กองทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedging) คืออะไร? ดีหรือไม่ดี? I Club Fund Day SS2

เวลาที่เราหาข้อมูลกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ นอกจากนโยบายการลงทุนแล้ว จะมี “นโยบายค่าเงิน” พ่วงติดมาด้วยเสมอ ซึ่งเป็นการบอกว่ากองทุนนั้นมีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน (Hedging) หรือไม่

การ Hedging คืออะไร? แล้วควรเลือกกองทุนไหนระหว่างกองที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินกับกองที่ไม่มี? เชิญรับฟังกันได้เลยครับ

สรุปประเด็นจากพอดแคสต์

Hedge แปลว่า การป้องกันความเสี่ยง ยกตัวอย่างเช่น เรามีร้านค้าร้านหนึ่ง แล้วเราทำประกันน้ำท่วมไว้ ก็แสดงว่าเรากำลัง hedge หรือป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับร้านค้าของเราอยู่
ในเรื่องกองทุน การ Hedge มักหมายถึง การป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน เป็นหลัก
คอนเส็ปต์ของการ Hedge ไม่ใช่การที่ทำให้เราได้กำไรมากขึ้น แต่เป็นการใช้เครื่องมือทางการเงินบางอย่างเพื่อลดผลกระทบ กรณีผลลัพธ์ไม่เป็นไปในทางที่เราต้องการ
นโยบายการ Hedge จะมีเฉพาะในกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเท่านั้น โดยอ่านได้ในหนังสือชี้ชวนว่ากองทุนนั้นมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินหรือไม่ แล้วถ้ามี เป็นการป้องกันความเสี่ยงบางส่วนหรือป้องกันทั้งหมด
การไปลงทุนในต่างประเทศ กองทุนต้องแลกเงินบาทเป็นสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ซึ่งเวลาแลกกลับมาเป็นเงินบาท ค่าเงินอาจจะผันผวน ซึ่งอาจจะกระทบต่อผลกำไรของกองทุนได้
ถ้าเงินบาทอ่อน กำไรจะมากขึ้น ถ้าเงินบาทแข็ง กำไรจะน้อยลง
ดังนั้นการที่กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยง จะทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเงินบาทกำลังจะอ่อนหรือแข็ง แต่นั่นก็หมายความว่าถ้าเงินบาทเกิดอ่อนขึ้นมา เราก็ต้องยอมเสียผลกำไรที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนไป
สำหรับหลักการเลือกว่าจะลงทุนในกองที่มีการ Hedge ค่าเงินหรือไม่มีนั้น ถ้าเกิดว่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงในอนาคต การเลือกกองทุนที่ Unhedge ค่าเงินจะช่วยให้ผลกำไรที่ได้มากขึ้น ส่วนถ้าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น เราก็ควรเลือกกองทุนที่ช่วย Hedge ทำการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินให้เรา
อย่างไรก็ตาม จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนด้วย ถ้าเกิดเรากังวลกับการขึ้นๆ ลงๆ ของค่าเงิน การเลือกกองทุนที่ Hedge ค่าเงินให้เรา ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่สบายใจ ทำให้เราลงทุนได้อย่างต่อเนื่องครับ

ช่วงนี้รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ พบกันใหม่ Club Fund Day ตอนหน้า สวัสดีครับ