หากพูดถึง “กัญชา” แต่ก่อนเราอาจจะนึกไปถึงสารเสพติดผิดกฎหมายชนิดหนึ่งที่เสพแล้วทำให้มึนเมาและเคลิบเคลิ้ม แต่สำหรับตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะกัญชาได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก และ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ก็ได้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในตลาดกัญชาจึงได้สรรค์สร้างกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกัญชาทั่วโลก เป็นกองทุนแรกในประเทศไทย นั่นคือกองทุน “MCANN” ที่เปิด IPO ในวันที่ 19 – 27 เมษายนนี้ แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักกับกองทุน MCANN เรามาทำความรู้จักกับพืชมหัศจรรย์อย่างกัญชาให้มากขึ้นสักนิดดีกว่าว่ากัญชาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ได้อย่างไรบ้าง และทำไมตลาดกัญชาจึงมีความน่าสนใจ
ทำความรู้จักกับ “กัญชา” พืชมหัศจรรย์
กัญชา หรือ Cannabis เป็นพืชให้ดอกชนิดหนึ่งในวงศ์ Cannabidaceae มีต้นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียกลาง และกระจายการปลูกอยู่ในหลาย ๆ ส่วนของโลก โดยมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น Cannabis, Marijuana, Ganja หรือบางครั้งก็เรียกว่า Indian Hemp
ในกัญชามีสารที่ชื่อว่า CBD (Cannabidiol) และ THC (Tetrahydrocannabinol) ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารสำคัญที่ทำให้กัญชาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ได้ สำหรับสาร CBD จะมีคุณสมบัติในการลดอาการเจ็บปวด ลดอาการอักเสบของแผล ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดอาการชักเกร็ง และลดอาการคลื่นไส้ ส่วนสาร THC จะมีคุณสมบัติต่อจิต ประสาท ทำให้เกิดความผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการตึงเครียดได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นความอยากอาหารอีกด้วย หากพูดให้เข้าใจกันง่าย ๆ สาร CBD จะมีฤทธิ์ในการ “ระงับประสาท” ส่วนสาร THC จะมีฤทธิ์ในการ “กระตุ้นประสาท” นั่นเอง
สำหรับสายพันธุ์กัญชาจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ซาติวา (Cannabis sativa) สายพันธุ์อินดิกา (Cannabis indica) และสายพันธุ์รูเดอราลิส (Cannabis ruderalis) ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่แตกต่างกันไปดังนี้
- สายพันธุ์ซาติวา (Cannabis sativa) มีสาร THC ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้รู้สึกคึกคักอารมณ์ดี กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์จึงได้รับความนิยมในหมู่นักปรัชญา ศิลปิน และนักดนตรี
- สายพันธุ์อินดิกา (Cannabis indica) เป็นสายพันธุ์ที่มีสาร CBD โดดเด่นจึงมีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวดและช่วยระงับประสาท ใช้เพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการปวดเรื้อรัง และช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ
- สายพันธุ์รูเดอราลิส (Cannabis ruderalis) สายพันธุ์นี้จะมีระยะเวลาออกดอกที่สั้นและมีปริมาณ THC ที่ต่ำมากจึงถูกนำไปผสมกับสองสายพันธุ์แรกเพื่อให้ได้พันธุ์กัญชาที่มี CBD และ THC สูง
เปิดบัญชีกองทุนประหยัดภาษี SSF RMF กับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนประหยัดภาษีมากกว่า 10 บลจ.
คลิก https://finno.me/open-plan
กัญชาทั้ง 3 สายพันธุ์
ที่มา: https://www.cannhealth.org/
ส่วนของกัญชาที่ถูกจัดเป็นสารเสพติด ได้แก่ บริเวณใบ ยอดช่อดอก และกิ่งก้านที่นำมาตากแดดจนแห้งแล้วบดให้ละเอียด ส่วนของกัญชาที่ไม่ถือว่าเป็นสารเสพติด ได้แก่ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย สารสกัด CBD ที่มี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2% และกากที่เหลือจากการสกัดกัญชา ซึ่งต้องมี THC ไม่เกิน 0.2%
ส่วนของกัญชาและกัญชงที่ไม่เป็นยาเสพติด
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
อย่าสับสน! กัญชาและกัญชงไม่เหมือนกันนะ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องมีความสับสนระหว่าง “กัญชา” และ “กัญชง” อาจจะคิดว่าทั้ง 2 อย่างนี้คือพืชชนิดเดียวกัน แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดเดียวกันแต่พืชทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างกันอยู่ค่อนข้างมาก ประการแรกเลยคือ “ลักษณะทางกายภาพ” ความสูงของต้นกัญชาจะไม่สูงมากหากเทียบกับกัญชง โดยต้นกัญชาจะมีความสูงไม่เกิน 2 เมตร มีลักษณะเป็นต้นพุ่ม แตกกิ่งก้านสาขาค่อนข้างมาก มีใบสีเขียวจัด 5-7 แฉก เรียงชิดกัน ในขณะที่ต้นกัญชงขะมีความสูงมากกว่า 2 เมตร มีลักษณะลำต้นสูงเรียว แตกกิ่งก้านสาขาน้อย มีใบสีเขียวอ่อนประมาณ 7-11 แฉก เรียงสลับกันค่อนข้างห่าง
นอกจากจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะทางกายภาพแล้วยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของ “ปริมาณสารสกัด” ที่ได้จากพืชทั้ง 2 ชนิดนี้อีกด้วย อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่าสารสำคัญของกัญชาจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ สาร THC และ สาร CBD
ในกัญชงก็มีสารทั้ง 2 ชนิดนี้เช่นกัน แต่สำหรับกัญชาจะมีสาร THC ในปริมาณที่มากกว่ากัญชง โดยสาร THC ที่อยู่ในกัญชาจะมีปริมาณประมาณ 1-20% ในขณะที่สาร CBD จะเป็นสารที่พบได้ในกัญชงมากกว่ากัญชา โดยพบประมาณ 2% สำหรับประโยชน์อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจของกัญชงคือสามารถนำไปเป็นเส้นใยในการผลิตเสื้อผ้าได้ เนื่องจากกัญชงเป็นพืขที่ให้เส้นใยยาว มีความละเอียดใกล้เคียงกับลินิน มีความเหนียวทนทาน และเงางาม
ตลาดกัญชาน่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงต้องลงทุน?
- ตลาดกัญชามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราการเติบโตของตลาดกัญชาทั่วโลกจะอยู่ที่ 33% ต่อปี ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025 และจะมีมูลค่าสูงถึงหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ยที่ 17.1% ต่อปีต่อเนื่องจนถึงปี 2025 และจะมีมูลค่ารวมกว่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ประเทศที่ใช้กัญชาทางการแพทย์แบบถูกกฎหมายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดประเทศไทยได้ปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา เป็นชาติแรกในอาเซียน
- กองทุนกัญชามีความสัมพันธ์กับดัชนีหุ้นโลกไม่สูงมาก จึงเหมาะแก่การลงทุนเพื่อเป็นกลยุทธ์การกระจายการลงทุน
เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลกด้วยกองทุน MCANN
สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 22 บลจ. ครอบคลุมทุกบลจ. ในประเทศไทย สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan
กองทุน MCANN หรือกองทุน MFC Global Cannabis Fund จากบลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) มี นโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Cannabis) หรือกัญชง (Hemp) ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งรวมถึงบริษัทที่สร้างรายได้หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษาวิจัย การพัฒนา การเพาะปลูก การผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผลิตภัณพ์ทางด้านกัญชาหรือกัญชงจะมีรูปลักษณ์และคุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามการใช้ประโยชน์ เช่น การผลิตเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ได้แก่ การผลิตเป็นยา อาหาร สมุนไพร หรือเครื่องสำอาง เป็นต้น หรือการผลิตเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ ยานยนต์ หรือ กระดาษ เป็นต้น โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6
กองทุน MCANN จะลงทุนในหลักทรัพย์ ดังต่อไปนี้
- The Global X Cannabis ETF (POTX) ETF ที่มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการแบบ Passive เน้นการเติบโตและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงในระยะยาว
- Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) ETF ที่ลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชาทั่วโลกที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว
- หุ้นทั่วโลกของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Cannabis) หรือกัญชง (Hemp) ที่ถูกกฎหมายเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุน
โดยกองทุน MCANN จะเน้นลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 60-100% ใน The Global X Cannabis ETF (POTX) และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40-100% จะลงทุนใน Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) และ/หรือ หุ้นกัญชา (Cannabis) ทั่วโลก โดยกองทุน MCANN ถือเป็นกองทุนแรกในประเทศไทยที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกัญชา
ลงทุนใน MCANN แล้วจะได้ลงทุนบริษัทอะไรบ้าง?
สำหรับ ETF ที่กองทุน MCANN ลงทุนจะมีอยู่หลัก ๆ 2 กองทุนด้วยกัน นั่นคือ POTX และ CNBS แต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนอย่างไรและลงทุนในหุ้นของบริษัทอะไรกันบ้าง ติดตามได้ในหัวข้อนี้เลย
-
The Global X Cannabis ETF (POTX)
POTX ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกัญชา ซึ่งรวมไปถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องในแง่ของการเพาะปลูก การผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฎหมาย รวมถึงบริษัทที่ให้บริการทางการเงินกับอุตสาหกรรมกัญชา บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกัญชาเพื่อการแพทย์ cannabidiol หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะสารสกัด สารที่พัฒนาจากกัญชา หรือสารสังเคราะห์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามดัชนีอ้างอิง (Cannabis Index)
Sector Breakdown และ Country Breakdown ของ The Global X Cannabis ETF (POTX) (ข้อมูล ณ วันที่ 31/03/2021)
ที่มา: https://www.globalxetfs.com/funds/potx/
Top 10 Holdings ของ The Global X Cannabis ETF (POTX) (ข้อมูล ณ วันที่ 06/04/2021)
ที่มา: https://www.globalxetfs.com/funds/potx/
- GW Pharmaceuticals (9.90%) — บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการจัดจำหน่ายการบำบัดโดยใช้ cannabinoid ที่เป็นกรรมสิทธิ์การรักษาด้วยสารสกัด CBD โดยผลิตยา Epidoilex® เพื่อใช้สำหรับรักษาอาการชักอย่าง Tuberous Sclerosis Complex และ Rett Syndrome ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่รุนแรงและพบได้ยาก
- Aphria (9.85%) — ดำเนินธุรกิจในการผลิตและจัดจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคและสันทนาการ
- Tilray (8.10%) — ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม โดยเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์กัญชาให้กับตัวแทนจำหน่ายยา บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยกัญชาทางการแพทย์ การเพาะปลูก การแปรรูป และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทั่วโลก
-
Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS)
CNBS ลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชาทั่วโลกอย่างน้อย 80% ของสินทรัพย์ของกองทุน โดยหุ้นที่กองทุนลงทุนต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้อย่างน้อย 50% ขึ้นไปจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกัญชาและกัญชงอย่างถูกกฎหมาย 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการผลิตยา ไบโอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์จากกัญชงและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 2) ด้านการสนับสนุน เช่น เทคโนโลยีทางการเกษตร การบริการทางการค้า และพื้นที่เพาะปลูก 3) ด้านการส่งเสริม เช่น การลงทุนด้านเครื่องจักร การเงิน การลงทุน สื่อและเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนรวมสูงสุดให้กับผู้ลงทุน (active management)
อุตสาหกรรมกัญชาและกัญชงทั้ง 3 ด้านของ CNBS
ที่มา: Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) Fund Factsheet
กองทุนนี้บริหารจัดการโดย Tim Seymour มีประสบการณ์การลงทุนมากกว่า 20 ปีในฐานะผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอผู้จัดสรรและผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนในสินทรัพย์หลายประเภท Tim Seymour เป็นนักลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชาตั้งแต่ระยะแรก ๆ และทำหน้าที่เป็นกรรมการหรือเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทกัญชาเอกชนหลายแห่ง
Tim Seymour
ที่มา: https://www.newcannabisventures.com/
Market Segments และ Region Allocation ของ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) (ข้อมูล ณ วันที่ 31/03/2021)
ที่มา: https://amplifyetfs.com/cnbs-holdings.html
Top 10 Holdings ของ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) (ข้อมูล ณ วันที่ 08/04/2021)
ที่มา: https://amplifyetfs.com/cnbs-holdings.html
- Canopy Growth (9.54%) — ดำเนินธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์กัญชาของบริษัทมีตั้งแต่น้ำมันกัญชา สารสกัดเข้มข้นจากกัญชา ซอฟท์เจลแคปซูล ไปจนถึงกัญชงโดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาอาการปวดเรื้อรัง อาการชัก กล้ามเนื้อกระตุก คลื่นไส้ และอาการเบื่ออาหาร
- Silver Spike Acquisition (9.26%) — เป็นบริษัท blank check company (SPAC) ที่มุ่งเน้นไปที่ตลาดกัญชาและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามที่เกี่ยวข้อง โดยรวมถึงธุรกิจที่มีการสนับสนุนและส่งเสริมด้านกัญชาแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเพาะปลูก การผลิต การแปรรูป ฯลฯ
- Village Farms (7.60%) — เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเรือนกระจกแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดและดำเนินการมายาวนานที่สุดในอเมริกาเหนือ บริษัทมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสในการเป็นผู้นำแบบบูรณาการในตลาด CBD ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากกัญชาในสหรัฐอเมริกาภายใต้กฎหมายของรัฐบาล โดยได้จัดตั้งกิจการร่วมค้าอย่าง Village Fields Hemp สำหรับการปลูกกัญชงการแจ้งในหลายรัฐ
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานของ The Global X Cannabis ETF (POTX) (ข้อมูล ณ วันที่ 28/02//2021)
ที่มา: The Global X Cannabis ETF (POTX) Fund Factsheet
** ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต **
ผลการดำเนินงานของ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) (ข้อมูล ณ วันที่ 31/03/2021)
ที่มา: https://amplifyetfs.com/cnbs
** ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต **
ตามที่ได้บอกไปในหัวข้อที่แล้วว่ากองทุน POTX มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการกองทุนแบบ Passive Management จึงทำผลตอบแทนออกมาได้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงอย่าง Cannabis Index โดยในรอบหนึ่งปีทำผลตอบแทนไปได้ 53.20% ส่วนกองทุน CNBS ที่มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการกองทุนแบบ Active Management สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังหนึ่งปีไปได้ถึง 232.80%
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน MCANN
กองทุน MCANN จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยมีปัจจัยความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ความเสี่ยงจากความผันผวนของผลการดำเนินงาน (SD): >25% (สูง)
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม: 50-80% โดยมีการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรม Pharmaceuticals
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง: >80% โดยมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศแคนนาดา และประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยการจัดพอร์ตการลงทุนโดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดพอร์ตการลงทุนจากฟินโนมีนาได้ที่ https://www.finnomena.com/port/
ค่าธรรมเนียมต่างๆ ของกองทุน MCANN
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.605%
- ค่าธรรมเนียมการขาย: 1.0% (ช่วง IPO) และ 1.50% (หลัง IPO)
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: 1.9635%
เงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน MCANN
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
- มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท
กองทุน MCANN เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Cannabis) หรือกัญชง (Hemp)
- ผู้ที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังต่างประเทศหรืออุตสาหกรรมกัญชา
- ผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
- ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้
— planet 46.
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจกัญชาทั่วโลก : Alpha Investor: EP02 “เจาะเทรนด์ กัญชา มาจริง หรืออิงกระแส
สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 22 บลจ. ครอบคลุมทุกบลจ. ในประเทศไทย สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan
อ้างอิง
- https://www.globalxetfs.com/funds/potx/
- https://amplifyetfs.com/cnbs
- https://www.reuters.com/companies/GWPH.O
- https://www.reuters.com/companies/APHA.TO
- https://www.reuters.com/companies/TLRY.OQ
- https://www.reuters.com/companies/WEED.TO
- https://www.reuters.com/companies/SSPKU.OQ
- https://www.reuters.com/companies/VFF.TO
- https://www.medcannabis.go.th/blog/สายพันธุ์กัญชา
- https://www.cannhealth.org/content/1133/thc-and-cbd
- https://www.cannhealth.org/content/4202/cannabis-strains-for-disease-treatment
- https://www.prachachat.net/d-life/news-618836
- https://www.satapornbooks.co.th/imgadmins/product_pdf/201910_01_Kaancha.pdf
- http://www.cmpo.moph.go.th/cmp3/attachments/article/1282/ดร.กัญชา%201-43.pdf
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”