“อย่าแห่ตามคนส่วนใหญ่”
ประโยคทองที่นักลงทุนระดับโลกหลายท่านกล่าวกันเอาไว้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น คุณวอเรนต์ บัฟเฟตต์ คุณเรย์ ดาลิโอ คุณปีเตอร์ ลินซ์ และนักลงทุนระดับโลกหลาย ๆ ท่านกล่าวคล้าย ๆ กัน
ทำไมคนส่วนใหญ่จึงผิดเสมอ ? สาเหตุอาจเป็นเพราะธรรมชาติในตัวมนุษย์ที่ชอบแห่ตามกันทำ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของสินค้าเกษตร หากเกษตรกรพบว่า พืชเศรษฐกิจชนิดใดขายได้ราคาดี ก็มักจะแห่ตามกันปลูก และผลที่ตามมาก็คือ การตกต่ำของราคาสินค้าเกษตรเหล่านั้น
ในตลาดหุ้นก็หนีไม่พ้นเช่นเดียวกัน การแห่ตามกันซื้อหุ้นร้อน มักจะทำให้นักลงทุนต้องเจ็บตัวเสมอ เมื่อทุกคนแห่ตามกันซื้อ ๆๆ หุ้นที่ทุกคนคิดว่าดี สุดท้ายราคาหุ้นก็จะแตก และหุ้นจะตกอย่างรุนแรง และไม้สุดท้ายที่ไปรับราคาหุ้นที่จุดสูงสุดก็จะต้องเจ็บตัวอย่างหนัก
เราจะมีวิธีหลีกเลี่ยงการแห่ตามกันแบบนี้ได้อย่างไร จะบ่มเพาะให้เป็นนิสัยที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาวได้อย่างไร ไปติดตามกันครับ
ประการแรก … “จงเข้าถึงความคิดที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหน”
คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวของ คุณเรย์ ดาลิโอ หมายถึง ไม่ให้เราติดแจกับความคิดอะไร เราต้องเป็นอิสระจากความคิดที่แห่ตาม เราต้องมีความคิดเป็นของตัวเราเอง
การที่เราคิดเอง และแตกต่างจากคนหมู่มาก จะทำให้การตัดสินใจของเราเป็นอิสระไปได้ และนั่นจะทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นในตลาด
แต่การที่เราแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในตลาด ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะความคิดที่แตกต่างอาจเป็นความคิดที่แย่ก็ได้ เราต้องตรวจสอบความคิดนั้นให้รอบด้าน
ประการที่สอง … “อย่ามั่นใจในตนเองมากเกินไป”
หากเรามั่นใจในตนเองมาก ๆ เราจะขาดความรอบคอบ และโอกาสแห่งความผิดพลาดก็จะเผยตัวตนของมันออกมา เราต้องรู้จักตัวเราเองดีพอ ในยามที่เรามั่นใจเกินไปเรามักจะไม่ฟังใครทั้งสิ้น
แนวคิดก็คือ “ทางสายกลาง” เราควรอยู่ตรงกลางระหว่างความขี้กลัว ขี้กังวลจนเกินเหตุ กับความมั่นใจในตัวเองมากเกินขอบเขตที่เราจะควบคุมได้ การอยู่บนทางสายกลางจะทำให้เรามองเห็นตัวเราเองอย่างที่มันเป็น เราจะเห็นความผิดพลาดของตัวเองเพื่อปรับปรุง และเห็นโอกาสตรงหน้าเราเพื่อให้เราได้คว้ามันเอาไว้
ประการที่สาม … “เราต้องเข้าใจว่าธุรกิจบางอย่างจะมีปีที่ดีและไม่ดี”
การลงทุนระยะยาวนั้น หากเราคิดจะเป็นเจ้าของธุรกิจจริง ๆ เราต้องตั้งมั่นในใจว่า จะถือธุรกิจนั้น ๆ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3-5 ปี เราจึงจะคิดลงทุน ดังนั้น หากปีไหนที่ธุรกิจเราไม่ดี หรือสภาพตลาดไม่เอื้ออำนวย และเราวิเคราะห์มองเห็นแล้วว่า มันคือปีที่ไม่ดีชั่วคราว นักลงทุนระยะยาวจะทำใจถือต่อไปได้ ตราบเท่าที่ธุรกิจยังไม่ได้ถดถอย แถมจะยังซื้อเพิ่มเสียด้วยซ้ำ หากมันลดราคาลงมามาก
ผิดกับนักลงทุนระยะสั้นที่มักจะแห่ตามคนส่วนใหญ่ เขาจะรีบขายกิจการที่ดีทิ้ง เพียงเพราะราคามันกำลังตกต่ำ (ชั่วคราว) สิ่งนี้เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานวัน จะเริ่มเห็นความแตกต่างมากขึ้น
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ…
นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะผิดเสมอหรือไม่ ที่จริงแล้วเราไม่ควรใส่ใจให้มากนัก สิ่งที่เราควรโฟกัสเป็นประจำ ก็คือ เราต้องมีใจมองให้เห็นเป็นกลาง หมั่นตรวจสอบความคิดเราสม่ำเสมอ และลงทุนระยะยาวกับธุรกิจที่เราเข้าใจมันได้ดีกว่าใครนั่นเองครับ
#นายแว่นลงทุน
**สนใจลงทุนในพอร์ต RUNNING for Growth พอร์ตกองทุนรวมหุ้นซึ่งจัดโดยนายแว่นลงทุน คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเลย >>
https://www.finnomena.com/port/naiwaen
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต