FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 28/02/2022

“รัสเซียโดนชาติตะวันตกคว่ำบาตร แบงค์ถูกตัดจากระบบชำระเงิน SWIFT เอกชน – กองทุน แห่ขายหุ้น”

ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones ปิดที่ 34,058.75 +834.92 จุด (+2.51%) S&P500 ปิดที่ 4,384.62 +95.92 จุด (+2.24%) Nasdaq 13,694.62 ปิดที่ +221.04 จุด (+1.64%) Small Cap 2000 ปิดที่ 2,036.69 +40.69 จุด (+2.04%) VIX index อยู่ที่ 27.59 (-9.00%)

ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3,970.69 +141.40 จุด (+3.69%) Dax เยอรมนี ปิดที่ 14,567.23 +515.13 จุด (+3.67%) CAC 40 ฝรั่งเศส ปิดที่ 6,752.43 +231.38 จุด (+3.55%) FTSE 100 อังกฤษ ปิดที่ 7,489.46 จุด +282.08 จุด (+3.91%)

ตลาดหุ้นเอเชีย (ราคาปิดวันทำการล่าสุด) Nikkei 225 ญี่ปุ่น ปิดที่ 26,476.50 จุด +505.68 จุด (+1.95%) CSI 300 จีน ปิดที่ 4,573.42 จุด +44.11 จุด (+0.97%) Hang Seng ฮ่องกง ปิดที่ 22,767.18 จุด -134.38 จุด (-0.59%) SET Index ไทย ปิดที่ 1,679.90 จุด +17.18 จุด (+1.03%) VN30 เวียดนาม ปิดที่ 1,526.50 จุด +4.46 จุด (+0.29%)

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 28 ก.พ. 2565) ราคาทองคำ 1,909.75 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Silver ราคา 24.385 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 96.55 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 98.95 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคา Cryptocurrency (เช้าวันที่ 28 ก.พ. 2565) Bitcoin 37,851.4 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Ethereum 2,614.79 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และ Binance Coin 363.81 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาพรวมสินทรัพย์ทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – ราคาน้ำมัน (+6.1%), Global REIT (+1.1%) และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (+1.0%) ปรับตัวในทิศทางลบ – หุ้นตลาดเกิดใหม่ (-3.9%), พันธบัตรตลาดเกิดใหม่ (-2.4%) และหุ้นญี่ปุ่น (-2.3%)

ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – ดัชนี Nasdaq (+1.1%), ดัชนี S&P500 (+0.9%) และดัชนี FTSE100 อังกฤษ (+0.3%) ปรับตัวในทิศทางลบ – หุ้นจีน H-Shares (-5.8%), ดัชนี MSCI Asia ex. Japan (-4.1%) และ MSCI EM. (-3.9%)

ภาพรวม sector ใน S&P500 ที่ปรับตัวบวกสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก – Real Estate (+2.7%), Health Care (+2.7%) และ Utilities (+2.2%) ปรับตัวในทิศทางลบ – Consumer Discretionary (-2.1%), Consumer Staples (-0.3%) และ Financials (-0.2%)

สัปดาห์นี้ติดตามผลประกอบการของ Zoom, Sea Group และ Baidu เป็นต้น

สงครามรัสเซีย – ยูเครน เข้าสู่วันที่ 5 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งกองกำลังนิวเคลียร์ให้มีการเตรียมความพร้อม ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่าคณะผู้แทนของยูเครนจะมีการพบปะกับผู้แทนของรัสเซีย ขณะที่ชาติตะวันตกบางประเทศมีการส่งอาวุธเข้าไปให้รัสเซีย ประเทศยุโรปหลายประเทศประกาศแบนสายการบินของรัสเซียไม่ให้บินผ่านน่านฟ้าของยุโรป

BBC ทำการวิเคราะห์เหตุผลที่สหรัฐฯ ไม่สงทหารเข้าร่วมสงครามนี้ประกอบด้วย 4 ข้อ คือ พื้นที่ยูเครนไม่มีผลประโยชน์ต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ, ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ต้องใช้มาตรการแทรกแซงทางการทหาร, ประชาชนชาวอเมริกาไม่ต้องการสงคราม การส่งทหารเข้าสู่สงครามนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของตัวเอง และการเลือกเผชิญหน้ากับรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านการทหาร มีโอกาสก่อให้เกิดสงครามที่รุนแรงขึ้นสูง

ประเทศตะวันตกเตรียมออกมาประกาศตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งถูกก่อตั้งโดยธนาคารกลางประเทศต่างๆ การถูกตัดออกจากระบบนี้ จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของรัสเซีย ทำให้บริษัทต่างๆ ไม่สามารถทำธุรกรรมอย่างทันท่วงที การทำธุรกรรมจะไม่มีความราบรื่น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบอาจจะเกิดกับประเทศที่ทำการค้าขายกับรัสเซียได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีประกาศมาตรการอื่นๆ อาทิ การใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารรัสเซียใช้กองทุนสำรองระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินการจำกัดการออกหนังสือเดินทางให้กับเศรษฐีชาวรัสเซีย มีการตั้งคณะกรรมการระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อมุ่งเป้าไปที่สินทรัพย์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย

รัสเซียมีการลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2018 และมีการถือครองสกุลเงินยูโรและหยวนเพิ่มมากขึ้น

คะแนนความนิยมของประธนาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จัดทำโดย Levada Center พบว่าคะแนนความนิยมยังได้รับความนิยมที่ดี ไม่ได้ลดลงจากสถานการณ์นี้

BP ประกาศขายหุ้นบริษัทน้ำมันของรัสเซีย Rosneft จำนวน 19.75% พร้อมกับการประกาศลาออกของ CEO คุณ Bernard Looney นอกจากนี้ยังมีกองทุนนอร์เวย์ประกาศขายหุ้นรัสเซีย 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั่วโลกแห่บริจาค Bitcoin ให้ยูเครนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนคุณ Elon Musk ประกาศเปิดระบบอินเตอร์เน็ต ‘Starlink’ เพื่อให้ประชาชนชาวยูเครนได้ใช้อินเตอร์เน็ตในภาวะนี้

Berkshire Hathaway รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 45% YoY ประกาศซื้อหุ้นคืนคิดเป็นเงินกว่า 7 พันล้านดออลาร์สหรัฐฯ หุ้น Berkshire Hathaway ทำผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่ปี 1965 – 2021 อยู่ที่ 20.1% ชนะดัชนีและกองทุนต่างๆ จำนวนมาก หุ้น 5 อันดับแรกที่ถือ นับตามมูลค่าตลาด คือ Apple, Bank of America Corp., American Express, Coca-Cola และ Kraft Heinz ปัจจุบันหุ้นที่ทำกำไรมากที่สุด คือ หุ้น Apple ในปี 2021 บริษัทมีการจ่ายภาษี 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ผู้ติดเชื้อรายวันของไทยยังอยู่ในระดับสูงเกินกว่า 2 หมื่นราย ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 42 รายต่อวัน อัตราการตรวจพบเชื้ออยู่ที่ 31.29%