เชื่อว่าพ่อแม่หลายท่านก็คงอยากให้ลูกได้มีประสบการณ์การไปเรียนต่างประเทศ การเรียนซัมเมอร์เป็นวิธีหนึ่งที่เด็กๆ สามารถสัมผัสประสบการณ์ต่างประเทศได้โดยที่ยังไม่ต้องมีอายุมาก ไม่ต้องใช้เวลานาน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายจึงไม่สูงเกินไปหากเทียบกับการส่งไปเรียนระยะยาว แต่ก็ไม่ได้น้อยจนถึงขั้นละเลยได้ เพราะยิ่งเตรียมพร้อมเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีกว่า

วันนี้เราเลยอยากนำเสนอข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของการไปเรียนซัมเมอร์เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ (1 เดือน) ใน 3 ประเทศยอดฮิตที่คนไทยชอบส่งลูกไปเรียนกัน ลองมาดูข้อมูลค่าใช้จ่ายและแผนการลงทุนเพื่อให้ได้เงินก้อนนี้กันค่ะ

หมายเหตุ: ค่าใช้จ่ายที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่หยิบมา ดังนั้นจึงสามารถผกผันตามตัวเลือกและปัจจัยที่ต่างกันไป

ส่วนที่หนึ่ง: ค่าใช้จ่ายการไปเรียนซัมเมอร์

(ตารางที่ 1: ค่าใช้จ่ายแบบแยกประเภทโดยประมาณ)

ตารางข้างบนแสดงค่าใช้จ่ายแบบแยกย่อยในแต่ละประเภท ซึ่งจริงๆ อาจจะมีมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ตามแต่ละกรณีที่แตกต่างกันไป ตรงนี้จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายโดยรวมอยู่ในหลักแสน แต่ไม่เกินสองแสน และทั้ง 3 ประเทศนี้ก็ไม่ได้ถูกแพงแตกต่างกันเท่าไรนัก ทั้งนี้ทั้งนั้น เรายังไม่ได้รวมค่าจิปาถะอื่นๆ เช่นพ็อกเก็ตมันนี่ หรือค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เนื่องจากค่อนข้างกะยาก ขอนับแค่ค่าใช้จ่ายหลักๆ นะ

ค่าใช้จ่ายตรงนี้เป็นข้อมูลปัจจุบัน นั่นหมายความว่าเป็นราคาที่จะต้องจ่ายหากจะส่งลูกไปเรียนตอนนี้เลย แต่ถ้าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ลูกยังโตไม่พอ ก็ต้องรอไปก่อน ซึ่งก็ต้องอย่าลืมว่ายิ่งเวลาผ่านไป ราคาตรงนี้จะสูงขึ้นจากผลกระทบของเงินเฟ้อ เงินที่มีตอนนี้อาจไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในอนาคตก็ได้ ลองไปดูกันว่าหากบวกเงินเฟ้อ 3% ต่อปีเข้าไป ค่าใช้จ่ายในแต่ละปีข้างหน้าจะเป็นเท่าไร

(ตารางที่ 2: ค่าใช้จ่ายรวมโดยประมาณ บวกเงินเฟ้อ ในอีกแต่ละปีข้างหน้า)

จะเห็นได้ว่า จากค่าใช้จ่ายเดิมในปัจจุบันจะสามารถเพิ่มขึ้นหลายหมื่นเลยทีเดียวหากคิดที่เงินเฟ้อปีละ 3% ดังนั้น ถ้าอยากส่งลูกไปเรียนในอนาคต ก็ต้องคำนวณเงินเฟ้อเผื่อไว้ด้วย เพื่อที่จะได้วางแผนค่าใช้จ่ายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ส่วนที่สอง: แผนการลงทุนเพื่อให้ได้เงินสำหรับเรียนซัมเมอร์

เมื่อเรารู้แล้วว่าในอนาคตเราต้องใช้เงินเท่าไร เราก็จะสามารถตั้งเป้าหมายสำหรับการลงทุนเพื่อให้ได้เงินก้อนนั้นๆ ได้ ในที่นี้เราขอยกตัวอย่างว่ามีเวลาเตรียมตัวอีก 5 ปี และ 10 ปี

(ตารางที่ 3, 4: เงินก้อนโดยประมาณที่ต้องลงทุน ระยะเวลา 5 และ 10 ปี บนอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ต่างกัน)

แน่นอนว่า หากระยะเวลาลงทุนของเรายาวนาน และเราสามารถทำผลตอบแทนได้สูง เงินต้นที่ต้องเตรียมก็จะน้อยกว่า แต่เนื่องจากผลตอบแทนเป็นสิ่งไม่แน่นอน ที่เราพอจะควบคุมได้ก็จะเป็นระยะเวลาการลงทุน ซึ่งยิ่งเราให้ระยะเวลานานเท่าไร ความเสี่ยงจากความผันผวนก็จะน้อยลง

บางคนอาจจะถามว่า ถ้าไม่มีเงินก้อน สามารถแบ่งลงทุน DCA แต่ละเดือนได้มั้ย? ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจำนวนที่ต้อง DCA ก็ไม่ได้สูงจนเกินไป อยู่ในระดับหลักพันเท่านั้นเอง

(ตารางที่ 5, 6: เงินที่ต้องลงทุนทุกเดือนโดยประมาณ ระยะเวลา 5 และ 10 ปี บนอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ต่างกัน)

จะเห็นได้ว่า หากมีวินัย และเริ่มต้นเร็ว หมั่นแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนทุกๆ เดือน ก็สามารถเตรียมค่าใช้จ่ายหลักๆ สำหรับส่งลูกไปเรียนซัมเมอร์ต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือนได้ หวังว่าแผนการเงินแบบคร่าวๆ นี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีไอเดียในการลงทุนเพื่อลูกนะ เราขอเป็นกำลังใจให้จ้า

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงด้านค่าใช้จ่ายจาก
educatepark.com