FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 27/12/2021

“จีน-อินเดีย เตรียมผงาด เศรษฐกิจแซงหน้าชาติตะวันตก มูลค่าเศรษฐกิจโลก จะทะลุ 100 ล้านล้านดอลลาร์ ครั้งแรกในปี 2022”

ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการซื้อขาย

ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 และ Dax เยอรมัน ปิดทำการซื้อขาย CAC 40 ฝรั่งเศส ปิดที่ 7,086.58 -19.57 จุด (-0.28%)

ตลาดหุ้นเอเชีย (ราคาปิดวันทำการล่าสุด) ดัชนี Nikkei 225 ปิดที่ 28,782.59 -15.78 จุด (-0.05%) ดัชนี CSI 300 ปิดที่ 4,921.34 -27.39 จุด (-0.55%) ดัชนี Hang Seng ปิดทำการซื้อขาย และ SET Index ปิดที่ 1,637.22 -4.25 จุด (-0.26%)

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 24 ธ.ค. 2564) ราคาทองคำ 1,810.75 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Silver ราคา 22.82 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 73.22 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 76.00 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคา Cryptocurrency (เช้าวันที่ 24 ธ.ค. 2564) Bitcoin 51,062.8 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Ethereum 4,081.02 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และ Binance Coin 548.11 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาพรวมสินทรัพย์ทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว (+3.5%), ราคาน้ำมันและหุ้นโลก (+3.4%) และ หุ้นยุโรป (+3.3%) ปรับตัวในทิศทางลบ – พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (-0.5%), ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (-0.5%) และหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับลงทุนของสหรัฐฯ (-0.4%)

ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – ดัชนี MSCI World (+3.5%), ดัชนี Euro STOXX 600 (+3.3%) และดัชนี Nasdaq (+3.2%) ปรับตัวในทิศทางลบ – ดัชนี IBOVA บราซิล (-2.3%) และดัชนี PCOMP Index ฟิลิปปินส์ (-0.7%)

ภาพรวม sector ใน S&P500 ที่ปรับตัวบวกสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก – Consumer Discretionary (+3.8%), Information Technology (+3.3%) และ Communication Services (+2.5%)

ดัชนี S&P500 ปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ถึง 68 ครั้ง สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995

วันนี้เป็นวันหยุดเต็มวันของตลาดหุ้นออสเตรเลีย แคนาดา ฮ่องกง นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร

ไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ แพร่กระจายแล้วกว่า 114 ประเทศและเขตปกครอง อังกฤษและฝรั่งเศสพบตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมาก ในสหรัฐฯ ‘โอมิครอน’ กลายมาเป็นสายพันธุ์หลักประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ จีนพบตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดใหม่ในรอบเกือบ 2 ปี

BBC ทำการรวบรวมสรุปข่าวดีและร้ายของ ‘โอมิครอน’ ข่าวดี คือ สถานการณ์ปีนี้ดีกว่าปีแล้ว ในเรื่องของการฉีดวัคซีน และงานวิจัยหลายแห่งพบว่าความรุนแรงโดยส่วนใหญ่น้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า แต่ยังต้องติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติม ส่วนข่าวร้าย คือ การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้มีโอกาสที่ทำให้โรงพยาบาลต้องรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น รวมถึงผู้ที่เคยฉีดวัคซีน และผู้ที่เคยติดเชื้อก่อนหน้า ยังสามารถติดเชื้อสายพันธุ์นี้ได้

ยอดขายช่วงเทศกาลคริสมาสต์ของสหรัฐฯ รวบรวมโดย Master Card เพิ่มขึ้นจากปีแล้ว 8.5% มากที่สุดในรอบ 17 ปี สินค้าที่การซื้อเยอะ เช่น พวกร้านค้า หรือเครื่องประดับ และผู้คนเริ่มมีการไปซื้อสินค้าที่ร้านค้ามากขึ้น

ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้น มีการเสริมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ เช่น การลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ การลดอัตราดอกเบี้ยของลูกค้าชั้นดี ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และเข้าไปดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น

ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่จะไม่ส่งรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงภาครัฐ เข้าร่วมงานกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวที่จีน แต่นักกีฬายังเข้าร่วมการแข่งขันอยู่

คณะกรรมการดูแลหลักทรัพย์จีน (CSRC) ร่างกฎหมายให้บริษัทที่ขอจดทะเบียนในต่างประเทศ อยู่ในกรอบการทำงานที่รับรองได้ว่าบริษัทเหล่านั้นจะปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อระเบียบของรัฐบาลจีน จากที่ก่อนหน้าที่ ไม่ได้มีกฎหมายลักษณะนี้

ค่าเงินหยวนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ สูงที่สุดในรอบตั้งแต่ปี 2018 คาดการณ์ GDP จีนโดย Bloomberg ปี 2021 เติบโต 8% และปี 2022 เติบโต 5.2%

EPS และราคาของ CSI300 เมื่อเทียบกับ S&P500 ยัง underperform ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ MSCI China ขณะที่ Hang Seng Tech ราคายัง underperform เมื่อเทียบกับ Nasdaq 100 แต่ EPS เริ่มมีทิศทางที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อย

ค่า P/E เมื่อเทียบกับ MSCI ACWI – CSI 300 อยู่ที่ระดับ +1.2 S.D. MSCI China อยู่ที่ระดับ -2 S.D. และ Hang Seng Tech อยู่ที่ระดับ -1.3 S.D.

ค่า P/E เมื่อเทียบกับ S&P500 – CSI 300 อยู่ที่ระดับต่ำกว่า +0.7 S.D. เล็กน้อย MSCI China อยู่ที่ระดับติดลบมากกว่า -2 S.D. และ Hang Seng Tech อยู่ที่ระดับ -1.6 S.D.

Fund Flow ต่างชาติเข้าลงทุนในดัชนี CSI300 มาตั้งแต่ปี 2016 แต่มีแรงผันผวนปรับลดลงบ้างเป็นระยะ

CEBR คาดการณ์ในปีหน้า เศรษฐกิจโลกจะมีมูลค่าทะลุ 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สาเหตุมาจากการฟื้นตัวจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การรับมือกับสถานการณ์เงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มขึ้น ภายในปี 2030 มูลค่าเศรษฐกิจจีน จะแซงหน้าสหรัฐฯ ปี 2022 อินเดียจะมีมูลค่าเศรษฐกิจแซงหน้าฝรั่งเศส และในปี 2031 อินเดียจะมีเศรษฐกิจใหญ่ขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่เยอรมันจะมีขนาดเศรษฐกิจแซงหน้าญี่ปุ่นในปี 2023 ปัญหาสภาพอากาศเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในรายใหม่ไทยอยู่ที่ 2,437 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย หายป่วยกลับบ้าน 3,845 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,212,407 ราย หายป่วยสะสม 2,156,373 ราย

ผู้ที่สนใจตลาด cryptocurrency ติดตามชมรายการ Mr.Messenger Talk ‘คลิปเดียวจบ มือใหม่ เข้าใจโลกคริปโทฯ ใน 1 ช.ม.!’ ย้อนหลังได้ในช่อง YouTube