ย้อนกลับ
ซื้อ
Mr.Messenger
หุ้นอินเดีย
27 ก.ย. 67
สรุปความเห็น

อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 67

แนะนำ "กลับเข้าซื้อ" หุ้นอินเดีย เมื่อเงินทุนทั่วโลกไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง จากศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอันโดดเด่น พร้อมเกิด Buy Signal

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Mr.Messenger Call แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอินเดีย ผ่านกองทุน B-BHARATA และกองทุน TISCOINA-A ในจังหวะที่ตลาดทะยานเป็นขาขึ้น หลังเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง


ตลาดหุ้นอินเดียยังคงได้อานิสงส์จาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องและไหลเข้าโดดเด่นกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน หลังสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น โดย "นเรนทรา โมดี" จากพรรค BJP ชนะการเลือกตั้ง และได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดียสมัยที่ 3 นอกจากนี้ ตลาดหุ้นอินเดียยังได้อนิสงส์จากการทยอยปรับเพิ่มน้ำหนักในการคำนวนดัชนีของ MSCI


finnomena-opportunity-hub

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 20/09/2024


โดยล่าสุด MSCI เพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นอินเดียในดัชนี MSCI EM Index สู่ระดับ 19.8% (ณ 30 สิงหาคม 2024) จากระดับ ~15% เมื่อต้นปี 2024 นอกจากนี้ Nuvama Alternative and Quantitative Research คาดการณ์ว่าน้ำหนักของตลาดหุ้นอินเดียอาจเพิ่มขึ้นเป็น 22% ของดัชนีภายในสิ้นปี 2024 และคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดียราว 2.7-3.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


กราฟน้ำหนักตลาดหุ้นอินเดีย และตลาดหุ้นจีนในดัชนี

finnomena-opportunity-hub

Source: Reuters, Nuvama, MSCI as of 30/08/2024


แนวโน้มการเติบทางเศรษฐกิจของอินเดียสูงกว่ากลุ่มประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยบรรดานักเศรษฐศาสตร์ (ข้อมูลจาก Bloomberg Consensus) คาดว่า GDP ของอินเดียจะเติบโต 7.8% และ 7.0% ในปี 2024 และปี 2025 ตามลำดับ ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจอินเดียเติบโตสูงมาจากภาครัฐที่ใช้งบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ชนชั้นกลางในประเทศที่เพิ่มขึ้นหนุนกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ความมีสเถียรภาพทางการเมืองระหว่างประเทศ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ต่ำกว่าประเทศจีน ทำให้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศมากขึ้น


กราฟการเติบโตของ GDP อินเดียเทียบกับประเทศอื่น

finnomena-opportunity-hub

Source: Bloomberg, FInnomena Funds as of 31/08/2024


ภาคการผลิตของอินเดียยังขยายตัวได้แข็งแกร่งกว่ากลุ่มประเทศ Emerging market ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตของอินเดียยังอยู่ในแดนขยายตัว (สูงกว่า 50) มาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับภาคบริการที่ยังอยู่ในแดนขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ว่าธนาคารกลางของอินเดียระบุเศรษฐกิจอินเดียเริ่มกลับมามีโมเมนตัวที่ดีขึ้นอีกครั้ง หลังเกิดชะลอตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมาจากการใช้จ่ายภาครัฐฯที่หดตัวในช่วงเลือกตั้ง


กราฟดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของอินเดีย

finnomena-opportunity-hub

Source: Finnomena funds, Macrobond as of 26/09/2024


ตลาดหุ้นอินเดียเป็นยังคงตลาดที่ Valuation อยู่ในระดับสูงมาตลอด ปัจจุบัน Forward 12-m P/E ของดัชนี Nifty 50 อยู่ที่ 21 เท่า หรือที่ระดับ +1.8 S.D. ในรอบ 10 ปี แต่ Valuation ที่สูงย่อมแลกมาด้วยการเติบโตที่สูงเช่นกัน โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่ากำไรของตลาดหุ้นอินเดียจะเติบโต 8% และ 14% ในปี 2024 และ 2025


กราฟดัชนี, EPS และ Valuation ของดัชนี MSCI India

finnomena-opportunity-hub

Source: Finnomena funds, Bloomberg as of 26/09/2024


ดัชนี Nifty 50 ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยในทางเทคนิคดัชนียังมี Upside อีกราว 5% พิจารณาเป้าหมายจาก Fibonacci extension ที่ระดับ 261.8% หรือที่ดัชนีระดับ 27,441 จุด และยังมี Buy Signal จาก MACD ที่ตัดขึ้นเหนือ Signal Line


กราฟดัชนี Nifty 50 Index (timeframe day)

finnomena-opportunity-hub


ด้วยศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับสูง แนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดียจากการเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นอินเดียในดัชนีของ MSCI ประกอบกับการเกิด Buy Signal ทางเทคนิค Mr.Messenger จึงเปลี่ยนคำแนะนำจาก “Hold” เป็น “Buy” ในหุ้นอินเดียผ่านกองทุน B-BHARATA และกองทุน TISCOINA-A


แนะนำ B-BHARATA


กองทุนรวมหุ้นอินเดีย ที่ลงทุนผ่านกองทุน RAMS Investment Unit Trust – India Equities Portfolio Fund II ซึ่งเน้นธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศอินเดีย และมีน้ำหนักการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อโอกาสเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น และสิ่งที่ทำให้กองทุนนี้น่าสนใจ ไม่ใช่แค่แนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างสดใส แต่หมายรวมถึงอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ปัจจุบันกองทุน B-BHARATA มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน 44% ของเงินลงทุน


B-BHARATA Top Holding

finnomena-opportunity-hub

Source: Fund Fact Sheet ของกองทุนหลัก B-BHARATA as of 31/08/2024


แนะนำ TISCOINA-A


กองทุน TISCOINA-A ลงทุนในหุ้นอินเดียผ่าน 3 กองทุนหลักคือ

  1. Nomura Funds Ireland plc India Equity Fund ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up พิจารณาจากพื้นฐานของหุ้นเป็นหลัก ประมาณ 25-30 ตัว จาก Universe ประมาณ 240 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่
  2. FSSA Indian Subcontinent Fund ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up คัดเลือกหุ้นที่ประกอบธุรกิจในอินเดีย, ศรีลังกา, ปากีสถาน และบังคลาเทศ โดยเน้นลงทุนประมาณ 50 ตัว กระจายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
  3. Goldman Sachs India Equity Portfolio ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up เลือกหุ้นประมาณ 70-100 ตัว จาก Universe ประมาณ 700 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก


TISCOINA-A Top Holding

finnomena-opportunity-hub

Source: Fund Fact Sheet ของกองทุน TISCOINA-A as of 31/08/2024


ดู Fund Fact Sheet กองทุนแนะนำ


จัดทำโดยบลป.เดฟินิท สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299