ถ้ามีไข่ 100 ฟอง และตะกร้า 100 ใบ เราจะจัดเรียงอย่างไรดีครับ ?
วิธีที่ 1 เอาไข่ใส่ทุกตะกร้า ๆ ละ 1 ฟอง … แต่พอจะยก อ้าว จะยกยังไงดี มือไม่พอถือ
วิธีที่ 2 เอาไข่ทั้งหมดใส่ในตะกร้าเดียว สะดวก ง่ายดี … แต่พอจะยก หนัก ยกไม่ขึ้น
ถ้าเลือกวิธีแรกน่าจะตรงกับคำพูดที่ว่า “Don’t put all your eggs in one basket” หรือ “อย่าเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียวกัน” เพราะถ้าเราวางไข่ 100 ฟอง ในตะกร้าใบเดียว อาจถือไม่ไหว โดนชนหกล้ม ตะกร้าตกไข่แตกหมด เช่นกัน การลงทุนถ้าไม่กระจายความเสี่ยง ถือหุ้นบริษัทเดียวเต็มพอร์ต พลาดท่าผิดทางโอกาสเสียหายขาดทุนหมดตัว
แต่ปัญหาของวิธีนี้น่าจะมีด้วยกัน 2 ข้อ คือ
- ลงทุนหลายอย่างเกินไป ดูแลได้ไม่ทั่วถึง หรือ ดูข้อมูลทั้งหมดไม่ไหว
- ไม่ได้ผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะหุ้นตัวที่โตมาก เราก็ใส่เงินไปไม่เยอะ แต่ในทางกลับกันก็จะเสียไม่เยอะเช่นกัน เพราะตัวที่ติดลบ เราก็ไม่ได้ลงเงินมาก
ถ้าเลือกวิธีที่สองน่าจะตรงกับคำพูดที่ Warren Buffett กล่าวไว้ว่า “I prefer to keep all my eggs in one basket and watch that basket closely.” หรือ “ผมเลือกเก็บไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว และจะคอยเฝ้าดูตะกร้านั้นอย่างใกล้ชิด”
เหตุผลก็เพราะว่า ในตอนเริ่มต้น เงินทุนน้อย ถ้ากระจายไปลงทุนหลายที่ พอร์ตมันก็ไม่โตสักทีสิ แต่ปัญหาของวิธีนี้ก็คือ อาจจะเสี่ยงเกินไป เพราะถ้าพลาดขึ้นมา เจ็บหนัก ถึงกับหมดตัวได้ เพราะไม่มีหุ้นตัวอื่นมาช่วยรองรับ
แล้วเราควรวางไข่ไว้ในตะกร้าอย่างไรดี ?
ถ้า “ไข่” คือ เงินทุนที่เรามี และ “ตะกร้า” คือหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เราจะลงทุน เราต้องเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่า เรากำลังจะเอาไข่ใส่ตะกร้าไปที่ไหน หรือ เป้าหมาย ในการลงทุนของเราคืออะไร ถ้า “เป้าหมาย” เราสูง เช่น เงินต้นหลักหมื่น แต่อยากมีเงินหลักล้านในเวลาไม่นาน การกระจายการลงทุนมากเกินไป ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะผลตอบแทนอาจโตไม่ทัน
มีตะกร้าแบบไหนให้เราเลือกบ้าง เรารู้จักตะกร้าแต่ละใบดีแค่ไหน เราควรหยิบตะกร้ากี่ใบดีที่จะถือไหว ซึ่งก็จะนำมาซึ่งประเด็นที่ควรพิจารณาแบบนี้
- การกระจายความเสี่ยงไม่ได้แปลว่า เราลงทุนหุ้น 5 ตัว ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพราะนั่นอาจเท่ากับการไม่กระจายความเสี่ยงเลยก็ได้
- ต้องไม่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ดูแล้วสุ่มเสี่ยงมากเกินไป เช่น หุ้น 10 ตัว มีแต่หุ้นวัฎจักร หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นที่ขึ้นกับค่าเงิน ราคาน้ำมัน หุ้นที่มีลูกค้าน้อยราย ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะเสี่ยงมากกว่าเดิมก็เป็นได้
- ต้องลงทุนในขอบเขตความรู้ของตัวเองเท่านั้น การลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้ถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เช่น ปิโตรเคมี น้ำมัน อิเล็กทรอนิกส์ อาจจะเป็นอะไรที่เราไม่เคยศึกษามาก่อน การที่เราไปลงทุนในบริษัทเหล่านี้ก็เรียกว่าเสี่ยงมากขึ้น
โดยสรุปแล้ว ก่อนที่จะเดินไปหยิบไข่ลงตะกร้า ให้พิจารณาถึงจุดหมายปลายทางของเราก่อนว่ากำลังจะเดินไปที่ไหน แล้วค่อยมาพิจารณาว่าจะหยิบไข่ใบไหน ใส่ตะกร้าแบบไหน เพื่อให้ไปถึงที่หมายโดยปลอดภัย ที่สำคัญเราต้องคอยประคบประหงมให้ดีอย่าให้ไข่ตกแตกระหว่างทาง เพื่อที่ว่า สุดท้าย ไข่ที่เราถือมาจะได้กลายเป็น “ไข่ทองคำ”
Stock Vitamins
ติดตาม Stock Vitamins ได้ที่
https://www.facebook.com/stock.vitamins/
ดูข้อมูลหุ้นย้อนหลัง 10 ปีได้ที่
https://www.finnomena.com/stock/
ผู้เขียน
