ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน และหลายครัวเรือนในประเทศไทยมีการติดตั้งแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้ที่อยู่อาศัยมีอากาศที่เย็นลง แต่ในขณะเดียวกัน ราคาของแอร์ก็อาจสูงหรือไม่เหมาะกับบ้านบางหลังทำให้ไม่สามารถที่จะติดตั้งแอร์ได้
ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีอุปกรณ์ทำความเย็นอีกอย่างหนึ่งที่มีราคาถูกกว่าและมีขนาดกะทัดรัดพกพาได้อีก จะเป็นอะไรไปได้นอกจาก ….. “พัดลม” นั่นเอง
ที่มา: SET Opp-Day
แล้วในตลาดหุ้น มีอะไรทำธุรกิจนี้บ้าง?
ในไทยดังๆก็มีอยู่ 2 เจ้า คือ ACC และ KOOL นั่นเอง
วันนี้ขอเล่าเฉพาะ KOOL – บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หุ้นยอดฮิตในเรดาร์หลายๆ คน
KOOL ทำธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า MASTERKOOL และ Cooltop ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ KOOL จะไม่ได้มีราคาแพงเท่าแอร์ สามารถนำไปติดตั้งได้ง่ายและขนย้ายได้สะดวกกว่าแอร์ รวมทั้งยังประหยัดพลังงานกว่าแอร์มาก เพราะผลิตภัณฑ์ของ KOOL คือการเอาพัดลมเป่าผ่านที่กรองน้ำ ทำให้ลมที่ออกมามีความเย็น โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อย่างชิ้นส่วนท่อทองแดงและชิ้นส่วนโลหะแผ่นขึ้นรูปเหมือนในแอร์
สินค้าต่างๆ ของ KOOL
ที่มา: SET Opp-Day
KOOL จะมียอดขายที่ดีมากในช่วงหน้าร้อน คือช่วงไตรมาส 2 เพราะยอดขายส่วนใหญ่ยังอยู่ในประเทศไทย ทำให้ KOOL มีรายได้ที่ค่อนข้างเป็น Cycle
Cycle ของ KOOL ก็ไม่ได้นานมาก โดย Cycle หนึ่งจะกินระยะเวลาหนึ่งปีเท่านั้น ช่วงที่พีคสุดคือช่วงหน้าร้อน
ยอดขายสินค้าแต่ละประเภทของ KOOL
ที่มา: SET Opp-Day
KOOL มียอดขายจากสินค้าไม่กี่ประเภท แต่กลุ่มที่สร้างรายได้เยอะที่สุดคือผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง 57% ของรายได้รวม นอกจากนี้ KOOL ก็ยังมีรายได้จากการทำโปรเจ็กต์ เช่นการไปติดตั้งพัดลมตามสถานที่ต่างๆ
รายได้ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายของ KOOL ปี 2560 มีดังนี้
ช่องทางการจัดจำหน่าย | % ของรายได้รวม |
การขายตรง | 36.4% |
Modern Trade | 32.3% |
ส่งออก | 19.6% |
ตัวแทน | 11.7% |
รายได้ของ KOOL ที่ผ่านมาเป็นดังนี้
ปี พ.ศ. | รายได้ (ล้านบาท) | กำไร (ล้านบาท) |
2558 | 641 | +8 |
2559 | 890 (เติบโต 38.8%) | +87 (เติบโต 988%) |
2560 | 553 (ลดลง 60.9%) | -84 |
รายได้และกำไรของ KOOL ตกลงอย่างหนักในปี 2560 เพราะ 3 ปัจจัยหลัก คือ
1) การแข่งขันที่รุนแรง เพราะคู่แข่งเข้าไปขอให้โรงงานผลิตแล้วใส่แบรนด์ตัวเองได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ KOOL ทำอยู่ แต่พอคู่แข่งทำสงครามราคา KOOL ก็ต้องลงไปแข่งด้วย
2) อากาศที่ไม่เป็นใจต่อ KOOL เพราะปีที่แล้วอากาศไม่ได้ร้อนมาก และมีฝนตก
3) ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นมาก เพราะขายแข่งที่ราคา ค่าใช้จ่ายเข้าช่องทาง Modern Trade เยอะมากแต่ยอดขายไม่ได้มาอย่างที่คิด
สินค้าใหม่ ชื่อ “เย็นไล่ยุง”
ที่มา: SET Opp-Day
แม้จะประสบปัญหา แต่ KOOL ก็ได้มีการออกสินค้าใหม่คือ “เย็นไล่ยุง” ผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็นและสามารถที่จะไล่ยุงไปด้วย
ซึ่งอาจจะถูกใจคนไทยหลายคนเลยทีเดียว เพราะประเทศไทยก็มียุงชุมเหลือเกิน
แต่เราก็ยังคงต้องจับตามองกันต่อไปครับว่าสินค้าตัวใหม่นี้จะสามารถทำให้ KOOL กลับมามียอดขายและกำไรที่ดีได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากรายได้ กำไร หรือความสามารถในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้ว นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนครับ
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.finnomena.com/stock/KOOL/?ex_id=156
https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=KOOL&ssoPageId=3&language=th&country=TH
รูปภาพจาก:
http://setlive.thailivestream.com/data-file/events/pdf/190318083300-Oppday-KOOL.pdf
—————————-
Vithan Minaphinant
Securities Investment Analyst (IA)
ตรวจทานบทความ
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เขียนบทความนี้มิได้รับค่าตอบแทนหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่กล่าวถึงในบทความนี้แต่อย่างใด
ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้