ก่อนการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 การลงทุนในหุ้นสินค้าฟุ่มเฟือยและบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีนอย่าง Alibaba และ Tencent เป็นเครื่องการันตีผลตอบแทนที่แน่นอน จากฐานผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่สุนทรพจน์ของปธน.สี จิ้นผิงในช่วงกลางปีได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างโดยสิ้นเชิง
“ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” คือวลีที่ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวถึงบ่อยครั้งในปีนี้ และกลายมาเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ของชาติจีน ส่งผลให้บริษัทจีนที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำในประเทศเพิ่มขึ้น กำลังตกที่นั่งลำบาก
วิสัยทัศน์ของปธน.สี จิ้นผิง ไปไกลกว่าการลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ โดยคำกล่าวของเขาแสดงให้เห็นชัดเจนถึงความพยายามในการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันไปพร้อมกับ “การพัฒนาขั้นสูง” ของเศรษฐกิจจีน
นี่จะเป็นการเปิดทางให้หุ้นที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลจีน ขณะที่ผู้ถือหุ้นในบริษัทอินเทอร์เน็ตกำลังเผชิญกับช่วงเวลายากลำบาก เพราะบริษัทดังกล่าวอาจถูกลงโทษหากสะสมอำนาจมากเกินไป หรือขัดขวางความสามัคคีในสังคม
Kinger Lau นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า Common Prosperity หรือ ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ควรถูกมองแยกคำกันเพื่อให้เข้าใจเป้าหมายในภาพกว้าง ขณะที่การเติบโตอย่างยั่งยืน และความเจริญรุ่งเรืองผ่านเทคโนโลยี มีความสำคัญไม่แพ้การกระจายรายได้
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการก้าวผ่านการร่วงแรง 10% ของดัชนี Hang Seng และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ที่ 3% ในปี 2021 นี่คือ 4 ธุรกิจที่เป็นโอกาสการลงทุนปี 2022 ของจีน
🛍️ หุ้นอุปโภคบริโภค
ความต้องการของผู้มีศักยภาพสูงในพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่รัฐบาลจีนต้องการกำจัดช่องว่างระหว่างเขตชนบทและเขตเมืองทำให้สินค้าจำเป็นและคงทนจะมาแทนที่สินค้าฟุ่มเฟือย
รวมถึงบริษัทอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้บริโภคที่คำนึงถึงความคุ้มค่าและงบประมาณ นักวิเคราะห์มองว่า การเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจะเพิ่มกำลังซื้อในสินค้าต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์นมวัวที่คุณภาพสูง เครื่องใช้ในครัวเรือน ไปจนถึงรถยนต์ราคาจับต้องได้
สินค้าที่อวดความมั่งคั่งเกินความจำเป็นเช่น รถยนต์หรู เครื่องประดับ และสุราชั้นนำ อาจเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยการขยายขอบเขตภาษีการบริโภคให้ตรงกับเป้าหมายทางสังคมของรัฐบาลจะยิ่งเพิ่มปัญหาให้กับสรินค้าเหล่านี้
บริษัทที่นำเสนอความภาคภูมิใจของชาติอาจได้เปรียบเหนือคู่แข่งต่างประเทศ เช่น Li Ning และ Anta กับ Nike, Haidilao กับ McDonald รวมถึง SYoung และ Yatsen กับ L’Oreal 8
🏭 หุ้นอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
เซมิคอนดักเตอร์เป็นธุรกิจการผลิตระดับสูงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงธุรกิจด้านหุ่นยนต์ เครือข่ายโทรคมนาคม และ Big Data คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐ
นักวิเคราะห์ยังแนะนำ New Infrastructure ที่ครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่ระบบรถไฟในเมือง ไปจนถึง AI ที่จะมีศักภาพในการลงทุนและเติบโตเช่นเดียวกับถนนและสะพานในอดีต
อนาคตของบริษัทอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ของจีนยังไม่แน่นอน แม้บริษัทเหล่านี้จะมีมูลค่ามหาศาล แต่อำนาจของบริษัทถูกมองว่าเป็นความท้าทายที่รัฐบาลจีนยอมรับไม่ได้ ขณะที่ แพลตฟอร์มส่งอาหารขนาดใหญ่ของจีน อย่าง Meituan ที่ฝ่าฝืนกฎหมายแรงงานกำลังเร่งขึ้นค่าจ้างแก่แรงงานชั่วคราว (Gig Worker)
หุ้นที่น่าจับตามองในกลุ่มนี้ ได้แก่ GigaDevice Semiconductor, Hangzhou Lion Electronics, Iflytek และ Nari Technology 4
🏥 หุ้นเฮลท์แคร์
นโยบาย “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” เชื่อมโยงกับแรงผลักดันในการทำให้การรักษาพยาบาลและราคายาสามารถเข้าถึงและจับต้องได้ ควบคู่ไปกับการมุ่งขับเคลื่อนให้เทคโนโลยีชีวภาพของจีนอยู่ในระดับสูงขึ้น
นี่จะทำให้มูลค่าของบริษัทยาที่ใช้วัตกรรมล้ำสมัยสูงขึ้น แต่มูลค่าของผู้ผลิตยาสามัญจะต่ำลง เนื่องจากรัฐบาลจีนกำลังเร่งลดราคายาพื้นฐานหรือยาสามัญ
หุ้นที่น่าจับตามองในกลุ่มนี้ ได้แก่ Beijing Tongrentang, Wuxi Apptec และ Lepu Medical Technology 3
🔋 หุ้นพลังงานหมุนเวียน
ความมั่งคั่งด้านพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน โดยธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนตรงกับความต้องการของปธน.สี จิ้นผิงที่ต้องการเห็นการพัฒนาระดับสูงในสภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้น
นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ระบุว่า นิเวศวิทยาถูกพูดถึงในรายงานหลายฉบับของรัฐบาลจีน และเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสนใจ โดยนักวิเคราะห์มองเห็นศักยภาพการเติบโตของรายได้ในหุ้นพลังงานหมุนเวียนและรถยนต์ไฟฟ้า จากความพยายามที่จะควบคุมการปล่อยคาร์บอนของทางการจีน
หุ้นที่น่าจับตามองในกลุ่มนี้ ได้แก่ Contemporary Amperex, Shanghai Putailai New Energy, BYD และ Sungrow Power Supply 4
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel