เจาะตำนาน Coca-Cola #2: กลยุทธ์การตลาดของน้ำดำ

คราวที่แล้ว เราได้พูดถึงเรื่องการที่โค้ก (Coke) ก้าวข้ามจากแบรนด์ท้องถิ่นไปสู่แบรนด์ระดับโลกได้อย่างไร

ใครยังไม่ได้อ่าน คลิกอ่านได้ที่นี่เลยครับ

คราวนี้เราจะมาเล่าถึงเรื่องการที่โค้กทำการตลาดอย่างไรให้ดังเป็นพลุแตกกัน

Coke Made a Boom!

โค้กทำให้ ซานตา คลอส ดัง ในปี 1931

สาเหตุคือ อเมริกาพบกับ The Great Depression ทำให้โค้กต้องทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย

การแก้ปัญหาของโค้กในตอนนั้นคือการให้ศิลปินชื่อ Sundblom วาดภาพซานตา คลอสในปี 1931 และใช้ซานตา คลอสทำแคมเปญ

ก่อนหน้านั้นซานตา คลอสมีรูปร่างน่ากลัว เป็นคนผอมๆ แต่หลังจากการรีแบรนด์ตัวซานตา คลอสใหม่ให้อ้วน ดูใจดีโดยฝีมือของ Sundblom โค้กก็ใช้ซานตา คลอสทำการตลาดมาโดยตลอด

จะสังเกตได้ว่าสีโลโก้ของโค้กก็เป็นสีเดียวกันกับเสื้อซานตา คลอสอีกด้วย นั่นก็คือสีแดงขาว ซึ่งโลโก้เพิ่งเปลี่ยนมาเป็นสีแดงขาวในช่วง 1950 หลังจากที่โค้กประสบความสำเร็จเรื่องการใช้ซานตา คลอสทำการตลาด

Coke Made a Boom AGAIN!

ปี 2011 รายได้บริษัท The Coca-Cola Company หรือ KO เพิ่มขึ้นถึง 32.5% แบบปีต่อปี (YOY) ถือว่าเป็นการกระโดดของรายได้อย่างมาก

สาเหตุของรายได้ที่เพิ่มขึ้นคือ แคมเปญ ‘Share a Coke’ ซึ่งได้ถูกรันออกมาในปี 2011 แคมเปญนี้นำโดย Lucie Austin และ Jeremy Rudge โดยมีการเริ่มทำที่ออสเตรเลียเป็นที่แรก หลังจากได้รับการตอบรับดีมากจนกลายเป็นแคมเปญระดับโลกในเวลาอันรวดเร็ว

ประเทศไทยก็อยู่ในนั้นด้วย โดยใช้สโลแกนว่า ‘ส่งโค้กให้…’

KO คัดสรรชื่อโหลๆ ที่จะเป็นตัวแทนประชากรของประเทศออสเตรเลียได้มากที่สุด และต้องมั่นใจด้วยว่าไม่มีชื่อต้องห้ามหรือชื่อที่พอแปลออกมาแล้วความหมายไม่ดี ตอนแรกมี 150 ชื่อ ซึ่งครอบคลุม 42% ของประชากรออสเตรเลีย ก่อนจะออกชื่อแบบรวมๆ มาอย่าง ‘ส่งโค้กให้ แม่ และ แฟน’ เป็นต้น

การออกสินค้าใหม่ของโค้ก

โค้กมีการออกสินค้าใหม่แตกต่างกันในแต่ละประเทศทั่วโลก แต่เครื่องดื่มน้ำดำโค้กนับเป็น 45% ของปริมาณขายทั่วโลก โดยที่ผ่านมาก็ได้ทำแบรนด์อย่างแฟนต้า สไปรท์ และมินิท เมดขึ้นมา

การออกสินค้าใหม่ของ KO ได้เปรียบสูงเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย

เพราะช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจเครื่องดื่ม ทำให้เวลาออกสินค้าใหม่ สินค้าสามารถเข้าไปวางตามร้านได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าได้ลองของใหม่ๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าสินค้านั้นๆ จะปังและกลายเป็นสินค้าตัวท็อปได้ไหม ซึ่งที่ผ่านมาคือปี 2005 มีออก Coke Zero ซึ่งกลายเป็นสินค้าระดับพันล้านดอลล่าร์ในปี 2007

การออกสินค้าใหม่ตัวล่าสุดคือ Coke Light ที่ใช้หญ้าหวานให้ความหวานแทนน้ำตาลและกลายเป็นโค้กที่คนโหวตให้เป็นอันดับ 1 ซึ่งมากกว่า Coke Classic และ Coke Zero อีก ต้องยอมรับว่า KO ออกสินค้าได้เหมาะและเก่งมากๆ

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวความสำเร็จของโค้กที่เราสามารถดูเป็นกรณีศึกษาได้เป็นอย่างดีเลย

ข้อมูลอ้างอิง:

http://www.coca-colacompany.com/brands/billion-dollar-brands

http://www.coca-colacompany.com/brands/product-description

TSF2024