กองทุนอะไรดี สหรัฐ Bull Market

เข้าสู่เดือนแรกของปี 2024 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็พาเหรดทำ All Time High อย่างต่อเนื่อง ทั้งดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq เป็นสัญญาณบอกว่าได้เกิด Bull Market เต็มตัวแล้ว

Bull Market หรือ “ตลาดกระทิง” คือ ภาวะที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบต่อเนื่องยาวนาน โดยทั่วไปมักจะเริ่มต้นหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นกว่า 20% จากจุดต่ำสุดในช่วงก่อนหน้านั้น และภาพรวมของตลาดมักมีแต่มุมมองเชิงบวก นักลงทุนมักตัดสินใจลงทุนง่ายขึ้น เพราะเห็นแต่โอกาสเต็มไปหมด

อะไรบ่งชี้ว่าหุ้นสหรัฐฯ เข้า Bull Market แล้ว

1. ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

กองทุนอะไรดี สหรัฐ Bull Market

Source: TradingView as of 23/01/2024

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2024 Nasdaq, S&P 500 และ Dow Jones ดีดขึ้นทำ All Time High โดยปรับเพิ่มขึ้น 38.80% 29.07% และ 25.89% ตามลำดับ นับตั้งแต่จุดต่ำสุดช่วงปลายปี 2022

การปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ตลาดถูกหนุนด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent-7 มาตั้งแต่ต้นปี 2023 ซึ่งปรับตัวขึ้นพร้อม Earnings Revision และพอขึ้นปีใหม่ 2024 หุ้น Big Cap เหล่านี้ก็ยังคงแรงไม่แผ่ว

2. ตลาดเข้าสู่โหมดโลภสุดขีด Extreme Greed

กองทุนอะไรดี สหรัฐ Bull Market

Source: CNN as of 29/01/2024

Fear & Greed Index เป็นดัชนีที่ใช้ดูอารมณ์ของนักลงทุนในตลาดว่าอยู่ในความกลัว (Fear) หรือความโลภ (Greed) ในเวลาที่ตลาดเริ่มโลภ ราคาอาจจะสูงขึ้นได้อีก ส่วนในเวลาที่ตลาดเริ่มกลัว ก็บ่งชี้ว่าราคาอาจจะร่วงลงได้อีกเช่นกัน 

ข้อมูลล่าสุดบอกเราว่า S&P 500 เข้าสู่โหลด Extreme Greed แล้ว แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อหุ้นสหรัฐฯ ในฝั่งขาซื้อ และมีโอกาสเป็น Positive Momentum เพราะคนจำนวนมากยังเชื่อว่าแม้จะขึ้นมาเยอะแล้ว ก็ยังมีศักยภาพที่จะขึ้นได้ต่อ

3. ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนดีกว่าคาด

สหรัฐฯ ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/23 เติบโต 3.3% สูงกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2% ส่วนภาพรวมทั้งปี 2023 เติบโต 2.5% ปัจจัยหนุนยังอยู่ที่การบริโภค ตามมาด้วยการลงทุน และการใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย 

ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่เริ่มประกาศออกมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคมของกลุ่มการเงิน (Financials) ถือว่าแกร่งกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ ช่วยดันให้ราคาหุ้นเดินหน้าปรับตัวขึ้น แม้จะมีแรงกดดันจากโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจล่าช้าออกไป เพราะเงินเฟ้อไม่ได้ลงเร็วอย่างที่คิดไว้

แนะนำกองทุนหุ้นสหรัฐฯ สาย Growth และ Value

แม้ว่า Valuation จะเริ่มตึงตัวจากการปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ แต่เอาจริง ๆ ก็ยังมีหุ้นที่ Laggard ตลาดอยู่ เนื่องจาก Forward PE ของ S&P500 อยู่ที่ 19.95 เท่า ทว่าหากไม่รวม Magnificent-7 จะเหลือเพียง 18 เท่า

ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า ครั้งไหนที่ S&P 500 เข้าสู่ช่วงกระทิง ทำจุดสูงสุดตลอดกาล โมเมนตัมจะยังพัดพาตลาดให้ทะยานขึ้นต่อไปได้อีก 12 เดือนข้างหน้า โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย 14% 

กองทุนอะไรดี สหรัฐ Bull Market

เราจึงรวบรวมกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่แนะนำในช่วงนี้ ทั้งมุมมองระยะยาวภายใต้กรอบ MEVT Call มุมมองระยะสั้นแบบ Trend Follower และ The Contrarian ตลอดจนกองทุนที่เป็น Fpick ของ FINNOMENA FUNDS ดังนี้

AFMOAT-HA

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่เน้นการลงทุนตาม Morningstar Wide Moat Focus Index ซึ่งเป็นดัชนีที่เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีปราการทางธุรกิจ หรือความได้เปรียบด้านการแข่งขันสูง เพื่อคาดหวังการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

หุ้น Top Holding ได้แก่

  • Salesforce.Com 
  • Allegion
  • Equifax
  • Us Bancorp
  • Alphabet

KFUS-A

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund เน้นคัดหุ้นเติบโตอนาคตใหม่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และมองเกมในระยะยาวมากกว่าโมเมนตัมระยะสั้น

หุ้น Top Holding ได้แก่

  • Trade Desk 
  • Amazon.com 
  • NVIDIA 
  • Shopify 
  • Tesla

SCBNEXT(A)

กองทุนรวมหุ้นทั่วโลก โดยมีนโยบายลงทุนผ่านกองทุน ARK Next Generation Internet ETF เน้นหุ้นนวัตกรรมแห่งอนาคต เช่น 5G เทคโนโลยีเสมือนจริง และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในทุกอุปกรณ์

หุ้น Top Holding ได้แก่

  • Coinbase OINBASE GLOBAL
  • Roku OKU I
  • Block INC
  • ARK Bitcoin ETF Holdco OLDCO 
  • Zoom Video Communications

SCBRS2000(A)

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ แบบ Passive ลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Russell 2000 ETF โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Russell 2000 ซึ่งรวมหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ 

หุ้น Top Holding ได้แก่

  • Super Micro Computer
  • e.l.f. Beauty
  • Onto Innovation
  • Simpson Manufacturing 
  • Rambus

ASP-USSMALL

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Virtus GF U.S. Small Cap Focus Fund ซึ่งบริหารแบบ Active มุ่งเน้นคัดบริษัทขนาดเล็กที่มีคุณภาพสูง โดยกองทุนหลักมีค่า correlation กับดัชนี Russell 2000 สูง 0.896

หุ้น Top Holding ได้แก่

  • Simpson Manufacturing 
  • Primerica
  • Landstar System
  • Ryan Specialty Holdings
  • nCino

MEGA10-A

กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของ 10 บริษัทแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเน้นบริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Brand Value คัดเลือกจากขนาด Market Cap สูงสุด และมีสภาพคล่องสูง

หุ้น Top Holding ได้แก่

  • Meta Platforms
  • JPMorgan Chase & Co.
  • Visa
  • Mastercard
  • Procter & Gamble

สรุปแล้วเลือกกองทุนอะไรดี?กองทุนอะไรดี สหรัฐ Bull Market

Source: Morningstar, FINNOMENA FUNDS as of 30/11/2023

สำหรับคนที่เน้นเป้าหมายระยะยาว กำลังมองหา Cor Portfolio ที่เน้นเสริมความมั่นคงและไม่ผันผวนตามภาวะตลาดจนเกินไป แนะนำ AFMOAT-HA เพราะหุ้นที่ลงทุนส่วนใหญ่หนักทางสาย Value และมีการปรับพอร์ตหมุนหุ้นสม่ำเสมอตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง เหมาะเป็นกองทุนถือติดพอร์ตไปได้ยาว ๆ  

หรือถ้าอยากเน้นการเติบโตเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้นมาหน่อย แต่ก็เชื่อมั่นในเกมระยะยาวเหมือนกัน MEGA10-A ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนชอบทั้งหุ้น Value และหุ้น Growth โดยลงทุนเน้น ๆ แค่ 10 ตัวใหญ่ไปเลย

แต่หากใครกำลังมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มในระยะสั้น-กลาง กับกองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ราคายังคง Laggard ก็มีให้เลือกทั้ง KFUS-A ที่เป็นสายหุ้น Growth แบบ Baillie Gifford หรือ SCBNEXT(A) จากค่าย ARK Invest ที่ชื่นชอบหุ้นนวัตกรรมอนาคต

ตลอดจนกองทุนที่สร้างผลตอบแทนล้อไปตามดัชนี Russell 2000 ที่แนะนำ SCBRS2000(A) สำหรับสาย passive fund และ ASP-USSMALL สำหรับสาย active fund 

เปรียบเทียบกองทุน AFMOAT-HA, MEGA10-A, KFUS-A, SCBNEXT(A), SCBRS2000(A), ASP-USSMALL คลิกเลย

กองทุนอะไรดี สหรัฐ Bull Market

Source: FINNOMENA FUNDS Compare as of 30/01/2024


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย |  คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ FINNOMENA FUNDS ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในกรอบระยะเวลาตามวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกันตามคำแนะนำ | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

TSF2024