พอร์ตกองทุนพร้อมลุยทุกสภาวะตลาด
A.Stotz All-Weather Portfolio
พอร์ตแนะนำโดย Coach Gigs, The Asset Allocation Investor
พอร์ตการลงทุนจากทีมงานโดย Finnomena Funds ร่วมกับทีมงานของ Dr. Andrew Stotz
- เป้าหมาย 5-7% ต่อปีในระยะยาว (ไม่การันตี) โดยปัจจุบันผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 7.28% ต่อปี (ข้อมูลเมื่อ 30/06/2024)
- มียอดเงินลงทุนแล้วมากกว่า 1,870 ล้านบาท โดยเป็นพอร์ตโมเดลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันดับ 2 ใน Finnomena Funds
- ไม่ต้องคอยติดตามสถานการณ์ตลาดเอง ระบบจะแจ้งเตือนให้คุณปรับพอร์ตอัตโนมัติ ตามน้ำหนักสินทรัพย์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
- เน้นให้เงินเติบโตไม่เน้นปันผล สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว พร้อมลงทุนระยะกลาง 3 ปีขึ้นไป
A.Stotz All-Weather Portfolio เหมาะกับใคร ?
มีเงินก้อน ต้องการให้เงินเติบโตในระยะยาว
มีเวลาติดตามตลาดน้อย อยากลงทุนแบบไร้กังวล
ต้องการลงทุนในพอร์ตที่ยืดหยุ่น และไม่ผันผวนมากเกินไป
พอร์ต All Weather Strategy มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ มุ่งเน้นเพิ่มพูนและปกป้องความมั่งคั่ง แนะนำลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป
มีทีมงานช่วยติดตามสถานการณ์ตลาดเสมอ และแจ้งปรับพอร์ตเมื่อต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนสินทรัพย์
ปรับสัดส่วนสินทรัพย์ตามความเหมาะสม พร้อมคุมความเสี่ยงขาลงในแต่ละช่วงเวลา
A.Stotz All-Weather Portfolio เหมาะกับใคร ?
มีเงินก้อน ต้องการให้เงินเติบโตในระยะยาว
พอร์ต All Weather Strategy มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ มุ่งเน้นเพิ่มพูนและปกป้องความมั่งคั่ง แนะนำลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป
มีเวลาติดตามตลาดน้อย อยากลงทุนแบบไร้กังวล
มีทีมงานช่วยติดตามสถานการณ์ตลาดเสมอ และแจ้งปรับพอร์ตเมื่อต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนสินทรัพย์
ต้องการลงทุนในพอร์ตที่ยืดหยุ่น และไม่ผันผวนมากเกินไป
ปรับสัดส่วนสินทรัพย์ตามความเหมาะสม พร้อมคุมความเสี่ยงขาลงในแต่ละช่วงเวลา
สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว
All Weather Strategy มุุ่งหวังที่จะเพิ่มพูนและปกป้องความมั่งคั่งระยะยาว ผ่านการกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการลงทุนแบบ Passive เพื่อเน้นสะท้อนผลตอบแทนเมื่อเทียบกับตลาด โดยปรับพอร์ตปีละ 2-4 ครั้ง ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Global, Long-term, Diversified
วิเคราะห์โดย FVMR Framework
เน้นสัดส่วน 25% ใน 3 สินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญผ่านแนวคิด FVMR
Fundamental
(พื้นฐานของสินทรัพย์ )
เช่น เทรนด์การเติบโตของผลกำไร ศักยภาพการทำกำไร
Valuation
(มูลค่าของสินทรัพย์)
เช่น Price to Book, PE to EPS Growth (PEG)
Momentum
(โมเมนตัมของสินทรัพย์)
ดูแนวโน้มการทำกำไร ราคาสินทรัพย์ เพื่อป้องกันการเผชิญ Value Trap
Risk
(ความเสี่ยง)
เช่น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) ความเสี่ยงของตลาด (Market Risk)
สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว
AWS มุุ่งหวังที่จะเพิ่มพูนและปกป้องความมั่งคั่งระยะยาว ผ่านการกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการลงทุนแบบ Passive เพื่อเน้นสะท้อนผลตอบแทนเมื่อเทียบกับตลาด โดยปรับพอร์ตปีละ 2-4 ครั้ง ใช้กลยุทธการลงทุนแบบ Global, Long-term, Diversified
วิเคราะห์โดย FVMR Framework
ในระยะสั้น เน้นสัดส่วน (Conviction) 25% ไปที่สินทรัพย์ 3 สินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ผ่านหลักแนวคิด FVMR ที่ช่วยให้นักวิเคราะห์ ไม่พลาดตกหล่นปัจจัยที่เกี่ยวข้องไป
Fundamental
(พื้นฐานของสินทรัพย์ )
เช่น เทรนด์การเติบโตของผลกำไร ศักยภาพการทำกำไร
Valuation
(มูลค่าของสินทรัพย์)
เช่น Price to Book, PE to EPS Growth (PEG)
Momentum
(โมเมนตัมของสินทรัพย์)
ดูแนวโน้มการทำกำไร ราคาสินทรัพย์ เพื่อป้องกันการเผชิญ Value Trap
Risk
(ความเสี่ยง)
เช่น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) ความเสี่ยงของตลาด (Market Risk)
Fundamental
(พื้นฐานของสินทรัพย์ )
เช่น เทรนด์การเติบโตของผลกำไร ศักยภาพการทำกำไร
Valuation
(มูลค่าของสินทรัพย์)
เช่น Price to Book, PE to EPS Growth (PEG)
Momentum
(โมเมนตัมของสินทรัพย์)
ดูแนวโน้มการทำกำไร ราคาสินทรัพย์ เพื่อป้องกันการเผชิญ Value Trap
Risk
(ความเสี่ยง)
เช่น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) ความเสี่ยงของตลาด (Market Risk)
สินทรัพย์ที่ลงทุนในพอร์ต
หุ้น
ได้เป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลและการปรับขึ้นของราคาหุ้น
ตราสารหนี้
ปล่อยกู้ให้บริษัทและรัฐบาล มีความเสี่ยงต่ำ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและการปรับขึ้นของราคาตราสารหนี้
สินค้าโภคภัณฑ์
วัตถุดิบต่างๆ เช่น พลังงาน อาหาร เหล็ก มีความเสี่ยงสูง เป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตออกไป
ทองคำ
เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุด มีความเสี่ยงสูง เปรียบเสมือน Safe Haven ในการลงทุนเมื่อเกิดความเสี่ยงขึ้นในตลาด
ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง ของ A.Stotz All Weather Strategy เทียบกับพอร์ต 60/40 แบบดั้งเดิม (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567)
ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้เป็นการการันตีผลตอบแทนในอนาคต
ปกติแล้วในการจัดพอร์ตการลงทุน จะมีสัดส่วนที่คนนิยมคือแบบ 60/40 หรือการลงทุนในหุ้น 60% ตราสารหนี้ 40% ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว ที่ผ่านมา A.Stotz All Weather Strategy สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า การกระจายการลงทุนแบบดังกล่าวภายใต้ความผันผวนที่ต่ำกว่า*
ถ้านับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต A.Stotz All Weather Strategy ปรับขึ้นกว่า 45.5% ขณะที่ พอร์ต 60/40 ปรับตัวขึ้นเพียง 28%
*ผลงานของพอร์ต 60/40 คำนวนจาก NAV 60% ของ MSCI AC World & KKP PGE-H และ NAV 40% ของ SCBGLOB โดยจัดเป็นดัชนีชี้วัดของพอร์ตการลงทุนนี้
ผลตอบแทนของ A.Stotz All Weather Strategy เทียบกับพอร์ตการลงทุน 60/40 ในทุกช่วงเวลา
(ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567)
ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้เป็นการการันตีผลตอบแทนในอนาคต
สำหรับนักลงทุนที่สนใจใช้บริการ
กรอกข้อมูลเพื่อรับบริการพิเศษจากเราได้ ฟรี!
3 ขั้นตอนเริ่มต้นลงทุน
1. กรอกข้อมูลแสดงความสนใจ
ศึกษาข้อมูลของแผนการลงทุนที่กูรูแต่ละท่านนำเสนอ ตรวจสอบว่าเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนหรือไม่และกรอกข้อมูลแสดงความสนใจ
2. เปิดบัญชีลงทุน
สามารถเปิดบัญชีได้ทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ Finnomena เอง ลงทุนได้กว่า 1,680 กองทุนจาก 21 บลจ.
3. ลงทุนตามคำแนะนำ
เลือกลงทุนในแผน All Weather Strategy เมื่อมีคำแนะนำให้ปรับพอร์ต ระบบจะแจ้งผ่าน Notification และอีเมลในวันถัดไป ให้กดทำรายการด้วยตนเองได้ทันที
รายละเอียดเพิ่มเติม
ชื่อแผนการลงทุน
A. Stotz All Weather Strategy
เงินลงทุนขั้นต่ำ
500,000 บาท
แนวทางการปรับพอร์ต
Rebalance ทุกไตรมาส หรือ เมื่อต้องการลดความเสี่ยงสินทรัพย์อย่างมีนัยยะ
ระยะเวลาลงทุนแนะนำ
ระยะยาว
แผนสำรองกรณีกูรู ต้องการยกเลิกการให้คำแนะนำ
Finnomena Goal ความเสี่ยง 6
อ่านมุมมองล่าสุดได้ที่นี่
อัปเดตพอร์ต All Weather Strategy ธันวาคม 2024: เพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน มองปัจจัยลบผ่านไปแล้ว!
มีเงิน 500,000 บาท จัดพอร์ตยังไงให้ชนะทุกสภาวะตลาด
อัปเดตพอร์ต All Weather Strategy พฤศจิกายน 2024: ปีที่ดีที่สุดของทองคำในรอบหลาย 10 ปี
คำถามที่พบบ่อย
ท่านสามารถลงทะเบียนในฟอร์มข้างล่างนี้ คลิก ระบบจะนำท่านไปสู่การสร้างแผนและเปิดบัญชีกับทาง Finnomena
เมื่อเปิดบัญชีสำเร็จระบบจะทำการส่ง Notification / Email สัดส่วนการลงทุนให้ท่านต่อไป
การเปิดบัญชีผ่าน Finnomena นอกจากจะสามารถลงทุนใน 1,680 กองทุนจาก 21 บลจ. ได้ทันทีแล้ว นักลงทุนจะได้รับคำแนะนำสัดส่วนในการลงทุนของพอร์ตที่ท่านเลือกไว้ ทั้งนี้ในอนาคตหากมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุน ท่านจะได้รับ Notification / Email แจ้งเตือนทันที
พอร์ตการลงทุนทุกพอร์ตในแคมเปญนี้ เป็นพอร์ตการลงทุนที่ทีมงาน Finnomena Funds ได้ขอคำปรึกษาในด้านแนวคิดจากกูรู และทำการออกแบบร่วมกันเพื่อให้มีแนวคิดใกล้เคียงกับสิ่งที่กูรูต้องการมากที่สุด
สามารถลงทุนได้
หมายเหตุ: สำหรับลูกค้า Nomura โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพอร์ตการลงทุนของท่าน หรือ ติดต่อ 02-026-5100 เพื่อรับคำแนะนำในการลงทุนพอร์ตของแคมเปญนี้
สำหรับท่านที่ลงทุนในพอร์ตกูรู หากมีการปรับสัดส่วนการลงทุนเกิดขึ้น ท่านจะได้รับ Notification / Email แจ้งเตือนในทันที
ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการจัดพอร์ตแต่อย่างใด
(ยังมีค่าธรรมเนียมการซื้อ ขาย และการจัดการกองทุน ที่เป็นค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปเมื่อนักลงทุน ลงทุนในกองทุนอยู่แล้ว)
แผนนี้เป็นการจัดพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไปที่สามารถซื้อขายได้ในตลาด
500,000 บาท ขั้นต่ำนี้เพื่อให้ท่านสามารถลงทุนได้ในสัดส่วนของพอร์ตตามแนวคิดที่กูรูวางไว้
พอร์ตการลงทุนจากทีมงาน Finnomena Funds ร่วมกับทีมงานของ Dr. Andrew Stotz
- อดีตดำรงตำแหน่ง Head Of Research ที่ CLSA
- นักวิเคราะห์อันดับหนึ่งของประเทศไทยจากผลสำรวจของ Asiamoney Brokers ประจำปี 2008 – 2009 และจากรายงานของ All-Asia Research Team ซึ่งจัดทำโดยนิตยสาร Institutional Investor
- อดีตประธาน CFA Society แห่งประเทศไทย 2 สมัย
- ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- พอร์ตการลงทุนแนะนำในกองทุนรวมถูกจัดทำขึ้นร่วมกันระหว่างกูรูด้านการเงินแต่ละราย และตรวจสอบความถูกต้องโดยทีมงานนักวิเคราะห์ของของบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
- การให้ข้อมูลสำหรับติดต่อของท่าน ถือเป็นการยอมรับให้บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด และบริษัท ฟินโนมีนา จำกัด ติดต่อท่านได้โดยตรงเท่านั้น ข้อมูลส่วนตัวของท่านจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ
- ผู้ลงทุนควรศึกษาคู่มือภาษีของกองทุนรวมดังกล่าวด้วย
- ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน