พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ถูกจับตามองเป็นพิเศษในฐานะเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษ ที่เรียกว่า ‘ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก’ (Eastern Economic Corridor : EEC)
- ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลก ในฐานะพื้นที่ชั้นนำในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอาเซียน การมีนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระดับดีทั้งทางถนนรถไฟ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้ง ยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางเรือของอาเซียน เชื่อมเมียนมา, กัมพูชา, เวียดนาม
- 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ธุรกิจการบิน (อู่ตะเภา) หุ่นยนต์ ไบโอเทคโนโลยี และอุปกรณ์การแพทย์
- การพัฒนา ‘ระเบียงเศรษฐกิจภำคตะวันออก’ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลกด้วยการพัฒนา 4 ด้านหลัก ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานธุรกิจอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เมืองใหม่และชุมชน โดยเป้าหมายตามแผนการลงทุนที่วางไว้มีทั้งภาครัฐและเอกชน มีมูลค่าประมาณ1.5 ล้านล้านบาทใน 5 ปีแรก อาทิ เมืองใหม่ 400,000 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนโดยเอกชน สนามบินอู่ตะเภารองรับผู้โดยสาร 3 ล้านคน/ปี จะลงทุนโดยรัฐ เป็นต้น
- หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้คาดว่า นอกจากประเทศจะมีการลงทุน 1.5 ล้านล้านบาทใน 5 ปีแล้ว ยังจะทำให้เศรษฐกิจโต 5% ต่อปี เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 100,000 อัตรา/ปี ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ 400,000 ล้านบาท/ปี มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 10 ล้านคน/ปี และได้ฐานภาษีใหม่ 100,000 ล้านบาท/ปี
- 5 โครงการหลักปี 60 พัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา, รถไฟความเร็วสูง, ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3, เป็นผู้นำ 10 อุตสาหกรรมหลัก และ พัฒนาเมืองและชุมชนใหม่ในเขตตะวันออก
ที่มา : http://www.mmthailand.com/เจาะลึกการลงทุนใน-eec-thailand-4-0/
FINNOMENA Hot News Digest
คือการนำข่าวเรื่องการเงินการลงทุนที่สำคัญ ๆ ในแต่ละวัน มาทำการย่อย (digest) ให้เข้าใจง่าย ๆ รวมถึงอธิบายถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากเรื่องดังกล่าว โดยทีมงาน FINNOMENA เพื่อให้นักลงทุนได้เสริมความเข้าใจในข่าวสารต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
แท็ก: