SCBAM Market Insight (23 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2561)

รายงานภาวะตลาด ประจำวันที่ 23 ก.พ. – 2 มี.ค. 2561

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง หลังจากที่บันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ ของเดือนมกราคมออกมา โดยที่ประชุมมองเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้ตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
  • ตลาดหุ้นจีน A-Share ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดอื่นทั่วโลกที่มีการปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้า หลังจากเปิดทำการจากวันหยุดตรุษจีน ในนณะที่จีนจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในวันที่ 5 มีนาคม
  • ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง หลังจากตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ปีที่แล้วออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ในขณะที่ตัวเลขการส่งออกในเดือนมกราคมยังคงขยายตัวราคาทองคำปรับตัวลงจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และตัวเลขการผลิตของประเทศ Venezuela ยังคงปรับตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน : ขายทำกำไรตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาจากช่วงกลางเดือน ก.พ. และซื้อหุ้นจีน A-share

แนะนำให้ขายทำกำไรตลาดที่ดีดกลับขึ้นมาจากช่วงกลางเดือน ก.พ. เนื่องจากตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มผันผวนต่อ หลังจากบันทึกการประชุมรอบเดือน ม.ค. ระบุว่า FED มีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2018 ทำให้ตลาดมีความกังวลว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีนี้

อย่างไรก็ตาม หุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น สนับสนุนการบริโภคและผลประกอบการบริษัท จึงแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นที่มีการปรับตัวลง

ตลาดตราสารทุน

  • ตลาดหุ้นจีน A-share: แนะนำให้ซื้อหุ้นจีน A-share หลังจากตลาดปิดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ตลาดหุ้น laggard ในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการดีดกลับ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนมักปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคในช่วงหลังจากวันหยุดยาว จากการศึกษาข้อมูลย้อนหลัง 10 ปีที่ผ่านมา
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: แนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังออกมาสูงกว่ารคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความกังวลเรื่องการใช้นโยบายการเงินที่รัดกุม นอกจากนี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นอีกปัจจัยซึ่งช่วยให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนดีขึ้น ขณะที่นาย Jerome Powell มีความเห็นที่เป็นค่อนข้างกลางกับนโยบายการเงิน จึงคาดว่า FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป
  • ตลาดหุ้นไทย: แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นไทย จากเศรษฐกิจที่มีสัญญาณดีขึ้นในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าเม็ดเงินในปี 61 จะสูงขึ้น รวมทั้งโครงการ EEC จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและการลงทุนระยะถัดไป
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น: แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดปรับตัวลงจากค่าเงินเยนแข็งค่าจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ valuation ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงมาในระดับที่น่าสนใจ ขณะที่นโยบายการเงินของ BOJ ยังมีทิศทางผ่อนคลายต่อไป หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสนับสนุนให้นาย Haruhiko Kuroda ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน BOJ อีกสมัย

คำแนะนำการลงทุน

แนะนำให้ลงทุนใน กองทุนหุ้นจีน A-share SCBCHA **

(ที่มา: SCBAM)

หมายเหตุ : Buy หมายถึง ซื้อ (+2), Sell หมายถึง ขาย (-2), Accumulate หมายถึง ทยอยเข้าซื้อสะสม (+1), Hold หมายถึง ชะลอการเข้าลงทุน (0) และ Trim หมายถึง ทยอยขายออกเพื่อทำกำไร (-1)

ตลาดตราสารหนี้

  • ตราสารหนี้ไทย: แนะนำเพิ่มการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน เพื่อเพิ่มผลตอบแทน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีอัตราผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ เงินเฟ้อไทยยังคงต่ำกว่ากรอบของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ: แนะนำให้เน้นลงทุนตราสารหนี้บริษัทเอกชนประเภท High Yield สหรัฐฯ จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง สนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเน้นให้ลงทุนในตราสารระยะสั้น เพื่อลดผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจากนโยบายการเงินตึงตัวในหลายประเทศ

คำแนะนำการลงทุน

แนะนำให้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ไทย SCBFP และกองทุน high yield short duration สหรัฐ  SCBUSHYA **

สินทรัพย์ทางเลือก

  • ทองคำ: แนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสมทองคำ จากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นโยบายลดภาษี รวมถึงการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไว้มากแล้ว ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ขาดปัจจัยหนุนให้แข็งค่า นอกจากนี้ นักลงทุนควรถือทองคำเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มักปรับตัวขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน
  • น้ำมัน:แนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสมน้ำมัน หลังจากตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ในขณะที่ความต้องการน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น และการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันได้อย่างไรก็ตามตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

คำแนะนำการลงทุน

แนะนำให้ลงทุนในกองทุนทองคำ SCBGOLDH และกองทุนน้ำมัน SCBOIL **


ที่มา : https://www.scbam.com/th/

SCBCHA Link https://www.scbam.com/medias/fund-doc/fund-summary-aimc/SCBCHA_FUNDSUM.pdf

SCBFP Link https://www.scbam.com/medias/fund-doc/fund-summary-aimc/SCBFP_FUNDSUM.pdf

SCBUSHYA Link https://www.scbam.com/medias/fund-doc/fund-summary-aimc/SCBUSHYA_FUNDSUM.pdf

SCBGOLDH Link https://www.scbam.com/medias/fund-doc/fund-summary-aimc/SCBGOLDH_FUNDSUM.pdf

SCBOIL Link https://www.scbam.com/medias/fund-doc/fund-summary-aimc/SCBOIL_FUNDSUM.pdf

**สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา บลจ.ไทยพาณิชย์ และผู้สนับสนุนการขายทุกราย

“ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” 

หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 22 ก.พ. 2561 

ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง

TSF2024