เดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา เกือบทุกสินทรัพย์ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะหุ้นจีนและฮ่องกง มีเพียงน้ำมันที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน โดยมีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบการลงทุน เช่น
1. การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรสหรัฐฯ โดย Fitch จาก AAA เป็น AA+
2. Yield พันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ แตะระดับ 4.36% ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ปี 2007 และอัตราดอกเบี้ยการกู้บ้าน 30 ปี พุ่งสู่ระดับ 7.31% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2000
3. การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของทั้งยุโรปและจีน
โดยเฉพาะหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนซึ่งเพิ่งผ่านพ้นการผิดนัดชำระแบบฉิวเฉียด และยังรุมเร้าไปด้วยหนี้ภาคท้องถิ่น ปัญหาทั้งโครงสร้างประชากรและความตึงเครียดกับสหรัฐฯ ซึ่งทำให้มุมมองระยะข้างหน้าไม่ดีเอาเสียเลยอย่างไรก็ตามดัชนีทั้ง CSI 300 และ Hang Seng ยังไม่ทำ Lower Low ใหม่ จึงมองว่ามีโอกาสอยู่บ้าง
Source: Deutsche Bank, Bloomberg Finance LP as of 01/08/2023
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ISM Non-Manufacturing PMI (สัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งเป็นดัชนีที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคบริการทั้งด้านกิจกรรมทางธุรกิจ ยอดคำสั่งซื้อใหม่, การจ้างงาน, การจัดส่งสินค้าของ Supplier ออกมาดีกว่าคาด ทำให้เรามองว่าเป็นจังหวะดีที่จะปรับพอร์ตในกองหุ้นที่ขึ้นมาแรงของปี
อีกทั้งยังเริ่มมีประเด็นเรื่องการต่อต้าน Apple ของจีนที่สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ภาครัฐงดใช้สินค้า Apple เป็นการตอกย้ำว่าเรื่อง Deglobalization ยังคงอยู่ และราคาหุ้นเริ่มเปราะบางต่อข่าวร้ายบ้างแล้ว
เราเห็นว่าท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น “อินเดีย” เป็นประเทศที่ได้ประโยชน์ในหลายด้าน ซึ่งมีโอกาสที่ flow จะไหลเข้าต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีเม็ดเงินต่างชาติอยู่ที่ราว 21.4% ซึ่งยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 25% โดยเน้นในกลุ่ม Financials & Consumer Discretionary และเมื่อเดือนสิงหาคม ตลาดย่อลงมาหลังทำ new-high จึงมองว่าเป็นโอกาสเข้าซื้อเพื่อล้อไปกับผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด
ประกอบกับโรงกลั่นน้ำมันในอินเดียได้ประโยชน์อย่างมากจากการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียเพื่อนำมากลั่นและส่งออก ล่าสุดยอดการส่งออกน้ำมันดีเซลของอินเดียไปยังสิงคโปร์ทำสถิติสูงสุดในรอบ 19 เดือน ทะลุ 330,000 เมตริกตันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากสิงคโปร์มีค่าขนส่งที่ถูกกว่า และมีปริมาณสต็อกอยู่ในระดับต่ำ โดยรายงานจาก Reuter ได้อ้างอิงข้อมูล Big Data จาก Refinitiv, Vortexa และ Kpler แสดงให้เห็นว่า อินเดียมีการส่งออกน้ำมันดีเซลประมาณ 330,000-439,000 ตันไปยังสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคม
Source: Reuter as of 24/08/2023
เรามองว่า Winner ของปีนี้ เช่น Nasdaq, S&P500, Nikkei, Topix, FTSE MIB, DAX มีการเติบโตดีในขณะที่มูลค่าเริ่มตึงตัว และตามสถิติแล้ว “เดือนกันยายน” มักเป็นเดือนที่แย่สำหรับ S&P500 อีกด้วย หากพิจารณาจากผลตอบแทนในช่วง 5, 10, 20 ปีย้อนหลัง ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบเชิง Relative Valuation methods และแนวทางการจัดพอร์ตแบบ Mean Reversion แล้วเราจึงมี Action ดังนี้
1. Take profit ในกองทุนที่มีกำไรตั้งแต่ช่วงเริ่มลงทุน ได้แก่ MEGA10-A, ASP-NGF, SCBGEARA, UGIS-N
โดยเฉพาะ UGIS-N ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม และเราคาดว่าหากจะ outperform ได้ ดอกเบี้ยต้องกลับทิศเป็นขาลงแบบชัดเจน
2. ลดน้ำหนัก ASP-DIGIBLOC เล็กน้อย
หากกรณีคำขอออก BITCOIN SPOT ETF หลายรายอาจจะยังไม่ได้รับการอนุมัติในรอบนี้ ซึ่งจะกระทบกับ performance ของกองทุน
3. เพิ่มน้ำหนัก Loser of August (Hang seng -9% ในรูปสกุล USD) โดยกองทุนที่ตรงสเปคคือ ASP-HSI
ซึ่งกองทุนหลักลงทุนใน ETF ที่ล้อไปกับดัชนี Hang Seng Hong Kong โดยต้องจับตาหากไม่ทำ new low มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้
4. เพิ่มน้ำหนัก SCBINDIA ตามมุมมองเชิงบวกข้างต้น
5. เพิ่มน้ำหนักในกองทุนตลาดเงินเพื่อรองรับหากตลาดหุ้น US เทลงมา เราชอบ ASP-DPLUS ผลตอบแทนสม่ำเสมอบวกทุกวัน
Quantum Global Opportunities (QGO)
ปั้นพอร์ตเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมเฟ้นหาโอกาสในทุกช่วงเวลา Quantum Global Opportunity
👉 ลงทะเบียน คลิก >>> https://finno.me/quantum-wealth-ws
บทความโดย Quantum Wealth สำหรับพอร์ต Quantum Global Opportunity (QGO) ที่ FINNOMENA เท่านั้น
ข้อมูล ณ วันที่ 11 กันยายน 2023
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทําให้ผู้ลงทุน ขาดทุนหรือได้รับกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | บางกองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by Krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299