FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 01/11/2021
“หุ้นญี่ปุ่นพุ่ง รับข่าวพรรค LDP ชนะเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลต่ออีกสมัย”
ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones ปิดที่ 35,819.56 +89.08 จุด (+0.25%) S&P500 ปิดที่ 4,605.38 +8.96 จุด (+0.19%) Nasdaq 15,498.40 ปิดที่ +50.27 จุด (+0.33%) Small Cap 2000 ปิดที่ 2,296.69 -1.29 จุด (-0.06%) VIX index อยู่ที่ 16.26 (-1.63%)
ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 ปิดที่ 4,250.56 +16.69 จุด (+0.39%) Dax เยอรมัน ปิดที่ 15,688.77 -7.56 จุด (-0.05%) CAC 40 ฝรั่งเศส ปิดที่ 6,830.34 +26.12 จุด (+0.38%)
ตลาดหุ้นเอเชีย (ราคาปิดวันทำการล่าสุด) ดัชนี Nikkei 225 ปิดที่ 28,892.69 + 72.60 จุด (+0.25%) ดัชนี CSI 300 ปิดที่ 4,908.77 + 44.63 จุด (+0.92%) ดัชนี Hang Seng ปิดที่ 25,377.24 -178.49 จุด (-0.70%) และ SET Index ปิดที่ 1,623.43 -0.88 จุด (-0.05%)
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 1 พ.ย. 2564) ราคาทองคำ 1,786.55 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Silver ราคา 23.898 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 83.17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 83.44 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
ราคา Cryptocurrency (เช้าวันที่ 1 พ.ย. 2564) Bitcoin 60,305.2 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Ethereum 4,220.71 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Dogecoin 0.268525 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Binance Coin 517.75 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
ภาพรวมสินทรัพย์ทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 เดือน 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – น้ำมัน (+9.3%), ดัชนี S&P500 (+5.8%) และ Global REITs (+5.4%) ปรับตัวในทิศทางลบ – พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (-0.4%), หุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับลงทุนของสหรัฐฯ (-0.3%) และหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับน่าลงทุน (-0.2%)
ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 เดือน 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – เวียดนาม (+8.3%), ดัชนี Nasdaq (+6.4%) และ อินโดนีเซีย (+5.9%) ปรับตัวในทิศทางลบ – IBOVA บราซิล (-6.7%) และเกาหลีใต้ (-1.6%)
ดัชนี Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq วันทำการล่าสุดปิดตลาดที่ระดับ all time high
ผู้นำกลุ่ม G20 บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน และเห็นชอบการขึ้นภาษีบริษัทยักษ์ใหญ่ขั้นต่ำที่ 15% ข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าหลายประเทศยังต้องลดการใช้พลังงานแบบดั้งเดิมพอสมควร เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย จีน อินเดีย และสหรัฐฯ เป็น 3 ประเทศที่มีการใช้ถ่านหินสูงที่สุด
การประชุม COP26 จัดขึ้นตั้งแต่ 31 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน ที่กลาสโกลว์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ มี 2 วาระหลัก คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเป็น 0 ในปี 2050 และการควบคุมอุณหภูมิโลกให้ไม่สูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ตามข้อตกลง Paris Agreement มีประเทศเข้าร่วม 197 ประเทศ รวมถึงไทย
พรรค LDP ของคุณฟูมิโอะ คิชิดะ ครองเสียงข้างมากในการเลือกตั้งของญี่ปุ่น และเห็นชอบให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ (พรรค LDP ได้คะแนนเสียงในรอบนี้ 261 คะแนน จากเดิม 276 คะแนน) คาดการณ์ GDP ของญี่ปุ่นจาก Bloomberg ปี 2021 +2.40% และปี 2022 +2.55% ขณะที่ Valuation ของดัชนี TOPIX เทียบกับ S&P500 อยู่ในระดับต่ำ -2S.D. (มูลค่าถูกกว่าในเชิงเปรียบเทียบ) ในส่วนของ EPS ของ TOPIX เปรียบเทียบกับ S&P500 เริ่มเห็นการปรับตัวลดลง (ส่วนหนึ่งมาจากบริษัทเทคโนโลยีในบริษัททำ EPS ไตรมาสที่ผ่านมาได้ดีกว่าคาดการณ์)
เศรษฐกิจจีนชะลอตัว สาเหตุจาก COVID-19 และการขาดแคลนพลังงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนปรับตัวลดลงตัวกว่า 50 ขณะที่ PMI ภาคการบริการชะลอลงมาเล็กน้อย แต่ยังยืนอยู่สูงกว่าระดับ 50 (ยังต้องรอดูผลกระทบจาก COIVD ระลอกล่าสุด)
จากการสำรวจของ Bloomberg พบว่ามีบริษัทอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 1 ใน 3 ที่ไม่สามารถทำตามนโยบายเส้นแดง 3 เส้นของรัฐบาลจีน รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ เช่น รัฐวิสาหกิจบางแห่ง (หนี้สินของบริษัทไม่เกิน 70% ของสินทรัพย์ – หนี้สินสุทธิไม่เกินทุน – เงินสดของบริษัทอย่างน้อยเท่ากับเงินกู้ยืมในระยะสั้น) ส่วนต่าง (spread) ของตราสารหนี้จีนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับน่าลงทุนปรับตัวขึ้นใกล้เคียงจุดสูงสุดใหม่
Evergrande มีหนี้ที่ต้องจ่ายเงินในช่วงวันที่ 8 – 14 พฤศจิกายน เป็นจำนวนประมาณ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้ารวมบริษัทอื่นๆ เป็นจำนวนประมาณ 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่สัปดาห์อื่นๆ ยังมีบริษัทอีกบางส่วนที่มีกำหนดต้องชำระหนี้เช่นกัน
ทิศทางราคาและ P/E ของ CSI300 ในอดีต เคลื่อนไหวสอดคล้องกันมาตลอด แต่ภายหลังจากมีเหตุการณ์ Trade War ทำให้ตลาด discount ค่า P/E ลงมา แม้ราคาและ P/E จะยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ในส่วนของ EPS ของ CSI300 ปรับตัวทำจุดสูงสุดตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ราคายังเคลื่อนไหว sideways จากปัจจัยกดดันต่างๆ เช่น วิกฤติหนี้อสังหา การขาดแคลพลังงาน เป็นต้น
Valuation ของดัชนี CSI300 เทียบกับ S&P500 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย ในส่วนของ EPS ของ CSI300 เปรียบเทียบกับ S&P500 ยังอยู่ในทิศทางที่แย่กว่า
บริษัทพลังงาน Exxon และ Chevron หลุดจาก 30 บริษัทใหญ่อันดับแรกของดัชนี S&P500 แต่ถ้ามองในมุมการจ่ายเงินปันผลทั้ง 2 บริษัท ยังถือเป็นบริษัทที่จ่ายปันผลในระดับสูง
Exxon Mobile ประกาศผลประกอบการรายได้ 6.8 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ EPS อยู่ที่ 1.6 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ คาดการณ์รายได้ยังมีการปรับเพิ่มขึ้นในอีก 2 ไตรมาส และมีการประกาศซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผล
Chevron ประกาศรายได้ 4.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตประมาณ 77.6% YoY และมีการประกาศซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผลเช่นกัน
Saudi Aramco รายได้เติบโต +79.5% YoY และ EPS เติบโต +158.2% YoY
วันที่ 1 พฤศจิกายน เริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 63 ประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องเข้าเงื่อนไขและมาตรการที่สาธารณสุขกำหนด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กระบี่ พังงาน และภูเก็ต ในหลายจังหวัดเริ่มให้หน่วยงานราชการบางแห่งกลับไปทำงานที่ออฟฟิซ เริ่มมีการอนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มได้ ร้านสะดวกซื้อ ร้านเสริมสวย สปา สามารถให้บริการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ GDP ไทยปี 2564 +0.2% (จากเดือนสิงหาคม -0.5%) และปี 2565 +3.7% ปัจจัยเสี่ยง คือ เงินเฟ้อ ราคาพลังงาน สถานการณ์น้ำท่วม และคาดแพร่ระบาดของ COVID-19
งานสัมมนารวมพลคนลงทุน 2021
วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป “เจาะลึกพอร์ต All Balance vs All Weather สองพอร์ตสุดปังหลังจบโควิด” รับชมผ่าน Zoom meeting
วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป “นักรบ DIY สายเทคโนโลยี นี่คือ กองทุนคุณต้องไม่พลาด” ลงทะเบียนรับชมได้ที่ https://www.finnomena.com/event-calendar/