แจ้งเตือน

Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีสิทธิพิเศษให้ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเหมือนกับการลงทุนใน RMF, SSF หรือ LTF ที่ออกมาก่อนหน้านี้

นโยบายการลงทุนของ Thai ESG กำหนดให้สามารถลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน ตามหลัก ESG ซึ่งประกอบด้วยมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) อาทิ หุ้นไทยยั่งยืน SET ESG Ratings หรือตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน ESG Bond 

กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 300,000 บาท โดยไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ เท่ากับว่าเราจะได้วงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจาก Thai ESG ไปเลย 300,000 บาท และเมื่อนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ก็จะลดหย่อนได้สูงสุดถึง 800,000 บาท

ระยะเวลาการลงทุน Thai ESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 5 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

หากคุณตรงกับเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งในนี้

อาจแปลได้ว่าคุณเหมาะที่จะลงทุนในกองทุน Thai ESG และยิ่งมีข้อที่ติ๊กถูกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำว่าคุณไม่ควรพลาดการลงทุนครั้งนี้

ThaiESG เหมาะกับใคร

แล้วควรซื้อเท่าไหร่ดี?

ซื้อ Thai ESG เท่าไหร่ให้คุ้มค่าที่สุด?
รายได้เท่านี้ ลงทุน Thai ESG ได้เท่าไหร่ ประหยัดภาษีได้กี่บาท?
ใครที่ปีนี้ลงทุนกับ SSF RMF ไปเยอะแล้ว ยังควรซื้อ Thai ESG เพิ่มอีกไหม?
สรุปให้เห็นภาพแบบชัด ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปวางแผนภาษีปีนี้ได้อย่างเหมาะสม

โพยกองทุน Thai ESG แนะนำจาก FINNOMENA FUNDS Investment Team

โพย Thai ESG

คัดเลือกโดยพิจารณาจากกองทุน F-Pick ในปัจจุบัน และทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Screening) และการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Screening) เพื่อให้ได้กองทุนลดหย่อนภาษีที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในระยะยาวจากกองทุนลดหย่อนภาษีที่มีอยู่ทั้งหมดในประเทศไทย

สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน

  • เน้นลงทุนในหุ้นจดทะเบียนใน SET และ/หรือ mai ที่ได้รับการคัดเลือกและยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้าน ESG โดยจะลงทุนในบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ SET ESG Rating ตั้งแต่ BBB ขึ้นไป
  • มีผู้จัดการกองทุนคือ ‘คุณทิพย์วดี อภิชัยสิริ’ ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนหุ้นไทยที่โดดเด่นมาอย่างยาวนาน ผ่านกองทุน ASP-SME 
  • บลจ. แอสเซท พลัส โดดเด่นในเรื่อง Stock Selection โดยสามารถบริหารจัดการกองทุนหุ้ยไทยให้มีผลการดำเนินงานชนะตลาดได้ในระยะยาว

สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน

  • ลงทุนในหุ้นที่ผ่านการคัดเลือก SET ESG Rating ในระดับ A ขึ้นไป สัดส่วน 70% และตราสารหนี้ประเภท Green Bond, Sustainability Bond และ Sustainability – Linked Bond สัดส่วน 30% 
  • เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ทั้งในส่วนตราสารหนี้และตราสารทุน 
  • ผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration และวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานรายบริษัทแบบเชิงลึกจากฝ่ายวิจัยของ บลจ.

สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน

  • เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาว เพื่อสอดคล้องกับระยะเวลาในการลงทุนสำหรับลดหย่อนภาษี (ระยะเวลาการลงทุน Thai ESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 5 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ) 
  • คาดการณ์อายุตราสารหนี้เฉลี่ยในพอร์ต 9 ปี บริหารโดยผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์ของ บลจ. เกียรตินาคินภัทร  
  • ที่ผ่านมา บลจ. สามารถสร้างผลการดำเนินงานกองตราสารหนี้อื่น ๆ ได้โดดเด่น และคว้ารางวัลการบริหารกองทุนตราสารหนี้มาอย่างต่อเนื่อง

หมายเหตุ

เป็นข้อมูลจากทาง บลจ. โดยทางทีมงานจะทยอยมาอัปเดตเมื่อได้รับข้อมูลครบ

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. ASP-ThaiESG – กองทุนเปิด แอสเซทพลัส หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน

เน้นลงทุนในหุ้นจดทะเบียนใน SET และ/หรือ mai ที่ได้รับการคัดเลือกและยอมรับว่ามีความโดดเด่น ESG และ/หรือที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการ และการตั้งเป้าหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย รวมทั้งจัดให้มีการทวนสอบการจัดทำคาร์บอน ฟุตพริ้นท์โดยผู้ทวนสอบที่สำนักงานยอมรับ

  • เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการจัดอันดับ SET ESG Rating ตั้งแต่ BBB ขึ้นไป และ/หรือบริษัทที่แสดงเจตจำนง ที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่าน SET ESG Data Platform
  • สำหรับการวิเคราะหลักทรัพย์ดังกล่าวจะเป็นไปตามกระบวนการวิเคราะห์และคัดเลือกทรัพย์ของ บลจ. เพื่อมาคัดเลือกและให้น้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าวข้างต้น
  • กองทุนอาจมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (EPM)
  • กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (active management)

บลจ. บัวหลวงมองเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างยั่งยืนและพร้อมสนับสนุน เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย ผ่านการลงทุนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสังคม จึงมีการจัดตั้ง กองทุนรวมบัวหลวงทศพลไทยเพื่อความยั่งยืน (B-TOP-THAIESG) เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุน

  • กองทุนรวมที่มีนโยบายเปิดให้มีการลงทุนในกองทุนรวมอื่นภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการเดียวกัน (Cross Investing Fund)
  • กองทุน B-TOP-THAIESG มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • เสนอขายครั้งแรกวันที่ 8-15 ธันวาคม 2566
  • ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. B-TOP-THAIESG – กองทุนรวมบัวหลวงทศพลไทยเพื่อความยั่งยืน

กองทุนรวมตราสารทุน ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)  และหรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET หรือองค์กรหรือสถาบันอื่นที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental Social and Governance: ESG) โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration ซึ่งผู้จัดการกองทุนคาดหมายว่าจะให้ผลตอบแทนรวมสูงสุด 10 อันดับแรก โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงการลงทุนในหุ้นของบริษัท 10 อันดับแรก จํานวนหลักทรัพย์ดังกล่าวจะไม่เกิน 12 บริษัท

  • กลยุทธ์การลงทุน ใช้กระบวนการวิเคราะห์แบบ ESG Integration รวมถึงการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค โดยใช้ข้อมูลจากทีมนักวิเคราะห์ภายใน และจะมีการใช้บทวิเคราะห์ด้านความยั่งยืนที่จัดทำโดยบุคคลที่สาม (3rd party data)
  • การมีส่วนร่วมอย่างแข็งแกร่งกับบริษัทต่าง ๆ เป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงองค์กรและการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อกองทุน

บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสนับสนุน ThaiESG โดยออกกองทุนหุ้นไทย (Passive fund) ที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล (ESG) จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดอิสท์สปริง SETESG โดยจะเริ่มทำการขาย IPO ในช่วง 8-18 ธันวาคม 2023 นี้

กองทุนนี้จะเข้าร่วมโปรโมชั่นกองทุนลดหย่อนภาษีปี 2566 คือ ลงทุนกองทุน ทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) 100 บาท

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. ES-SETESG – กองทุนเปิดอีสท์สปริง SETESG

เป็นกองทุนหุ้นไทยที่ลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล (ESG) และ บริการจัดการเชิงรับ โดยเน้นการลงทุนให้สอดคล้องกับดัชนี SETESG Index

  • Sustainable Growth – เน้นการเติบโตของเงินลงทุนอย่างยั่งยืนจากการบริหารจัดการ ESG ที่ดี
  • Attractive Fee – ค่าธรรมเนียมในการจัดการต่ำ สามารถถือครองได้ยาว เหมาะกับกองทุนลดหย่อนภาษี
  • Investment Team – ทีมผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์ยาวนาน มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสำหรับ Local Passive Fund กว่า 3 หมื่นล้านบาท

บลจ. กสิกรไทยร่วมสนับสนุน Thai ESG เห็นโอกาสการลงทุนในบริษัทที่มีเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยจะเสนอขายกองทุน  K-TNZ-ThaiESG 

รอติดตามโปรโมชั่น สำหรับลูกค้า กองทุน K-TNZ-ThaiESG  ในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซด์ บลจ. กสิกรไทย

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. K-TNZ-ThaiESG – กองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย (K Target Net Zero Thai Equity Fund)

ลงทุนในหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี SET100 โดยใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรับ (Passive) เพื่อเป้าหมายสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี

  • ลงทุนหุ้นไทยได้หลายอุตสาหกรรม ทำให้ไม่มีการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง
  • กองทุนให้ความสำคัญกับผู้นำในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของพอร์ตต่ำกว่าดัชนีชี้วัด พร้อมกับสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด SET 100  และมี Tracking Error ต่ำ

บลจ. เกียรตินาคินภัทร (KKPAM) พร้อมเสนอขาย 2 กองทุนใหม่ กองทุนเปิดเคเคพี หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP EQ THAI ESG) และ กองทุนเปิดเคเคพี พันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP GB THAI ESG) เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนที่หาโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมต้องการลดหย่อนภาษี ทั้งนี้จะมีการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 8 – 14 ธันวาคม 2566

  • KKPAM ได้รับรางวัล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนดีเด่น ด้าน ESG จากเวที SET AWARDS 2023
  • โปรโมชันพิเศษ สำหรับผู้ลงทุนที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน SSF / RMF/ THAI ESG ที่ร่วมรายการ (THAI ESG ร่วมรายการเฉพาะกอง KKP EQ THAI ESG) รับหน่วยลงทุน KKP MP 100 บาท สำหรับยอดเงินลงทุนสะสมทุก ๆ 50,000 บาท วันนี้ – 28 ธันวาคม 2566 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. KKP GB THAI ESG – กองทุนเปิดเคเคพี พันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP GOVERNMENT BOND THAILAND ESG FUND)

เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่บริหารการลงทุนแบบ active โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทย และกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน เช่น ตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (Sustainability bond) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

  • บริหารกองทุนโดยทีมผู้จัดการกองทุนเดียวกับกอง KKP ACT FIXED ที่ได้รับรางวัลกองทุนตราสารหนี้ยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนตราสารหนี้ระยะปานกลาง – ยาว 2 ปีซ้อน (2022-2023) จากเวที Morningstar Awards 2023 รวมทั้ง KKPAM ยังได้รับรางวัล Best Fund House- Domestic Fixed Income ประจำปี 2023 จากเวทีเดียวกัน
  • เน้นลงทุนในตราสารระยะยาว เพื่อสอดคล้องกับระยะเวลาในการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี (ลงทุนอย่างน้อย 8 ปี)
  • เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นไทย เพื่อสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนและเหมาะสม
  • หมายเหตุ กองทุนรวมนี้อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนจากสำนักงานก.ล.ต.

2. KKP EQ THAI ESG – กองทุนเปิดเคเคพี หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP EQUITY THAILAND ESG FUND)

เป็นกองทุนตราสารทุนที่บริหารการลงทุนแบบ active โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนใน SET ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (ESG) ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในบริษัทที่มีผลการประเมิน ESG ที่ดีเป็นหลัก โดยพอร์ตการลงทุนโดยรวมจะมีค่าเฉลี่ย SET ESG rating ในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า A

  • บริหารกองทุนโดยทีมผู้จัดการกองทุนเดียวกับกอง KKP SET50 ESG-SSF ที่ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภทกองทุนยั่งยืน (ESG Fund) จากเวที Money & Banking Awards 2023
  • เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยผนวก ESG Integration เข้าในกระบวนการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน
  • คัดเลือกหุ้นอย่างเข้มข้นให้มีหุ้นในพอร์ตเพียง 12-18 ตัว เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มในระยะยาว
  • หมายเหตุ กองทุนรวมนี้อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนจากสำนักงานก.ล.ต.

บลจ. กรุงศรี ร่วมส่งเสริมการออมระยะยาว และสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย โดยจะออก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน (KFTHAIESG)

(กองทุนกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจัดตั้งจากสำนักงาน ก.ล.ต.)

  • กองทุนมีกระบวนการลงทุนเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในระยะยาว การพิจารณาจากทั้งคุณสมบัติทางด้านการเงินและความยั่งยืน
  • เสนอขายครั้งแรก 8 – 18 ธ.ค. 2566
  • ลงทุนเริ่มต้นเพียง 500 บาท

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. KFTHAIESG – กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน

หน่วยลงทุนชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า (KFTHAIESGA): ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล

หน่วยลงทุนชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนปันผล (KFTHAIESGD): มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล

กองทุนมอบโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่เหนือกว่าดัชนีด้วยการกระจายสัดส่วนสำหรับการลงทุนเชิงรุก เติบโตไปกับหุ้น ESG โอกาสเพื่อผลตอบแทนที่ยั่งยืน โดย 90% ลงทุนในหุ้นตามดัชนี SETESG เพื่อเติบโตไปพร้อมกับดัชนี และ 10% ลงทุนเชิงรุกเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม พร้อมนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาพิจารณาในกระบวนการลงทุนเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

  • เติบโตไปพร้อมกับดัชนี ประมาณ 90% ของพอร์ตการลงทุน จะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนฯ ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETESG โดยใช้ Quant Strategy ในการบริหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนการลงทุนให้มีผลตอบแทนเปรียบเสมือนการลงทุนทั้ง 100% ใน SETESG
  • สัดส่วน 10% ที่เหลือ จะเป็นการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม จากการลงทุนเชิงรุกตามแนวทางการลงทุนของ บลจ. กรุงศรี
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

บลจ. กรุงไทย ร่วมสนับสนุนกองทุน Thai ESG โดยมีให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้ตามสไตล์ความชอบของตนเองถึง 3 กองทุนด้วยกัน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นไทย และตราสารหนี้ไทย ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด  และหลักทรัพย์ทั้งหมดที่จะสามารถลงทุนได้จะต้องผ่านทั้งเกณฑ์ Corporate Governance และเกณฑ์ KTAM RD Score ซึ่งเป็นเครื่องมือพิจารณาปัจจัยพื้นฐานได้อย่างครอบคลุมทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและปัจจัยเชิงปริมาณ จึงทำให้สามารถบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแต่ประเภทของทรัพย์สินในหลากหลายอุตสาหกรรม

  • ในหุ้น KTAM จะมุ่งเน้นที่การวิเคราะห์คุณภาพกิจการ และแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และการดำเนินงานด้าน ESG
  • ส่วนของตราสารหนี้ KTAM จะมุ่งเน้นที่ประมาณทางการเงิน ความสามารถในการชำระคืนดอกเบี้ยและเงินต้นของบริษัท และการดำเนินงานด้าน ESG
  • ทาง KTAM ได้พัฒนาการจัดทำ KTAM ESG Rating ขึ้นมา เพื่อประเมินแง่มุมด้าน ESG ในเชิงลึกในแต่ละบริษัท ผ่านการใช้ model ที่พัฒนาขึ้นภายในของ KTAM เอง เพื่อใช้สำหรับการคัดเลือกหลักทรัพย์ด้วยเช่นกัน

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. KTAG-ThaiESG – กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)

ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการ ESG ซึ่งผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration โดยผ่านการคัดเลือกและได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ของ SET ในระดับ A ขึ้นไป ซึ่งเป็นการประเมินจากข้อมูลผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียน หรือได้รับการจัดอันดับในระดับที่สามารถเทียบเคียงได้กับระดับ A ขึ้นไป จากองค์กรหรือสถาบันอื่นที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental Social and Governance: ESG) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

  • เน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก
  • กลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด SETESG Index (Active Management) โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration และการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานรายบริษัทฯ แบบเชิงลึกจากฝ่ายวิจัยของ บลจ.
  • เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงจากการลงทุนในหุ้นไทยกลุ่ม ESG และผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่บริหารแบบ Active Management เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง

2. KTAG70/30-ThaiESG – กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)

กองทุนจะกำหนดกรอบการลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV และตราสารหนี้ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินกว่า 30% ของ NAV เพื่อลดความผันผวนผ่านการกระจายความเสี่ยง

  • กลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management ทั้งในส่วนตราสารหนี้และตราสารทุน โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration และการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานรายบริษัทฯ แบบเชิงลึกจากฝ่ายวิจัยของ บลจ.
  • เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง และผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้

การลงทุนในหุ้นจดทะเบียนใน SET และ mai จะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการ ESG ซึ่งผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration โดยผ่านการคัดเลือกและได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ของ SET ในระดับ A ขึ้นไป ซึ่งเป็นการประเมินจากข้อมูลผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียน หรือได้รับการจัดอันดับในระดับที่สามารถเทียบเคียงได้กับระดับ A ขึ้นไป จากองค์กรหรือสถาบันอื่นที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านความยั่งยืน

ในส่วนของตราสารหนี้ จะลงทุนในตราสารอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง ดังนี้

  • ตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) หรือตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability – linked bond)
  • พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ไม่รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) หรือพันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability – linked bond)

3. KTESG50-ThaiESG – กองทุนเปิดกรุงไทย ESG50 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)

ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETESG ซึ่งเป็นดัชนีที่คัดเลือกหุ้นมาจากการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ของ SET โดยเป็นการประเมินจากการข้อมูลผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหลักทรัพย์ประมาณ 50 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด ที่เข้าเกณฑ์ในการคัดเลือกหลักทรัพย์ของบริษัทจัดการ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

  • กองทุนบริหารการลงทุนแบบเป็นระบบ rule-based
  • กลยุทธ์การลงทุนมีความคล้ายคลึง active management ที่มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด และในขณะเดียวกันก็มีความคล้ายคลึงกับกลยุทธ์แบบ passive management ที่ให้น้ำหนักต่อรายหลักทรัพย์ถูกจำกัดให้ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดอย่างชัดเจน
  • เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง เป็นการลงทุนแบบ rule-based

บลจ. เคดับบลิวไอ  ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ผ่านแนวคิด “ลงทุนแบบใส่ใจ เพื่อผลตอบแทนที่ยั่งยืน” พร้อมนำเสนอกองทุนเปิด เคดับบลิวไอ ไทยเพื่อความยั่งยืน (KWI ThaiESG)

  • พร้อมเสนอขายครั้งแรก (IPO) 8-12 ธันวาคม 2566  “กองทุนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจาก สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.”
  • ทุกการลงทุน 50,000 บาท รับ KWI MONEY มูลค่า 100 บาท ศึกษารายละเอียดได้ที่ https://www.kwiam.com/th

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. KWI ThaiESG – กองทุนเปิด เคดับบลิวไอ ไทยเพื่อความยั่งยืน

เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บนกระดานหลัก หรือกระดานเอ็มเอไอ (mai) ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental Social and Governance: ESG)

  • ลงทุนแบบใส่ใจด้วยการคัดเลือกหุ้น ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental Social and Governance: ESG) 
  • โปร่งใสชัดเจนด้วยหุ้นของบริษัทที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของ SET ESG Rating ในระดับ AA ขึ้นไป และ/หรือ ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกขององค์กรหรือสถาบันอื่นที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับ ในระดับที่เทียบเคียงได้กับระดับ AA ขึ้นไปตามเกณฑ์การคัดเลือกของ SET ESG Rating
  • กองทุนจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ธุรกิจแอลกอฮอล์ ยาสูบ โดยจะพิจารณาการเข้าข่ายธุรกิจดังกล่าวด้วยเกณฑ์สัดส่วนรายได้ที่มากกว่า 50%
  • กองทุนมีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนเป็น 2 ชนิดได้แก่ ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า (KWI ThaiESG-A) ที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล และ ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนปันผล (KWI ThaiESG-D) ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
  • ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

เสนอกองทุนลดหย่อนภาษีกับอนาคตที่ยั่งยืนด้วยหุ้นกลุ่ม ESG โอกาสเติบโตและรับผลตอบแทนในระยะยาวกับกองทุน เป็นกองทุนหุ้นไทย active เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพดี  พร้อมทีมลงทุนมากประสบการณ์

IPO 8-20 ธันวาคม 2566

พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษ ลงทุนกองทุน LHTHAIESG ทุกๆ 50,000 บาท รับ LHMM-A มูลค่า 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 200 บาท

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. LHTHAIESG – กองทุนเปิด แอล เอช หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน

ประเภทกองทุนรวมตราสารทุน/กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน/กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน

มีนโยบายลงทุนหุ้นใน SET หรือ mai ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความโดดเด่นด้าน ESG:Environmental, Social and Governance โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV 

  • กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ดัชนีชี้วัด : SETESG TRI
  • ชนิดหน่วยลงทุน : LHTHAIESG-A และ LHTHAIESG-D
  • ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
  • สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน

บลจ. MFC สนับสนุนการลงทุนในธุรกิจที่โดดเด่นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ร่วมออก 2 กองทุน ทั้งกองทุนหุ้นและกองทุนผสม

ทั้ง 2 กองจะ IPO วันที่ 8-19 ธันวาคม 2566 โปรโมชั่นพิเศษ รับ MMGOVMF 100 บาท ทุก ๆ ยอดการลงทุนสะสมครบ 50,000 บาท (วันนี้ – 29 ธันวาคม 66)

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. MT25-ThaiESG – กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีท็อป 25 หุ้นไทย เพื่อความยั่งยืน

เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนจำนวน 25 บริษัทแรกตามมูลค่าตลาดของดัชนี SETESG Index และคัดเลือกหุ้นประเภทเดียวกันไม่เกิน 5 หลักทรัพย์

  • Top 25 ให้น้ำหนักหุ้น 25 หลักทรัพย์ จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของ SETESG Index
  • ESG Rating Scores ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ได้รับ ESG Rating Scores จากสถาบันการจัดอันดับ ESG Ratings ที่เป็นอิสระ อาทิเช่น THSI, Refinitiv, S&P Global, MSCI ESG Rating, Sustainalytics, Arabesque S-Ray ESGBooK เป็นต้น และสถาบันจัดอันดับอื่น ๆ ที่ได้มาตรฐานในอนาคต
  • Sector Limite มีการควบคุมการกระจุกตัวของหลักทรัพย์ในแต่ละอุตสาหกรรม (Sector)

2. MFLEX-ThaiESG – กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเฟล็กซีเบิลไทยเพื่อความยั่งยืน

กองทุนผสมที่เน้นลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้คุณภาพ ใช้กลยุทธ์ ESG Screening ยืดหยุ่นระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ได้ตามสภาวะตลาด

  • Flexible สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% ตามสภาวะตลาด
  • ESG Screening  คัดเลือกหุ้นโดยใช้  MFC ESG Composite Score และเลือกลงทุนเฉพาะหุ้น Best in class และ Above Average
  • Expertise ทีมลงทุนมีความชำนาญในการบริหารกองทุนผสมยาวนานกว่า 20 ปี

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. ONE-THAIESG – กองทุนเปิด วรรณ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน

มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บนกระดานหลัก หรือกระดานเอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือองค์กรหรือสถาบันอื่นที่ สํานักงาน ก.ล.ต. ยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

  • กองทุนอาจลงทุนในทรัพย์สินดังต่อไปนี้ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 20% ของ NAV และไม่ทําให้กองทุนมีฐานะการลงทุนสุทธิ (Net exposure) ในหุ้นตามลักษณะที่กล่าวข้างต้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีน้อยกว่า 80% ของ NAV
    • กองทุนรวมอื่นซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการ และกองทุนรวมอื่นนั้นมีการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมใด ๆ ที่บริษัทจัดการเดียวกันเป็นผู้รับผิดชอบในการดําเนินการต่อไปได้อีกไม่เกิน 1 ทอด ทั้งนี้ กองทุนปลายทางไม่สามารถลงทุนย้อนกลับในกองทุนต้นทางได้
    • ตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management)
  • กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (active management)

บลจ. พรินซิเพิลสนับสนุนแนวคิดการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) มาอย่างต่อเนื่อง โดย บลจ.ได้นำเอา ESG มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการลงทุนของกองทุนที่บริหารโดยตรงกับ บลจ. พรินซิเพิล

บลจ. เห็นว่าการนำ ESG มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว ทั้งนี้ หากดูผลตอบแทนย้อนหลังของ  SET ESG Total Return และ SET Index Total Return พบว่า การลงทุนในดัชนี SET ESG Total Return นั้น สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนใน SET Index Total Return ในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 3 ปี หรือ 5 ปี  (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พ.ย. 2023) 

และเพื่อสนับสนุนโอกาสที่จะทำให้คนไทยมีทางเลือกในการลงทุนระยะยาวเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF แล้ว ทาง บลจ. พรินซิเพิลเห็นด้วยที่เสนอขายกองทุนเปิดพรินซิเพิล อิวิตี้ ESG (PRINCIPAL EQESG-ThaiESG) โดยเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกของ วันที่ 8-20 ธันวาคม 2566

  • บลจ. พรินซิเพิลมีความเชี่ยวชาญในการประยุกต์ใช้ ESG ในกระบวนการลงทุน เนื่องจากกองทุนหุ้นของ บลจ. พรินซิเพิล มีการประยุกต์ใช้ ESG ในการเลือกหุ้นอยู่แล้ว
  • บลจ. พรินซิเพิล บริษัทจัดการที่ได้รับรางวัล Best Asset Management Awards จากงาน SET Awards 2023

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. PRINCIPAL EQESG-ThaiESG – กองทุนเปิดพรินซิเพิล อิควิตี้ ESG

กองทุนหุ้นไทย active เน้นลงทุนในหุ้น ESG คุณภาพดี มีกระบวนการวิเคราะห์ที่ผสมผสานทั้ง Fundamental Momentum Valuation และ ESG ด้วยการประเมินคะแนนภายใน (Internal ESG Scoring) บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มากด้วยประสบการณ์

  • เป็นกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีความยั่งยืนจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น SETESG MSCI ESG และ/หรือได้คะแนน ESG สูงจากการประเมินภายใน ที่มีแนวการลงทุนแบบ Active มีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนชนะดัชนีอ้างอิง SET ESG TRI ในระยะยาว 
  • กระบวนการการลงทุนที่แข็งแกร่ง ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า FMV Model ซึ่งเป็นกระบวนการคัดเลือกหุ้นจาก 1) Fundamental พื้นฐานธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน 2) Momentum แนวโน้มของราคาและกำไรดีขึ้นต่อเนื่อง และ 3) Valuation มูลค่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ผนวกกับปัจจัยด้าน ESG (ESG Integration Framework) โดยจะต้องผ่านการประเมินคะแนน ESG ภายใน (Internal ESG Scoring) โดยเน้น 5 ปัจจัย คือ ธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม สังคม หลักการด้านการบริหารจัดการด้าน ESG ของบริษัท และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal) โดยบริษัทที่เราเลือกลงทุนจะต้องมีคะแนนในทั้งสองส่วนอยู่ในระดับสูง และจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ESG ในระดับสูง
  • บริหารจัดการโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มากด้วยประสบการณ์ ซึ่งพิสูจน์ความสำเร็จของบลจ. พรินซิเพิล ด้วยรางวัล Best Asset Management Awards จากการประกาศรางวัล SET Awards  2023

บลจ. ไทยพาณิชย์  เตรียมพร้อมออกเสนอขายกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน Thai ESG ให้ผู้ลงทุนได้ลงทุนอย่างยั่งยืน จากการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จากการลดความเสี่ยงในการเผชิญผลกระทบเชิงลบ ทั้งยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มอีกด้วย  ช่วยให้กลุ่มลูกค้า LTF ที่ครบกำหนด ต้องการลงทุนต่อเนื่อง และผู้ที่ใช้สิทธิกองทุนลดหย่อนภาษีอื่นเต็มแล้ว สามารถเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG เพิ่มเติมได้

กองทุน ThaiESG ของบลจ. ไทยพาณิชย์ จะเสนอขายครั้งแรกวันที่ 8 ธ.ค. 66 – 15 ธ.ค. 66 และลงทุนต่อได้ตั้งแต่ 18 ธ.ค. 66 เป็นต้นไป

พิเศษ ลงทุนตั้งแต่ 8 ธ.ค. 66 – 28 ธ.ค. 66 รับหน่วยลงทุน SCBSFF สูงสุด 200 บาท

ดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. SCB Thai Sustainable Mixed Fund

SCBTM(ThaiESG): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ไทยผสมยั่งยืน (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)

SCBTM(ThaiESGA): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ไทยผสมยั่งยืน (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า)

เป็นกองทุนผสมทั้งหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่มีความโดดเด่นด้าน ESG ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน มีทั้งนโยบายจ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล

  • ลงทุนผสมยืดหยุ่น 0-100% ทั้งตราสารหนี้และตราสารทุนของบริษัทไทยที่มีความโดดเด่นทางด้าน ESG
  • เน้นการบริหารเชิงรุก มุ่งสร้างผลตอบแทนอย่างมีเสถียรภาพ ผสานจุดแข็งของข้อมูลด้าน ESG (ESG Integration) ในการเพิ่มโอกาสการลงทุนไปกับ ESG Transition Trend และลดความเสี่ยงจาก ESG Risk ควบคู่กับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของกิจการ
  • บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ การันตีด้วยกองทุนคุณภาพติดดาวจากมอนิ่งสตาร์ เช่น SCBLT1 (4 ดาว), SCBFLX (4 ดาว) เป็นต้น

2. SCB Thai Sustainable Equity Active Fund

SCBTA(ThaiESG) : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนแอคทีฟ (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)

SCBTA(ThaiESGA) : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนแอคทีฟ (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า)

เป็นกองทุนหุ้นไทย ESG บริหารเชิงรุกเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน พิจารณาทั้งปัจจัยด้าน Fundamental และการวิเคราะห์เชิงปริมาณด้วย Machine Learning ในการเฟ้นหาโอกาสในการลงทุน และบริหารพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะตลาด

  • เน้นการลงทุนและให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความโดดเด่นด้านการดำเนินธุรกิจและมูลค่าน่าสนใจ
  • พิจารณาปัจจัยด้าน ESG เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจลงทุน
  • ใช้ข้อมูลจากหลากหลายแหล่งในการวิเคราะห์ทั้งพื้นฐานและข้อมูลเชิงปริมาณ 
  • ทำ Tactical Allocation ในการสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยงตามสภาวะตลาด
  • บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ การันตีด้วยกองทุนคุณภาพติดดาวจากมอนิ่งสตาร์ เช่น SCBTHAICG (5 ดาว), SCBDA (4 ดาว) เป็นต้น

3. SCB Thai Sustainable Equity Passive Fund

SCBTP(ThaiESG) : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนพาสซีฟ(ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)

SCBTP(ThaiESGA) : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนพาสซีฟ(ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า)

เป็นกองทุนหุ้นไทย Passive บริหารอ้างอิงกับดัชนี SETESG TRI เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และมีค่าธรรมเนียมถูก

  • บริหารกองทุนแบบเชิงรับด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ Optimization โดยจะพิจารณาปรับรายการหลักทรัพย์ (rebalance) ทุกรอบ 6 เดือนตามดัชนีอ้างอิง
  • มีวัตถุประสงค์หลักให้ผลตอบแทนกองทุนใกล้เคียงกับดัชนี SETESG TRI มากที่สุด
  • มุ่งเน้นความยั่งยืนตามหลักสากลที่เป็นที่ยอมรับ เน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนฯ ที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน
  • มีค่าธรรมเนียมถูกกว่ากองทุนหุ้นไทยโดยทั่วไป

บลจ. ทาลิสร่วมสนับสนุน Thai ESG เห็นโอกาสการลงทุนด้านความยั่งยืน โดยจะออก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิด MEGA 20 ไทยเพื่อความยั่งยืน 

กองทุนใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Positive Screening ในลักษณะ Rule-based Approach โดยลงทุนในหุ้น ประมาณ 20-25 ตัว

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. MEGA20THAIESG – กองทุนเปิด MEGA 20 ไทยเพื่อความยั่งยืน

เน้นลงทุนในหุ้นที่มีอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนใน SETESG คัดเฉพาะหุ้น Superior ESG Rating Stock ที่ได้ ESG rating ระดับ AA ขึ้นไป โดยมีจุดเด่นและความน่าสนใจดังนี้

  • Focus on High Liquidity Stock / Large CAP Stock เน้นลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง และหุ้น Market Capitalization ใหญ่
  • Add on Financial Sustainability or other factors  ผู้จัดการกองทุนจะใช้ปัจจัยทางการเงินและด้านปัจจัยอื่น ๆ ประกอบ
  • 2 Tier Equal Weighting +  Systematic Rebalancing กระจายการลงทุนในหุ้นประมาณ 20 – 25 ตัว แบ่งเป็น 2 กลุ่มโดยหุ้นแต่ละกลุ่มลงทุนด้วยน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน และมีการ Rebalance ไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง
  • กระบวนการคัดเลือกหลักทรัพย์แบบ Rule-based Approach ที่มีความชัดเจน โปร่งใส และ เข้าใจง่าย จะช่วยลดความเอนเอียงของผู้จัดการกองทุนได้
  • หุ้นของบริษัทที่มีความยั่งยืน จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวได้ และจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

บลจ. ทิสโก้ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกหุ้นเข้าลงทุน ผ่านการคัดกรอง “ESG Intergration” และ ยังคงเน้นสร้างผลตอบแทนคาดหวังดีกว่า benchmark (SETESG TRI)

ขั้นตอนการลงทุน (Investment Process)

  • หุ้นที่จะลงทุนจะต้องอยู่ภายใต้ SET ESG Universe และ TISCO Universe 
  • นำหุ้นผ่านการคัดครอง มาเข้าขบวนการ “ESG Criteria Screening ซึ่งท้ายสุดจะทำให้หุ้นที่ผ่านขั้นตอนนี้เหลือเพียง 70-90 บริษัท ที่กองทุนจะสามารถเข้าลงทุนได้ 
  • ติดตาม ประเมิน และ ปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการทบทวน Universe ของหุ้นในกลุ่ม ESG

บลจ. ทิสโก้ เชี่ยวชาญการบริหารกองทุนหุ้นไทย การันตีรางวัล กองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ 2 ปีซ้อน คือปี 2565 และปี 2566 จาก Morningstar Awards

  • มีประสบการณ์บริหารจัดการกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) ถึง 2 กองทุน จึงมีความชำนาญในการคัดกรองหุ้นที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
  • Performance กองทุน ESG ที่บริหารสร้างผลตอบแทนดีที่สุดในรอบ 3 ปี (TISESG-D)

คลิกดูรายชื่อกองทุนหุ้นไทยที่เกี่ยวข้องกับ ESG

โปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 66 – 31 ม.ค. 67 ยอดเงินลงทุน T-ThaiESG-A และ/หรือ T-ThaiESG-D ทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน TISCOSTF 100 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1. T-ThaiESG-A – กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมผลตอบแทน
และ T-ThaiESG-D – กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนปันผล

เป็นกองทุนหุ้นไทย ผ่านเกณฑ์การเลือกหุ้น TISCO ESG Criteria Screening และยังคงสร้างผลตอบแทนคาดหวังที่ดี  ผ่านทีมผู้จัดการกองทุนที่ได้รับรางวัล กองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ 2 ปีซ้อน 2565 และ 2566 จาก Morningstar Awards

  • ตลาดหุ้นไทยปรับลงมากถึง 20% จากจุดสูงสุดในปี 2022 ในขณะที่ trade ที่ P/E ต่ำมากที่ 14x ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี 
  • การเข้าลงทุนที่ SET Index ประมาณ 1,400 จุด ในขณะที่การถือกองทุนไปอีก 8 ปี คาดจะสร้าง upside ที่น่าสนใจ หลังประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงการลงทุนครั้งใหม่
  • บลจ.ทิสโก้ มีประสบการณ์ในการบริหารกองทุน ESG มาก่อนหน้าแล้ว และ ยังเป็นกองทุน ESG ที่สร้างผลตอบแทนดีที่สุดในรอบ 3 ปี

ร่วมส่งเสริมการออมระยะยาวและร่วมสนับสนุนบริษัทในประเทศที่มีการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนตามหลัก ESG ผ่านการลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน UTSEG-THAIESG ที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษี และเน้นสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากลงทุนในหุ้นไทยชั้นนำ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) ​และบรรษัทภิบาล (Governance) โดยเปิดเสนอขายในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป

สร้างสรรค์และส่งเสริมสังคมไทยกับกองทุน UTSEG บลจ. ยูโอบี ลงทุนอย่างโปร่งใส สร้างกำไรอย่างยังยืน รวมทั้งเป็นการแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมของการส่งเสริม ESG และสนับสนุนกิจการที่มี ESG ที่ดี ที่ครอบคลุมประเด็นสิ่งแวดล้อมอันเป็นภารกิจร่วมกันที่จะดูแลโลกใบนี้

รายละเอียดกองทุน Thai ESG

1.UTSEQ-THAIESG – กองทุนเปิด ยูไนเต็ด หุ้นไทย ซัสเทนเนเบิล 

กลยุทธ์การลงทุนแบบ active โดยเน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำ ที่มีการทำธุรกิจแบบยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าและยังช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนให้มีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมากขึ้น

  • เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำ ที่มีการทำธุรกิจแบบยั่งยืน ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าและยังช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนให้มีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมากขึ้น
  • UOBAM ลงนามใน UN-PRI สะท้อนหลักการลงทุนที่รับผิดชอบในระดับสากลองค์การสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2564 และในปี 2566 นี้ยังได้รับ 3 รางวัลด้านความเป็นผู้นำ ESG ทั้งจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นความเป็นผู้นำด้าน ESG ของเรา
  • ทางทีมผู้จัดการกองทุน พิจารณาเข้าลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในระยะยาว เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ยั่งยืน
  • รองรับกลุ่มลูกค้า LTF ที่ครบกำหนด และตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มเงินลงทุนเพื่อการเกษียณ
  • ดัชนีชี้วัด : SETESG TRI index
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
  • มูลค่าขั้นต่ำของการสั่งซื้อ : ไม่กำหนด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม Sustainable at UOBAM 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม UTSEG และ 3 รางวัลความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน

คำเตือน

  • กองทุนกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณากับ ก.ล.ต.
  • ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF RMF และ Thai ESG กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน
  • การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน
  • กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”
สิ่งที่ต้องทำก่อนเริ่มลงทุน Tax Saving