะยาวจะอยู่ที่ประมาณ 2 – 3%
ทางการจีนยังคงควบคุม cryptocurrency อย่างต่อเนื่อง โดยเรียกผู้ให้บริการทางการเงินเข้าพบ เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้ให้ความช่วยเหลือหรือทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับ cryptocurrency ส่งผลลบต่อราคา cryptocurrency
ธนาคารระดับโลกโดยภาพรวม ยังไม่ได้เปิดให้การทำธุรกรรมเกี่ยวกับ cryptocurrency มากเท่าไหร่ โดย Morgan Stanley เปิดให้ลูกค้า wealth สามารถลงทุนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ cryptocurrency ได้ และมี 4 ธนาคาร ประกอบด้วย JPMorgan, Goldman Sachs, Morgan Stanley และ Citigroup ที่เปิดให้สามารถทำการลงทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบน cryptocurrency ได้ ส่วน Credit Suisse, BNP Paribas และ HSBC ยังไม่ได้เปิดทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrency ณ ปัจจุบัน
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในไทยอยู่ที่ 4,059 ราย (ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,984 จากในเรือนจำ 75 ราย) เสียชีวิตเพิ่ม 35 คน ผู้หายป่วยกลับบ้าน 2,047 ราย หายป่วยสะสม 160,410 ราย ยอดฉีดวัคซีนรายวัน 20 มิ.ย. ลดลงต่ำกว่า 1 แสนราย คาดการณ์ว่ากนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายต่อไป และน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยถึงปีหน้า ตัวเลขการส่งออกและนำเข้าเริ่มฟื้นตัว การฟื้นตัว GDP รายไตรมาสจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากไตรมาส 3 ปี 2021 เป็นต้นไป
The Opportunity
PRINCIPAL APDI ภูมิภาค Developing Asia มีความน่าสนใจเพราะ GDP จะเติบโต 7.3% ในปี 2021 และ 5.3% ในปี 2022 กองทุนนี้ลงทุนในกองทุนหลัก คือ Principal Asia Pacific Dynamic Income Fund หุ้นที่มีสัดส่วนมากที่สุด 5 อันกับแรก TSMC (5.98%) Samsung Electronics (5.81%) LG Chem (4.48%) Tencent Hldg (4.20%) และ Alibaba Group Holding (3.38%) สัดส่วน sector สูงที่สุด คือ Information Technology รองลงมาคือ Industrials ภูมิภาคที่ไปลงทุนมีสัดส่วนในฮ่องกงมากที่สุด รองลงมาคือไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ +36.79% ทำได้ดีกว่า MSCI Asia Pacific ที่ +28.42% จุดเด่น คือ มุ่งหาผลตอบแทนส่วนเกิน Alpha และตั้งใจจะสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 8% จะมีความ active ในการปรับพอร์ต ไม่ยึดตามดัชนี และมีลักษณะ balance ระหว่างความมั่นคงและการเติบโต 3D Diagram ค่อนข้างเด่นในเรื่อง Max Drawdown และ Risk Adjusted Return