เทียบหมัดต่อหมัด!! หุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) vs หุ้นกู้ Crowdfunding ต่างกันอย่างไร?

ในปี 2022 ที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อสูง ส่งผลให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นมาจนถึงปี 2023 ซึ่งส่งผลดีต่อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย และ “ตราสารหนี้” ก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์จากช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นนี้

ตราสารหนี้แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้เอกชน หรือหุ้นกู้ ซึ่งนอกจากหุ้นกู้ปกติที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว ในปัจจุบันยังมีการลงทุนแบบใหม่อย่าง “หุ้นกู้ Crowdfunding” ด้วย 

มาดูกันว่าหุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) กับ หุ้นกู้ Crowdfunding แตกต่างกันอย่างไร และอะไรจะน่าสนใจกว่ากัน? แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับหุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) และหุ้นกู้ Crowdfunding เพิ่มเติมกันสักหน่อยว่ามันคืออะไร

อ่านเพิ่มเติม ตราสารหนี้ คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการลงทุนตราสารหนี้ที่พลาดไม่ได้!

หุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) คืออะไร?

หุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) เป็นหุ้นกู้ที่ถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) หรือต่ำกว่า BBB ซึ่งถือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bonds) จึงมีความเสี่ยงสูงที่ผู้กู้จะใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ โดยไม่สามารถตรวจสอบหรือควบคุมได้ มีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk) และเนื่องจากหุ้นกู้ประเภทนี้มีความเสี่ยงสูง ทำให้ผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยจึงสูงตามไปด้วย

ปกติแล้วผู้ออกหุ้นกู้ดอกเบี้ยสูงจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ถึงขนาดกลาง โดยมีระยะเวลาถือครองค่อนข้างยาว ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป และสามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง (Secondary Market) สำหรับนักลงทุนในฐานะผู้ให้กู้หรือเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยและส่วนต่างราคาเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน

หุ้นกู้ Crowdfunding คืออะไร?

Crowdfunding เป็นการระดมทุนจากนักลงทุนหรือบุคคลทั่วไปในจำนวนเงินไม่มาก แต่มาจากหลาย ๆ คนรวมกันจนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นตัวกลาง เพื่อนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การต่อยอดธุรกิจ นำไปเป็นกระแสเงินสดหรือเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ฯลฯ โดยสามารถออกในรูปแบบของ “หุ้นกู้ Crowdfunding” หรือ “Debt Crowdfunding” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธุรกิจ SMEs หรือ Startup

หุ้นกู้ Crowdfunding มีระยะเวลาถือครองค่อนข้างสั้น จึงทำให้มีสภาพคล่องสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไปบางฉบับ ส่วนผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับในฐานะผู้ให้กู้หรือเจ้าหนี้จะอยู่ในรูปแบบเดียวกันกับหุ้นกู้ทั่วไปคือดอกเบี้ยคงที่ แต่ผลตอบแทนของหุ้นกู้ Crowdfunding อาจจะสูงขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ประมาณ 4-15% ต่อปี

ทั้งนี้ หุ้นกู้ Crowdfunding ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนรูปแบบหนึ่ง จึงอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งกำกับดูแลโดยสำนักงาน กลต. ทำให้มีความน่าเชื่อถือ

อ่านเพิ่มเติม หุ้นกู้ Crowdfunding คืออะไร ? ทำความรู้จักการลงทุนรูปแบบใหม่ในธุรกิจ SMEs ลงทุนระยะสั้น แต่ผลตอบแทนสูง

หุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) และ หุ้นกู้ Crowdfunding ต่างกันอย่างไร

เทียบหมัดต่อหมัด!! หุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) vs หุ้นกู้ Crowdfunding ต่างกันอย่างไร?

หุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond) – ผลตอบแทนอยู่ในรูปของดอกเบี้ยและส่วนต่างราคา มีการจัดอันดับเครดิตโดย Credit Rating Agency และมีเรตติ้งต่ำกว่า BBB ใช้ข้อมูลงบการเงิน และข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ในการจัดอันดับเครดิต หุ้นกู้มีทั้งแบบมีสินทรัพย์ค้ำประกันและไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน มีระยะเวลาลงทุนค่อนข้างยาวตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ผู้ออกหุ้นกู้เป็นบริษัทขนาดใหญ่ถึงขนาดกลาง ซื้อขายขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และสามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง เรื่องความเสี่ยงมีโอกาสที่ผู้กู้จะใช้เงินผิดจุดประสงค์ โดยไม่สามารถตรวจสอบหรือควบคุมได้ โดนการดูแลและติดตามหลังการกู้จะขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทผู้ออกหุ้นกู้

หุ้นกู้ Crowdfunding – ผลตอบแทนอยู่ในรูปของดอกเบี้ยเท่านั้น มีการจัดอันดับเครดิตโดย Internal scoring model ซึ่งจัดทำโดยแพลตฟอร์มหุ้นกู้ Crowdfunding ที่ใช้ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพ เช่น งบการเงิน ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ข้อมูลการทำธุรกิจจากคู่ค้าทางธุรกิจ และ/หรือ หลักฐานการชำระคืนเพื่อควบคุมความเสี่ยง เป็นต้น โดยมีระยะเวลาลงทุนค่อนข้างสั้นอยู่ที่ 1-12 เดือน ผู้ออกหุ้นกู้เป็นบริษัทขนาดกลางถึง SMEs ซื้อขายขั้นต่ำที่ 50,000 บาท และไม่มีการซื้อขายในตลาดรอง การดูแลและติดตามหลังการกู้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์หรือนโยบายการป้องกันความเสี่ยงของแต่ละแพลตฟอร์ม

ตอนนี้กลุ่ม FINNOMENA ได้ร่วมกับแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้งในประเทศไทยอย่าง Siam Validus เปิดให้ผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ Crowdfunding ลงทุนผ่าน FINNOMENA ได้แล้ว ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://finno.me/svdwsatc

และสามารถ Add LINE เพื่อติดตามข่าวสารได้ที่ @siamvalidusdefinit หรือคลิก https://lin.ee/ud9dk51

— planet 46.

อ้างอิง


คำเตือน

การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่มีความรู้และเข้าใจในด้านความเสี่ยง และมีความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนของตนเอง โดยการลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผู้ลงทุนควรพิจารณาเป็นการลงทุนจนครบกำหนดอายุของหุ้นกู้และไม่มีสภาพคล่อง รวมทั้ง หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่ไม่ได้รับประกันความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม และไม่ได้รับความคุ้มครองจากหน่วยงานใดๆ ของรัฐ ซึ่งผู้ลงทุนอาจจะสูญเสียเงินลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมดได้ ดังนั้น ผู้ลงทุนจำเป็นต้องทำความเข้าใจลักษณะของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ศึกษารายละเอียดในหนังสือชี้ชวน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสามารถรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

TSF2024