ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจและตลาดหุ้นอินเดียกลับสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รัฐบาลอินเดียประกาศแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานงบประมาณ 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมพร้อมสู่เวทีโลก อย่างไรก็ตาม เริ่มมีนักวิเคราะห์เห็นสัญญาณความเสี่ยงใน valuation ที่แพงเกินไปของหุ้นอินเดีย หลังทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
🇮🇳 เศรษฐกิจเติบโต – ตลาดหุ้น All-time high ร้อนแรงที่สุดในโลก
ต้นปีที่ผ่านมา อินเดียมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก และมีการล็อกดาวน์ในหลายเมือง แต่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปี 2021 ยังสามารถขยายตัวอยู่ที่ 1.6% และตลาดคาดการณ์ว่า GDP ในไตรมาส 2 ของอินเดียจะขยายตัว 19.1%
ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญความผันผวน หลังทางการจีนเดินหน้าปราบปรามภาคธุรกิจอย่างจริงจัง แต่ตลาดหุ้นอินเดียกลับทำ All-time high อย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2020 โดยมีมูลค่าทั้งหมด 3.1 ล้านล้านดอลลาร์
🇮🇳 ก้าวสู่การแข่งขันในเวทีโลก ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1.35 ล้านล้านดอลลาร์
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีอินเดีย Narendra Modi ประกาศแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 100 ล้านล้านรูปี (1.35 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและสนับสนุนการจ้างงาน
โดยจะเน้นการลงทุนในระบบขนส่งของประเทศ เพื่อช่วยลดเวลาเดินทาง และเพิ่มความสามารถในการผลิตของภาคอุตสาหกรรม จนทำให้อุตสาหกรรมของอินเดียสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียได้มีการพูดถึงและให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมาตลอด เนื่องจากอินเดีย จำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อแย่งชิงการลงทุนในบริษัทที่ต้องการย้ายฐานออกจากประเทศจีน
โดย Modi ตั้งเป้าหมายการส่งออกที่ 400,000 ดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ หลังจากลดลง 7.2% ในปีก่อน อยู่ที่เพียง 290,6000 ล้านดอลลาร์
🇮🇳 ผลักดันพลังงานสะอาด และเพิ่มโอกาสทำงานให้คนหนุ่มสาว
อินเดียเป็นประเทศกำลังพัฒนาลำดับที่สองรองจากจีน ที่ประกาศนำประเทศเข้าสู่การส่งเสริมพลังงานสะอาดอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรับมือกับปัญหาสภาพอากาศโลกที่แปรปรวน
โดย Modi ประกาศว่ารัฐบาลจะผลิตพลังงานสะอาด โดยใช้ไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และไฮโดรเจนมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศที่มีอิสรภาพด้านพลังงานใน 25 ปีหลังจากนี้
ขณะที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี Modi ได้ให้คำมั่นว่าจะสร้างงานแก่คนวัยหนุ่มสาว แต่ผ่านไป 7 ปี Modi ยังทำไม่สำเร็จ ส่งผลให้พรรครัฐบาลสูญเสียฐานเสียงของประชาชนวัยหนุ่มสาวค่อนข้างมาก ในการเลือกตั้งท้องถิ่น
แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว นอกจากจะมุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมของอินเดียสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้ ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างงานแก่ประชาชนนับแสนคน โดยเฉพาะประชากรวัยหนุ่มสาว
🇮🇳 UBS เตือน Valuation ที่เริ่มแพงไปของตลาดหุ้นอินเดีย
Sunil Tirumalai หัวหน้าทีมกลยุทธ์หุ้นอินเดีย จาก UBS กล่าวว่า นักลงทุนที่ออกจากตลาดหุ้นจีน จากการปราบปรามกฎระเบียบเมื่อเร็วๆ นี้ เริ่มมองหาการลงทุนในตลาดอื่น แต่ด้วย valuation ที่แพงของหุ้นอินเดีย หลังทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนอาจเลือกลงทุนในตลาดเกิดใหม่อื่นๆ แทน
โดยเริ่มมีสัญญาณความเสี่ยงในตลาดหุ้นอินเดีย หลังกองทุนทั่วโลกเทขายหุ้นอินเดียเพื่อทำกำไร เนื่องจากตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นอินเดียไปแล้วกว่า 1,700 ล้านดอลลาร์ ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นการเทขายที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2020
ดัชนี Nifty มี Relative PE ที่สูงกว่าดัชนี S&P 500 และเมื่อพิจารณาความสามารถในการทำกำไร ดัชนี Nify มีความสามารถในการทำกำไรใกล้เคียงกับดัชนี S&P 500 ซึ่งหาได้ยากมาก ที่ดัชนีอื่นๆ จะทำกำไรได้ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ
UBS คาดการณ์ว่า ดัชนี NSE Nifty 50 จะปรับตัวลดลงเกือบ 5% ภายในเดือน มิ.ย. 2022 จากระดับปัจจุบัน หลังสามารถยืนเหนือ 16,000 จุดในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
🇮🇳 ส่อง 3 อันดับกองทุนหุ้นอินเดียผลงานย้อนหลังโดดเด่น (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ส.ค. 2564)
B-BHARATA กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ
- ผลการดำเนินงาน 1 ปี: 61.04%
- ผลการดำเนินงาน 3 ปี: 13.73%
TISCOINA-A กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย แอคทีฟ อิควิตี้ ชนิดสะสมผลตอบแทน
- ผลการดำเนินงาน 1 ปี: 59.05%
- ผลการดำเนินงาน 3 ปี: 7.92%
ASP-INDIA กองทุนเปิด แอสเซทพลัส อินเดีย ไดนามิกส์ อิควิตี้
- ผลการดำเนินงาน 1 ปี: 56.22%
คำเตือน: ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
ที่มา: Bloomberg และ VOAThai
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel