เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจได้เลย
- ตัวอย่างหุ้นเทคโนโลยี AI ที่ผลตอบแทนพุ่งแรง
- ราคาหุ้น AI ขึ้นมาด้วยอะไร?
- AI จะเป็นฟองสบู่เหมือน Dot Com ไหม?
- สรุปมุมมองการลงทุน FINNOMENA ต่อหุ้น AI
- แนะนำพอร์ต GGG ลงทุนหุ้นเติบโตแบบเข้มข้น
ตั้งแต่ต้นปี 2023 หุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) ล้วนปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและพีคมาก จนทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนเป็นบวกกว่าที่ตลาดคาด โดยเฉพาะดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง S&P 500 และ Nasdaq
หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก AI มีตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำอย่างผู้ผลิตชิป เช่น Nvidia, AMD, TSMC และ Micron เป็นต้น
รวมไปจนถึงธุรกิจปลายน้ำ ซึ่งก็มีทั้งกลุ่ม Generative AI เช่น Microsoft, Alphabet, Adobe ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ AI เช่น Amazon, C3.ai, Palantir Technologies, SAP ตลอดจนการนำเทคโนโลยี AI ไปปรับใช้กับธุรกิจหลัก เช่น Tesla, Meta และ Apple
ตัวอย่างหุ้นเทคโนโลยี AI ที่ผลตอบแทนพุ่งแรงมาก
- Microsoft (MSFT) +37.22%
- Meta Platforms (META) +129.31%
- Alphabet (GOOGL) +34.56%
- Nvidia (NVDA) +189.85%
- Apple (AAPL) +41.20%
- Advanced Micro Devices (AMD) +69.87%
- Amazon (AMZN) +46.07%
- Adobe (ADBE) +40.37%
- C3.ai (AI) +252.66%
- Palantir Technologies (PLTR) +129.11%
- SAP SE (SAP) +25.27%
- TSMC (TSM) +28.26%
- Micron Technology (MU) +30.63%%
- Tesla (TSLA) +119.01%
หมายเหตุ: Year to Date Return as of 22/06/2023
ค้นหาข้อมูลหุ้น AI เพิ่มเติมได้ที่ FINNOMENA STOCK
ราคาหุ้น AI ขึ้นมาด้วยอะไร?
หลักการวิเคราะห์ราคาหุ้น ต้องรู้ว่าอะไรขึ้น และขึ้นมาด้วยสาเหตุอะไร ซึ่งทั่วไปแล้วจะมาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่
ปัจจัยแรก… ขึ้นด้วยการปรับประมาณการพื้นฐานกำไร (Earning)
ปัจจัยสอง… ขึ้นด้วยความคาดหวังของตลาด (P/E)
Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 19/06/2023
เมื่อดูจากกราฟข้างต้น แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Information Technology, Communication Service และ Consumer Discretionary ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาจากส่วนของ P/E มากกว่าส่วนที่เป็น EPS
อธิบายให้ชัดก็คือ
- Information Technology ผลตอบแทน 43% เป็นผลมาจาก P/E 34% และ EPS 9%
- Communication Service ผลตอบแทน 35% เป็นผลมาจาก P/E 26% และ EPS 9%
- Consumer Discretionary ผลตอบแทน 27% เป็นผลมาจาก P/E 21% และ EPS 6%
ราคาหุ้นเทคโนโลยี ปรับขึ้นด้วยความคาดหวัง มากกว่าการปรับประมาณการพื้นฐานของกำไร
แต่อย่างไรก็ตาม หากมองในอีกมุมก็ต้องยอมรับว่าปีก่อนหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลงมาค่อนข้างลึก และช่วงต้นปีตลาดประเมินว่าจะเกิด Recession ทำให้กด EPS ลงไป
AI จะเป็นฟองสบู่เหมือน Dot Com ไหม?
หลายคนกังวลว่าการขึ้นมาของเทคโนโลยี AI ค่อนข้างคล้ายกับช่วงบูมของยุค Dot Com ประมาณปี 2000 คำถามคือการที่ AI พีคเร็ว พีคแรงแบบนี้ มีโอกาสจะเกิดฟองสบู่เหมือนครั้งนั้นไหม
โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจ สำหรับเป็นข้อมูลวิเคราะห์มูลค่าหุ้น AI ดังนี้
1.) ราคาหุ้นวิ่งเร็วและแรงกว่าประมาณการกำไร
Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 19/06/2023
2.) Valuation ของหุ้นเทคสหรัฐฯ อยู่ในโซนแพงกว่ากลุ่มอื่น
Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 19/06/2023
3.) เมื่อนำ Nasdaq 100 เทียบกับหุ้นกลางเล็ก (Russell 2000) เกือบเท่าช่วง Dot Com
Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 19/06/2023
ข้อมูลดังกล่าวพยายามชี้ว่าหุ้นเทคโนโลยีขณะนี้แพงเกินไปแล้ว!!! แต่หากคุณเชื่อว่านี่เป็นโลกที่ต้องขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม แบบนี้ก็คงไม่แปลกถ้าหุ้น Growth จะมี Valuation ที่สูง และมองได้ว่านี่คือฐานราคาใหม่ที่ตลาดให้มูลค่า
มุมมอง FINNOMENA ต่อหุ้น AI
เทคโนโลยี AI เพิ่งเริ่มต้น อนาคตจะเห็นถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายและมีต้นทุนที่ถูกลง เพราะเป็นเทคโนโลยีที่จับต้องได้ชัดเจน
เพียงแต่ราคาหุ้นยังแพง สวนทางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ เท่ากับว่าหากต้องการจับจังหวะทำกำไร อาจไม่เหมาะที่จะรีบกระโดดเข้าไปในตอนนี้
แนะนำพอร์ต Next-Generation Global Growth (GGG) ลงทุนหุ้นเติบโตแบบเข้มข้น
สำหรับใครกำลังมองหากองทุนรวมเพื่อรับโอกาสการเติบโตไปกับเทคโนโลยี AI ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันหุ้นธีม AI กระจายอยู่ในหลากหลายอุตสากรรม ทั้งเทคโนโลยี สุขภาพ ยานยนต์ โลจิสติกส์ การเงิน บล็อกเชน เกมส์ และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
เพราะ AI ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยผลักดักให้ธุรกิจมีความสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด พูดอีกอย่างคือเราจะเห็นว่า Growth Stock ในตอนนี้ ล้วนแต่ต้องมีเทคโนโลยี AI เข้ามาเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย
ดังนั้น ถ้าอยากลงทุนในกองทุนสาย Growth ที่กระจายสัดส่วนให้อย่างลงตัว ไม่สนใจการจับจังหวะตลาด แต่ก็ไม่ทิ้งการจัดการกับความผันผวนให้เหมาะสมด้วยการจัดพอร์ตอย่างเป็นระบบ เราอยากแนะนำโมเดลพอร์ต GGG (Triple G) ซึ่งมีความน่าสนใจ ดังนี้
- ลงทุนในหุ้นเติบโตล้วน 100% ช่วยคุณสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- ลดความผันผวนอย่างเป็นระบบ โดยกระจายการลงทุนในหุ้นแกนหลัก 4 กลุ่ม ซึ่งมีลักษณะความเคลื่อนไหวแตกต่างกัน
- ไม่ใช้การจับจังหวะตลาด เพราะอาจทำให้พลาดช่วงที่ดีที่สุดของตลาดหุ้นไป หากจับจังหวะผิดพลาด
- คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี (ไม่ใช่การการันตี) ปรับพอร์ตไม่บ่อยปีละ 2 ครั้ง
สัดส่วนการลงทุนในพอร์ต GGG ณ วันที่ 20/06/2023
ผลตอบแทนย้อนหลังพอร์ตการลงทุน GGG
Source: FINNOMENA Investment Team as of 21/06/2023
สนใจสร้างแผนการลงทุน GGG ดูรายละเอียดได้ที่ https://finno.me/ggg-landing-web
แหล่งข้อมูล
- FINNOMENA Live – AI Boom VS Dot Com Bubble
- Tradingview Stock Heatmap – Nasdaq 100
- FINNOMENA – รีวิวพอร์ต GGG พอร์ตการลงทุนหุ้นเติบโตล้วน เสริมเบาะกันกระแทก
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทําให้ผู้ลงทุน ขาดทุนหรือได้รับกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | บางกองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”