เช้านี้ (6 ม.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดร่วงแรง ติดลบกว่า 2-3% หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น และเตรียมลดขนาดงบดุล นำโดยดัชนี NIKKEI 225 ของญี่ปุ่น ที่ร่วงแล้วกว่า 2.5% ขณะที่ตลาดหุ้นของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ต่างปรับตัวลงมากกว่า 2.5% เช่นกัน
ขณะที่ ดัชนี HSI ปรับตัวลงมา 0.35% และดัชนี SSE Composite ลดลง 0.16% ด้านราคา Bitcoin ร่วงกว่า 6% หลุดระดับ $43,000 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน
ท่าทีที่เข้มงวดขึ้นของ Fed ส่งผลให้เมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลงมา 1.07% ด้านดัชนี S&P 500 ลดลง 1.94% และดัชนี Nasdaq ร่วง 3.34% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) รายงานการประชุม Fed เดือน ธ.ค. ที่เผยแพร่ ระบุว่า Fed จะเริ่มวางแผนลดจำนวนพันธบัตรที่ถืออยู่ และเตรียมปรับลดขนาดงบดุล หลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก
Fed ยังไม่ได้กำหนดเวลาที่จะเริ่มลดจำนวนพันธบัตรและหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ถืออยู่ซึ่งมีมูลค่ารวมเกือบ 8.3 ล้านล้านดอลลาร์ แต่แถลงการณ์หลังการประชุมเผยว่า กระบวนการดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มต้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ Fed เกือบทั้งหมดเห็นตรงกันว่าใกล้ถึงเวลาที่จะเริ่มปรับลดขนาดของงบดุลหลังจากที่ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก โดยคาดว่าความเร็วในการลดขนาดงบดุลกลับสู่ระดับมาตรฐานน่าจะเร็วกว่าครั้งก่อนในปี 2017
ขนาดของงบดุลมีความสำคัญ ในยุคที่ Fed รักษาดอกเบี้ยในระดับต่ำไปพร้อมกับการส่งเสริมตลาดการเงิน โดยตลาดคาดว่า Fed จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มี.ค. นั่นหมายความว่าการปรับลดงบดุลอาจเกิดขึ้นก่อนเดือน มิ.ย.
Fed เน้นย้ำหลายครั้งในการประชุมว่า นโยบายผ่อนคลายพิเศษที่มีขึ้นตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดนั้นไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป พร้อมระบุถึงอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่การจ้างงานเต็มอัตรา
Kathy Jones จาก Charles Schwab กล่าวว่า นี่เป็นการพูดคุยที่ค่อนข้างจริงจัง และ Fed กำลังทำมากกว่าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่เกือบทั้งหมดเห็นตรงกันว่าถึงเวลาเหมาะสมที่จะลดขนาดของงบดุล ซึ่งครั้งที่แล้ว Fed รอตั้ง 2 ปี แต่คราวนี้ดูเหมือนว่า Fed จะพร้อมแล้ว
แม้ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0 แต่เจ้าหน้าที่ Fed คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 0.75% ในปี 2022 และต้องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2023 และอีก 2 ครั้งในปี 2024
เจ้าหน้าที่ Fed ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อสูงและคงอยู่นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และอาจพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2022 โดยเงินเฟ้ออาจเป็นความเสี่ยงมากกว่าการแพร่ระบาดครั้งใหญ่เสียอีก ทำให้ Fed เตรียมใช้นโยบายเข้มงวดเร็วกว่าที่คาด
ตามแนวทางดังกล่าว Fed จะเร่งความเร็วในการสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนภายใน มี.ค. ซึ่งนั่นจะทำให้ Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้นเพื่อจัดการกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบ 40 ปี
เครื่องมือ FedWatch ของ CME รายงานว่า ราคาตลาดฟิวเจอร์สของกองทุน Fed บ่งชี้โอกาส 2 ต่อ 1 ที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. โดยนักลงทุนคาดว่าการปรับขึ้นครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย.-ก.ค. และตามมาด้วยครั้งที่ 3 ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2022/01/05/fed-minutes-december-2021.html
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel