หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า “Blockchain” ผ่านหูกันมาบ้างแล้ว เพราะถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มาแรงมากในช่วงนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว Blockchain ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 และในปัจจุบันก็ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับกองทุน Blockchain แรกในประเทศไทยนั่นคือกองทุน “SCBBLOC” กองทุนน้องใหม่จากบลจ.ไทยพาณิชย์ ที่เพิ่งเปิดให้ซื้อขายกันในวันที่ 18 ส.ค. 2564 ซึ่งก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับกองทุน SCBBLOC ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Blockchain กันก่อนสักนิดว่ามันคืออะไร? และเทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างไรบ้าง?

Blockchain คืออะไร?

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

Blockchain เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง โดยระบบนี้จะทำให้ข้อมูลที่ถูกบันทึกไปแล้วเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ยาก ซึ่ง Blockchain ถือเป็นหัวใจสำคัญของสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นระบบที่ทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ ใน crypto ecosystem ดำเนินไปได้ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Blockchain ก็ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการเงิน การท่องเที่ยว พลังงาน หรือแม้แต่กระทั่งภาครัฐของประเทศต่าง ๆ เองก็นำเทคโนโลยี Blockchain ไปประยุกต์ใช้

องค์ประกอบสำคัญของ Blockchain

  • Distributed Ledger Technology (DLT) หรือเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย – ระบบดิจิทัลสำหรับบันทึกธุรกรรม ซึ่งธุรกรรมและรายละเอียดต่าง ๆ จะถูกบันทึกในหลายที่พร้อมกันโดยไม่มีที่เก็บข้อมูลส่วนกลาง
  • Immutable Records – การบันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง และแทรกแซงได้
  • Smart Contracts – ชุดคำสั่งที่จัดเก็บเงื่อนไขหรือข้อตกลงของสัญญาต่าง ๆ ในเครือข่าย Blockchain โดยจะดำเนินการอัตโนมัติเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด 

ประโยชน์ของ Blockchain

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

  • มีความโปร่งใสมากขึ้น – ความโปร่งใสเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ในอุตสาหกรรมปัจจุบันเนื่องจากยังใช้ระบบฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ (Centralized) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain องค์กรต่าง ๆ จะสามารถใช้เครือข่ายแบบกระจายศูนย์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตรงนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานของภาครัฐได้ด้วย เช่น การทำสัญญาภาครัฐ การลงคะแนนเสียงต่าง ๆ เป็นต้น
  • ความปลอดภัยขั้นสูง – Blockchain ใช้เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น เครือข่าย Blockchain จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อมูลได้หากบันทึกไปแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลได้ หรือหากมีแฮ็กเกอร์พยายามแฮ็กข้อมูลก็ทำได้ยากมาก ๆ
  • ตรวจสอบย้อนกลับได้ทันที – ด้วยเทคโนโลยี Blockchain จะทำให้ Supply Chain มีความโปร่งใสมากกว่าเดิม เนื่องจากช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถติดตามสินค้าได้ในทุกขั้นตอน หมดปัญหาเรื่องสินค้าสูญหาย พร้อมทั้งมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือนำไปใช้ในทางที่ผิดในระหว่างกระบวนการ Supply Chain 
  • ลดต้นทุน – เนื่องจาก Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ “ไร้ตัวกลาง” จึงทำให้องค์กรหรือบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถลดต้นทุนจากค่าธรรมเนียมที่ถูกเรียกเก็บโดยตัวกลางไปได้มาก
  • เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็ว – ด้วยเทคโนโลยี Blockchain จะช่วยแก้ปัญหากระบวนการที่ใช้เวลานานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำธุรกรรม นอกจากนี้ยังขจัดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ได้โดยการใช้ระบบอัตโนมัติ

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกกับ FINNOMENA รับหน่วยลงทุน PCASH มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 65 คลิก https://finno.me/havefund-promotion

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

ประโยชน์ของ Blockchain
ที่มา: https://101blockchains.com/benefits-of-blockchain-technology/ 

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

ตัวอย่างบริษัทที่นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
ที่มา: https://101blockchains.com/companies-using-blockchain-technology/ 

ลงทุนใน Blockchain นวัตกรรมพลิกโฉมโลกด้วยกองทุน SCBBLOC

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

กองทุน SCBBLOC หรือ SCB Blockchain จาก บลจ.ไทยพาณิชย์ มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ กองทุน Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุน SCBBLOC จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6

กองทุนหลัก (Master Fund) มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี Elwood Blockchain Global Equity Index โดยใช้กลยุทธ์การลงทุน แบบ Replication Strategy ที่มีเป้าหมายให้ผลการดำเนินงานของกองทุนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับ ผลตอบแทนของดัชนีดังกล่าว (Passive Management)

สำหรับดัชนี Elwood Blockchain Global Equity Index เป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัททั่วโลกที่มีส่วนร่วม หรือมีความ เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศ Blockchain (Blockchain Ecosystem)

จุดเด่นของกองทุน SCBBLOC

  • เป็นกองทุนแรกในประเทศไทยที่มีนโยบายลงทุนในเทคโนโลยี Blockchain
  • มี Exposure ทางอ้อมใน Cryptocurrency ผ่านการลงทุนในหุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องแต่มีความผันผวนด้านราคาต่ำกว่าการลงทุนใน Cryptocurrency โดยตรง
  • ประเภทของกองทุนหลักคือ ETF ซึ่งมีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวัน
  • กองทุนหลักกระจายลงทุนใน 45-75 บริษัททั่วโลกเพื่อรองรับการเติบโตในระบบนิเวศธุรกิจ Blockchain

ลงทุนในกองทุน SCBBLOC แล้วจะได้ลงทุนในบริษัทอะไรบ้าง?

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

Sector & Country Exposure ของ Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF (ข้อมูล ณ วันที่ 10/08/2021)
ที่มา: https://etf.invesco.com/gb/private/en/product/invesco-elwood-global-blockchain-ucits-etf-acc/index-components

หากดูจากสัดส่วนประเทศที่กองทุน Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF ไปลงทุนแล้วก็จะเห็นได้ว่าให้น้ำหนักลงทุนในประเทศสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเป็นหลัก ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมก็จะให้น้ำหนักกับกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและกลุ่มการเงินเป็นหลัก 

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

Top 10 Holdings ของ Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF (ข้อมูล ณ วันที่ 10/08/2021)
ที่มา: https://etf.invesco.com/gb/private/en/product/invesco-elwood-global-blockchain-ucits-etf-acc/index-components 

  • Bitfarms (6.33%) — บริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนในแคนนาดาที่ทำเหมืองขุดคริปโตเคอเรนซีในอเมริกาเหนือ บริษัทเป็นผู้จัดหาพลังงานสำหรับการประมวลผลเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin โดยรับค่าธรรมเนียมจากแต่ละเครือข่ายสำหรับการรักษาความปลอดภัยและการประมวลผลธุรกรรม
  • Coinbase (4.68%) — บริษัทฟินเทคสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีทางการเงินแบบ end-to-end โดยเน้นสร้าง cryptoeconomy ซึ่งเป็นระบบการเงินที่โปร่งใสที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้ใช้บริการสามารถแลกเปลี่ยน ลงทุน และใช้จ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มของ Coinbase ได้ โดย Coinbase ถือเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
  • Monex Group (4.29%) — บริษัทโฮลดิ้งในประเทศญี่ปุ่นที่ให้บริการธุรกิจหลักทรัพย์ออนไลน์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) ตลอดจนการให้บริการให้คำปรึกษาด้านการควบรวมกิจการ (M&A) ให้บริการทั้งในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยส่วนใหญ่จะให้บริการทางการเงินแบบบูรณาการและบริการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯ และฮ่องกง
  • Kakao (3.83%) — บริษัทสัญชาติเกาหลีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น KaKaoTalk แอปพลิเคชันแชทส่งข้อความออนไลน์, KakaoGames เกมบนมือถือและพีซี, Melon แอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลง, KakaoBank บริการธนาคารออนไลน์ บัตรเดบิตเครดิต พร้อมทั้งเปิดให้บริการ KakaoPay ซึ่งเป็นบริการ Mobile Payment และ Digital Wallet ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้จุดขายอีกอย่างของ Kakao คือ Kakao Friends ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์การ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ของทางบริษัท โดย Kakao Friends ถูกนำไปใช้กับแพลตฟอร์มหรือสินค้าและบริการต่าง ๆ ของ Kakao มากมาย

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

Master Card ลาย Kakao Friends ของ KakaoBank
ที่มา: https://www.kakaobank.com/ 

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

รีวิว SCBBLOC: กองทุน Blockchain สุดยอดนวัตกรรมพลิกโฉมโลก

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของ Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF (ข้อมูล ณ วันที่ 10/08/2021)
ที่มา: https://etf.invesco.com/gb/private/en/product/invesco-elwood-global-blockchain-ucits-etf-acc/performance 

มาดูที่ผลการดำเนินงานย้อนหลังของ Master Fund อย่าง Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF กันบ้าง อย่างที่บอกไปในช่วงต้นบทความว่า Master Fund ของกองทุน SCBBLOC เขามีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุนแบบ Passive Management มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด ซึ่งดัชนีดังกล่าวก็คือ Elwood Blockchain Global Equity Index จากรูปด้านบนจึงเห็นได้ว่าผลการดำเนินงานของ Master Fund ค่อนข้างล้อไปกับ Index แม้จะต่างกันไปบ้าง แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าเกลียดอะไร ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2020-2021) สามารถทำผลตอบแทนไปได้ถึง 72.93% เลยทีเดียว

ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน SCBBLOC 

กองทุน SCBBLOC จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยมีปัจจัยความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ความเสี่ยงจากความผันผวนของผลการดำเนินงาน (SD): >25%
  • ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน 
  • ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว: มีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐฯ และญี่ปุ่น และหมวดอุตสาหกรรม Informational Technology และ Financials 

อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยการจัดพอร์ตการลงทุนโดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดพอร์ตการลงทุนจากฟินโนมีนาได้ที่ https://www.finnomena.com/port/

ค่าธรรมเนียมต่างๆ ของกองทุน SCBBLOC

SCBBLOC(A)

  • ค่าธรรมเนียมการขายและ Switching-in: 1.07%
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: 1.16737% (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น)

SCBBLOC(E)

  • ค่าธรรมเนียมการขายและ Switching-in: ปัจจุบันยกเว้นไม่เรียกเก็บ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: 0.09737% (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น)

เงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน SCBBLOC

  • มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1 บาท 
  • มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1 บาท

กองทุน SCBBLOC เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain
  • ผู้ที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังต่างประเทศ
  • ผู้ที่สนใจลงทุนใน Cryptocurrency แต่ไม่อยากลงทุนโดยตรงเนื่องจากกังวลเรื่องความผันผวนด้านราคา
  • ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้ รวมถึงสามารถรับความเสี่ยงได้สูงเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

— planet 46. 

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกกับ FINNOMENA รับหน่วยลงทุน PCASH มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 65 คลิก https://finno.me/havefund-promotion

อ้างอิง


คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”