ดัชนีหุ้นสหรัฐ

อยากลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เพราะมีให้เลือกเยอะเต็มไปหมด และยังมีความสงสัยว่าดัชนีที่ได้ยินบ่อย ๆ อย่าง S&P 500 และ Nasdaq 100 เอาจริง ๆ แล้วแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาสรุปให้กันทีละข้อ

Highlight (คลิกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจได้เลย)


ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจก่อนว่าสหรัฐอเมริกามีตลาดหลักทรัพย์ด้วยกัน 2 ตลาดหลัก ได้แก่

  1.  NYSE หรือ New York Stock Exchange เป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกของสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Wall Street และเต็มไปด้วยบริษัทเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงยาวนาน เช่น Berkshire Hathaway, Visa, Johnson & Johnson, Exxon Mobil, JPMorgan, Walmart, Coca-Cola, Nike เป็นต้น จึงเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลตลาดราว $25 ล้านล้าน
  2. Nasdaq ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทขนาดเล็กที่ยังไม่สามารถเข้า NYSE ได้ จึงเต็มไปด้วยหุ้นเทคโนโลยี เช่น Apple, Microsoft, Facebook, Amazon, Tesla ที่เมื่อก่อนเคยเล็กแต่เติบใหญ่จนครองโลกในตอนนี้ ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว $18 ล้านล้าน นอกจากนี้ Nasdaq ถือเป็นตลาดหุ้นแห่งแรกของโลกที่มีการซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

wallstreet

Wall Street New York by Chenyu Guan / unsplash.com

แต่สิ่งที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เวลาติดตามราคาหุ้น คือ ดัชนีอ้างอิง (Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดให้นักลงทุนเห็นความเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละกลุ่ม โดยตลาดหลักทรัพย์แต่ละแห่งก็จะมีดัชนีอ้างอิงของตัวเอง บางแห่งอาจมีหลายดัชนี ขณะเดียวกันบางดัชนีก็อาจมีหุ้นที่คำนวณอยู่ในหลายตลาดหุ้นก็ได้ เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในแง่มุมที่แตกต่างกันไป 

เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะมี SET Index ดัชนีที่สะท้อนราคาหุ้นในตลาดทั้งหมด, SET50 Index สะท้อนราคาหุ้น 50 ตัวแรก, SETHD สะท้อนความเคลื่อนของราคาหุ้นหุ้นปันผล

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็มีการจัดทำดัชนีให้นักลงทุนติดตามมากมาย เช่น ดัชนี Dow Jones, S&P 500, Nasdaq 100 และ Russell 2000 เป็นต้น 

อย่างไรก็ดี ถ้าพูดถึงดัชนีที่นักลงทุนทั่วโลกติดตามมากที่สุด และถูกยอมรับว่าเป็นตัวแทนของหุ้นสหรัฐฯ ได้ดีที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็น 2 ดัชนียอดฮิตที่เราจะพาไปเจาะลึกในบทความนี้อย่าง S&P 500 และ Nasdaq 100 

ดัชนี S&P 500 คืออะไร?

S&P 500 เป็นดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่จัดทำขึ้นโดย Standard & Poor เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1957 ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 500 แห่งของสหรัฐฯ ซึ่งรวมมาจากทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น NYSE และตลาดหุ้น Nasdaq 

เกณฑ์การพิจารณาหุ้นเข้าดัชนี S&P 500 จะคำนวณจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ตลอดจนสภาพคล่องการซื้อขาย และสัดส่วนการลงทุนของรายย่อย (Free Float) เป็นต้น 

ทั้งนี้ หุ้นใน S&P 500 คิดเป็นกว่า 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ทั้งหมด และกระจายอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทำให้ถูกมองว่าเป็นดัชนีที่สะท้อนภาพรวมตลาดและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ดีที่สุด

ดัชนี Nasdaq 100 คืออะไร?

Nasdaq 100 เป็นดัชนีตลาดหุ้นที่จัดทำขึ้นโดยตลาด Nasdaq เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1985 ประกอบด้วยบริษัทในสหรัฐฯ และบริษัทต่างประเทศที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาด Nasdaq ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 แห่ง

ความน่าสนใจของ Nasdaq 100 คือการเป็นตัวแทนของหุ้นเทคโนโลยี และเต็มไปด้วยหุ้นที่มีการเติบโตสูง หลายบริษัทเคยเป็นหุ้นขนาดเล็กมาก่อน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ก็ได้เติบใหญ่กลายเป็นหุ้นชั้นนำของโลกในวันนี้ 

ทั้งนี้ หุ้นใน Nasdaq 100 จะอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีมากที่สุด รองลงมาจะเป็นบริการ ค้าปลีก สุขภาพ และอุตสาหกรรม โดยจะไม่มีการนำบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินเข้ามาคำนวณในดัชนี

ดัชนีหุ้นสหรัฐ

เปรียบเทียบหุ้นใน S&P 500 กับ Nasdaq 100 เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน

คราวนี้อยากจะชวนมาเจาะลึกลงไปในหุ้นที่มีสัดส่วนมากที่สุดของดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าจุดที่แตกต่างกันของ 2 ดัชนีอยู่ที่ตรงไหน โดยยกเอาหุ้น Top Holding ของ S&P 500 อ้างอิงข้อมูลโดย SPDR S&P 500 ETF และหุ้น Top Holding ของ Nasdaq 100 อ้างอิงข้อมูลโดย Invesco QQQ ETF มาพิจารณาเปรียบเทียบกัน (อัปเดตข้อมูล ณ วันที่ 26/06/2023)

ดัชนีหุ้นสหรัฐ

มองเผิน ๆ หน้าตาของหุ้นมีความคล้ายคลึงกันมาก โดยเฉพาะ 5 อันดับแรกที่มีสัดส่วนสูงสุด ได้แก่ Apple (AAPL), Microsoft (MSFT), Alphabet (GOOGL, GOOG), Amazon (AMZN) และ Nvidia (NVDA

ทว่าจุดที่ต่างกันเลยคือน้ำหนักการลงทุน เพราะว่า S&P 500 มีการกระจายสัดส่วนที่หลากหลายกว่า ซึ่งมีสัดส่วนของ 5 หุ้นตัวท็อปราว 23% เท่านั้น ส่วนที่เหลือถูกกระจายไปในหุ้นตัวอื่น ๆ ทั้งที่เป็นเทคโนโลยี เช่น Tesla (TSLA), Meta (META) รวมไปถึงอุตสาหกรรมดั้งเดิมอื่น ๆ เช่น Berkshire Hathaway (BRK-A, BRK-B), Unitedhealth (UNH), Johnson & Johnson (JNJ), Exxon Mobil (XOM), JPMorgan (JPM), Visa (V) เป็นต้น

ฝั่ง Nasdaq 100 ชัดเจนว่ากระจุกอยู่ที่ 5 หุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 46% แถมหุ้นที่เหลือตัวอื่น ๆ ก็ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีกว่าครึ่ง อาทิ Tesla (TSLA), Meta (META), Broadcom (AVGO), Adobe (ADBE), Cisco (CSCO), Netflix (NFLX), Advanced Micro Devices (AMD) เป็นต้น

คล้ายแต่ไม่เหมือน S&P 500 กระจายหุ้นในหลายอุตสาหกรรม ส่วน NASDAQ 100 เน้นหนักที่หุ้นเทคโนโลยีมากกว่าครึ่ง

ผลตอบแทน 10 ปี S&P 500 กับ Nasdaq 100 อะไรดีกว่ากัน

แล้วในแง่ของผลตอบแทนเทียบกันแล้วเป็นอย่างไร? โดยปกติทั้ง 2 ดัชนีจะวิ่งในเทรนด์ที่สอดคล้องไปด้วยกัน มีเพียงช่วงปีโควิด 2020 ที่ Nasdaq 100 ทะยานขึ้นทำ All Time High สวนทาง S&P 500 ที่ชะลอตัวลง เนื่องกระแสการมาของเทคโนโลยี ซึ่งได้รับประโยชน์จากการ Lockdown และ Social Distancing 

โดย 10 ปีที่ผ่านมา S&P 500 ให้ผลตอบเฉลี่ย 14% ต่อปี Nasdaq 100 ให้ผลตอบเฉลี่ย 19% ต่อปี เท่ากับว่าในระยะหลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีการเติบโตสูงกว่าภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ แล้วก็มาพร้อมกับความคาดหวังของนักลงทุนด้วยเช่นกัน ดัชนีหุ้นสหรัฐ

กราฟเปรียบเทียบ Total Return ระหว่าง S&P 500 กับ Nasdaq 100 ตั้งแต่ปี 2013-2023 |Source: slickcharts as of 30/06/2023 | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ดัชนีไหนเหมาะกับใคร?

คำถามสำคัญคือหากต้องเลือกลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ สักตัว ดัชนีไหนดีที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด เอาเป็นว่าเราสรุปออกมาให้เห็นชัด ๆ ดังนี้

แนะนำดัชนี S&P 500 หากคุณเป็นนักลงทุนที่… 

1.) ต้องการลงทุนในดัชนีที่สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ดีที่สุด

2.) ชอบกระจายการลงทุนในหุ้นหลากหลายอุตสาหกรรม

3.) เน้นความมั่นคง ไม่หวือหวามาก กับหุ้นขนาดใหญ่

แนะนำดัชนี Nasdaq 100 หากคุณเป็นนักลงทุนที่… 

1.) ต้องการลงทุนในดัชนีที่อัดแน่นไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ

2.) ชอบการลงทุนแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ ในหุ้นเทคโนโลยีโดยเฉพาะ

3.) เน้นสร้างการเติบโตเต็มที่ในช่วงเศรษฐกิจดี และรับความผันผวนได้หากเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีหุ้นสหรัฐ

กองทุน S&P 500 มีอะไรบ้าง?

รวบรวมรายชื่อกองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ Passive Fund ที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง S&P 500 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/

กองทุน Nasdaq 100 มีอะไรบ้าง?

รวบรวมรายชื่อกองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ Passive Fund ที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง Nasdaq 100 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/

ดัชนีหุ้นสหรัฐ

เปิดบัญชีลงทุนกองทุนรวม จากทุก บลจ. ในประเทศไทย ดาวน์โหลดแอปฯ FINNOMENA ได้เลยที่ https://finno.me/download-app-ws


แหล่งข้อมูล

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม และประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

TSF2024