TISCOAI vs MEGA10AI

Highlight


เชื่อไหมว่า… AI จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเราไปอย่างสิ้นเชิง

AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานไม่ว่าจะองค์กรเล็กหรือใหญ่

AI จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตก้าวกระโดดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

และ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโลกอนาคตอันใกล้นี้ แบบที่ใครก็คาดไม่ถึง

หากคุณเชื่อแบบนั้น เราอยากจะพามารู้จักกับ กองทุนหุ้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เราเรียกกันว่า AI: Artificial Intelligence เพื่อไม่ให้พลาดการเกาะขบวนแห่งการเติบโตรอบนี้

ทำไมนาทีนี้ ธีม AI ถึงน่าสนใจ?

1. AI จะเป็นเมกะเทรนด์ของโลก และสร้างกำไรให้บริษัทเทคโนโลยีได้จริง

TISCOAI vs MEGA10AI

Source: gartner.com as of 23/08/2023

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI กำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้นด้วยพัฒนาการอันรวดเร็ว งานวิจัยจาก Gartner ชี้ให้เห็นว่า Hype Cycle ของกลุ่ม AI ยังมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างมากในช่วง 2-5 ปีถัดจากนี้

TISCOAI vs MEGA10AI

Source: Bloomberg Intelligence as of 01/06/2023

โดยเฉพาะ Generative AI ซึ่ง Bloomberg Intelligence คาดการณ์ว่าจะกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2032 คิดเป็นอัตราการเติบโต (CAGR) กว่า 42% ในช่วง 10 ปี 

รายได้ที่เกิดขึ้นส่วนใญ่จะไปตกอยู่กับกลุ่มผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ AI Server, AI storage, AI infrastructure as a service และอีกกลุ่มที่น่าจะกินส่วนแบ่งก้อนใหญ่ก็คือผู้ให้บริการ Software ต่าง ๆ ในปัจจุบัน

ซึ่งท้ายสุดแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์จริง ๆ ล้วนแต่เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มี Data Center และมีพลังเงินในการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น Microsoft (MSFT), Alphabet (GOOGL), Amazon (AMZN) เป็นต้น

2. Valuation ไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้แพงจนฟองสบู่ และยังมีทางให้ไปต่อ

หุ้นธีม AI หลายตัวกลายมาเป็นบริษัทที่ Market Cap. สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเป็นเรียบร้อย และราคาหุ้นกลุ่มนี้ไม่เคยถูก คำถามคือเราเรียกว่าฟองสบู่ได้หรือยัง? 

หากเทียบกับช่วง Dot Com Crisis ปี 2000 หุ้นเทคโนโลยีที่ใหญ่สุด 10 อันดับแรก เทรดกันที่ P/E 52 เท่า ส่วนปัจจุบันเทรดกันบน P/E 28 เท่า หากดูตามนี้ก็ถือว่ายังห่างไกลกับคำว่าฟองสบู่

3. ดอกเบี้ยพีคแล้ว เป็นเวลาของหุ้นเติบโต Outperform

อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ค้างอยู่ในระดับสูงมานานแล้ว โดยอยู่ที่ 5.25-5.50% มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี 

แม้ว่า Fed จะเลื่อนการลดดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือการปิดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยแน่นอนแล้ว และหากเปลี่ยนทิศเป็นทิศทางดอกเบี้ยขาลงเมื่อไหร่ ก็จะเป็นโอกาสให้หุ้น Growth กลับมา Outperform อีกครั้ง

กองทุนที่เน้นลงทุนหุ้น AI มีอะไรบ้าง

กองทุนหุ้น AI

สำหรับใครที่ตามหากองทุนที่มีเน้นการลงทุนแบบโฟกัสในหุ้น AI อย่างแท้จริง และมีกลยุทธ์คัดเลือกหุ้น AI โดยเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากหุ้นเทคโนโลยีทั่วไป ปัจจุบันมีให้เลือก ได้แก่

 

แต่บทความนี้อยากจะพาไปเจาะรายละเอียดกับ 2 กองทุน AI มาแรงที่มีนักลงทุนสนใจกันมาก นั่นคือ TISCOAI และ MEGA10AI พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่ากองไหนเหมาะกับใครมากกว่ากัน

รีวิวกองทุน TISCOAI

TISCOAI vs MEGA10AI

นโยบายการลงทุน: ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Xtrackers AI and Big Data โดยจะคัดเลือกบริษัทที่มีสิทธิบัตรด้าน AI และ Big Data ทั้งหมด 88 บริษัทที่อยู่ในดัชนี Nasdaq Global Artificial Intelligence and Big Data (NYGBIG) ซึ่งมีเงื่อนไขคือต้องมี Market Cap. มากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เน้นหาหุ้นที่สร้างนวัตกรรมใหม่จากข้อมูลสิทธิบัตรใน 7 ธีม ได้แก่ Deep Learning, Image Recognition, Natural Language Processing (NLP) & Chatbots, Big Data, Cloud Computing, Speech Recognition & Chatbots และ Cybersecurity

จุดเด่น: ระยะแรกเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนา AI มาระดับหนึ่งแล้ว ส่งผลให้ผลตอบแทนช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างโดดเด่น แต่ใน Universe การลงทุนก็เปิดโอกาสให้สามารถเลือกหุ้นได้ทั่วโลก ทั้งที่เป็น Large-cap, Mid-cap และ Small-cap จึงมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตแต่ละครั้ง เพื่อรับโอกาสการเติบโตในเฟสถัด ๆ ไป

ตัวอย่างหุ้น Top 10 Holding (คิดเป็นสัดส่วน 47.08%% ของทั้งหมด)

  1. Nvidia 7.66%
  2. Meta Platforms 5.42%
  3. Amazon 5.12%
  4. Alphabet 4.96%
  5. Microsoft 4.53%
  6. Salesforce 4.26%
  7. Bank of America 3.92%
  8. Apple 3.89%
  9. Samsung Electronics 3.85%
  10.  SAP SE 3.48%

รีวิวกองทุน MEGA10AI

TISCOAI vs MEGA10AI

นโยบายการลงทุน: ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งที่เป็นบริษัทผู้ผลิต และผู้พัฒนาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ 4 ธีมหลัก ได้แก่ Generative AI, AI Software, AI Service และ AI Data & Infrastructure โดยจะคัดเลือกเพียง 10 หุ้นที่มี Market Cap. สูงสุด และมีสภาพคล่องสูงเท่านั้น 

จุดเด่น: ใช้หลักการเลือกหุ้นแบบ Rule Based Investing Approach ที่ชัดเจน คือดูในเรื่องความเกี่ยวข้องกับ AI อย่างมีนัยสำคัญ งบ R&D ที่บริษัทใช้พัฒนา และโฟกัสเฉพาะหุ้น Large-cap ในพอร์ตเพียง 10 ตัวเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมี Class ของกองทุนให้เลือกหลากหลาย ทั้งชนิดสะสมมูลค่า MEGA10AI-A และรูปแบบกองทุนลดหย่อนภาษี MEGA10AI-SSF MEGA10AIRMF

ตัวอย่างหุ้น Top 10 Holding (กระจายลงทุนแบบ Equal Weight)

  1. Microsoft
  2. Nvidia
  3. Alphabet
  4. Meta
  5. TSMC
  6. Apple
  7. Amazon
  8. Oracle
  9. Broadcom
  10. AMD

เปรียบเทียบ TISCOAI vs MEGA10AI เลือกกองทุนไหนดี?

TISCOAI vs MEGA10AI

สรุปแล้วจะเห็นว่าทั้ง 2 กองทุนมีธีมหลักที่เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI เหมือน ๆ กัน แต่จุดแตกต่างคือการลงทุนใน MEGA10AI-A นั้นกระจุกอยู่ที่หุ้น Big Tech เพียง 10 บริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้ชนะในการพัฒนาเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมา เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง โตแล้วล้มยาก และมีโอกาสทิ้งห่างคู่แข่งไปเรื่อย ๆ  

ส่วน TISCOAI แม้หน้าหุ้น 10 ตัวแรกจะใกล้เคียงกัน แต่คิดเป็นครึ่งเดียวของพอร์ต แปลว่ายังมีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้น Mid-Small Tech อีกทั้งนโยบายของกองทุนยังเปิดกว้างให้ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยจะเห็นว่ามีชื่อของ Samsung Electronics ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตด้วย ดังนั้น ข้อดีของ TISCOAI จึงเป็นเรื่องของการจัดพอร์ตที่ยืดหยุ่นกว่า เน้นค้นหาโอกาสที่ยังมองไม่เห็น จากบริษัทที่มีสิทธิบัตรด้าน AI เพื่อรับ Upside สูงในอนาคต 

เปรียบเทียบกองทุน TISCOAI vs MEGA10AI ด้วยตัวเอง คลิกที่นี่ 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง: Gartner.com, Bloomberg Intelligence, Nasdaq Global AI and Big Data Index, Fund Fact Sheet TISCOAI, Fund Fact Sheet MEGA10AI

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

TSF2024