และแล้วเราก็เดินทางก้าวเข้าสู่เดือน 11 ของปี 2021 เหลืออีกแค่เพียง 2 เดือนเราก็ต้องโบกมือลาปี 2021 ไปเสียแล้ว บทความนี้จึงขอทำคอนเทนต์ที่ล้อไปกับวันที่ 11 เดือน 11 สักหน่อย โดยเราจะพาทุกคนไป ส่อง 11 กองทุนผลตอบแทน 1 ปีสุดปังจาก 11 หมวดกองทุน จะมีกองทุนไหนบ้าง? และจะใช่กองทุนเหล่านี้ที่คุณมีอยู่รึเปล่า? เชิญทุกท่านติดตามได้ในบทความนี้
หุ้นสหรัฐฯ
KWI USBANK-A (+79.27%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Manulife Advanced Fund SPC – U.S. Bank Equity Segregated Portfolio – Class AA (USD) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน KWI USBANK-A จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 7
กองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้น และ/หรือ ตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับหุ้น ที่ออกโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจธนาคาร และ/หรือ สถาบันการเงินที่จัดตั้งหรือดําเนินธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมธนาคาร, ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 10,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1 บาท
หุ้นเวียดนาม
PRINCIPAL VNEQ-A (+78.70%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลัก ในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต รวมทั้งตราสารทุนอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องและ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ ทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม และ/หรือตราสารทุนของผู้ประกอบการเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอื่น และ/หรือกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเทศเวียดนาม โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในประเทศเวียดนาม, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท
ซื้อกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A คลิก
หุ้นตลาดเกิดใหม่
KWI EE EURO (+75.33%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Manulife Global Fund – Emerging Eastern Europe Fund Class AA (USD) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน KWI EE EURO จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นซึ่งมีการจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศในแถบยุโรปตอนกลางและตะวันออก เช่น ประเทศรัสเซีย สาธารณรัฐเชค ฮังการี โปแลนด์ เป็นต้น
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy) และการเงิน (Financials), ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในประเทศรัสเซีย, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 10,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1 บาท
หุ้นไทย
TLMSEQ (+68.67%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยกองทุน TLMSEQ จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, ความเสี่ยงของลักษณะหุ้นที่กองทุนรวมเน้นลงทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Mid/Small
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท
หุ้นอินเดีย
B-BHARATA (+63.76%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน RAMS Equities Portfolio Fund – India Equities Portfolio Fund – Class I (USD) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน B-BHARATA จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุนหลักมีนโยบายมุ่งหาผลตอบแทนจากการเพิ่มมูลค่าของเงินลงทุนในระยะยาวผ่านการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนของบริษัทที่จัดตั้งหรือดำเนินธุรกิจในอินเดีย โดยจะลงทุนในตลาดอินเดียไม่น้อยกว่า 90% ของ NAV
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรม Financials และประเทศอินเดีย, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 500 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 500 บาท
หุ้นยุโรป
K-EUSMALL (+58.09%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Invesco Continental European Small Cap Equity Fund – Class C (EUR) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน K-EUSMALL จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุนหลักมีนโยบายมุ่งลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนและ/หรือตราสารทุนที่เกี่ยวข้อง (equity-related) ของบริษัทขนาดเล็กในตลาดยุโรป (รวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิ และหลักทรัพย์แปลงสภาพ โดยต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) ซึ่งรวมถึงประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป สวิสเซอร์แลนด์ สแกนดิเนเวีย บัลแกเรีย โรมาเนีย โครเอเชีย ตุรกี และประเทศเครือรัฐเอกราช ทั้งนี้ ไม่รวมสหราชอาณาจักร
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรม Industrials, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน ไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนต่างประเทศ)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 500 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 500 บาท
หุ้นเอเชีย
K-ASIA (+48.17%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Templeton Asian Smaller Companies – Class I (USD) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน K-ASIA จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็ก (Small-cap) ที่ดำเนินธุรกิจหลักในภูมิภาคเอเชีย
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรม Information Technology และ Consumer Discretionary, และประเทศอินเดีย, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน ไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนต่างประเทศ)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 500 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 500 บาท
หุ้นเทคโนโลยี
B-INNOTECH (+45.41%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Fidelity Funds – Global Technology Fund Class Y (USD) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน B-INNOTECH จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 7
กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์กระบวนการ หรือบริการ อันจะนํามาซึ่งประโยชน์อย่างสูงจากความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรม Information Technology และประเทศสหรัฐอเมริกา, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 500 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 500 บาท
หุ้นญี่ปุ่น
ASP-NGF (+39.01%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Nippon Growth (UCITS) Fund เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน ASP-NGF จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นและหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของบริษัทญี่ปุ่ นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวหรือโอโซก้า หรือในตลาด หลักทรัพย์อื่นที่เป็นที่ยอมรับแพร่หลาย โดยกองทุนจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของสินทรัพย์ตลอดเวลา ในบริษัทที่มีสินทรัพย์ส่วนใหญ่ หรือมีรายได้จากธุรกิจในญี่ปุ่นและไม่ต่ำกว่า 51%
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรม Consumer Discretionary และ Financials และประเทศญี่ปุ่น, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท
หุ้น Healthcare
KWI HCARE-A (+29.31%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Manulife Global Fund – Healthcare Fund (Class AA) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน KWI HCARE-A จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 7
กองทุนหลักเน้นการลงทุนส่วนใหญ่ในหุ้นของบริษัทในกลุ่ม Health Care และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั่วโลกซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยอาจลงทุนในบริษัทที่มีรายได้อย่างมีนัยสําคัญจากบริษัทที่ผลิตและให้บริการด้านการแพทย์และเภสัชกรรม
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมการแพทย์ (Health Care), ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 10,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1 บาท
หุ้นจีน
KT-ASHARES-A (+19.93%)
นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน Allianz Global Investors Fund – Allianz China A-Shares Class PT (USD) เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยกองทุน KT-Ashares-A จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์การลงทุนโดยเน้นการเติบโตของมูลค่าเงินทุนระยะยาวจากการลงทุนในตลาดหุ้น A-Shares ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่น้อยกวา 70% ของ NAV
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรทราบ: ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในสาธารณรัฐประชาชนจีน, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ประมาณ 50-100% ของเงินลงทุนต่างประเทศ)
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท
.
ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังจาก FINNOMENA FUND สามารถกรองการจัดอันดับได้เอง พร้อมข้อมูลอัปเดตล่าสุดที่ FINNOMENA Fund Filter
อัปเดตตัวเลข ณ วันที่ 27 ต.ค. 2564: B-INNOTECH, ASP-NGF, KT-Ashares-A
อัปเดตตัวเลข ณ วันที่ 28 ต.ค. 2564: KWI USBANK-A, PRINCIPAL VNEQ-A, KWI EE EURO, TLMSEQ, B-BHARATA, K-EUSMALL, K-ASIA, KWI HCARE-A
— planet 46.
อ้างอิง
- https://www.principal.th/sites/default/files/fund-documents/Thailand%20Site/th_PRINCIPAL_VNEQ_FFS.pdf
- https://www.talisam.co.th/wp-content/uploads/2021/09/FFS-TLMSEQ.pdf
- https://www.bangkokbank.com/-/media/files/personal/save-and-invest/mutual-funds/fund-information/b-bharata/b-bharata_factsheet_th.pdf?la=th-th&hash=FE08BBC4979395D9AFF1DE1FFD06A67B5BAC4A95
- https://www.kasikornasset.com/FundDocument/Fund_Fact_Sheet/K-EUSMALL.pdf
- https://www.kasikornasset.com/FundDocument/Fund_Fact_Sheet/K-ASIA.pdf
- https://www.bangkokbank.com/-/media/files/personal/save-and-invest/mutual-funds/fund-information/b-innotech/b-innotech_factsheet_th.pdf?la=th-th&hash=959C9209882D6BFD16BC1681433EFDF4988B1C17
- https://www.assetfund.co.th/home/assetplus/upload_otherdocs/ASP-NGF_fundfactsheet.pdf
- https://www.ktam.co.th/document_fund/fundfactsheet/Factsheet_th_KT-Ashares-A.pdf
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”