สำหรับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ Value Investment แน่นอนที่สุดว่า เรามักจะมองหาหุ้นดีในราคาถูก ยิ่งถูกยิ่งดี แต่สิ่งนี้มันขัดแย้งกันเอง เพราะหุ้นดีแต่ราคาถูก ดูเหมือนจะหายากเย็นแสนเข็ญ ที่สำคัญถ้าหุ้นมันดีจริง ทำไมราคามันถึงได้ถูกอยู่อย่างงั้น เรียกว่า เป็นปัญหา ไก่ กับ ไข่ อะไรเกิดก่อนกันก็ว่าได้
ในปัจจุบันแม้หุ้นประเภท พีอีต่ำ แต่เติบโตสูง ดูเหมือนจะไม่มีแล้วในตลาดหุ้นบ้านเรา แต่ถ้าเราย้อนอดีต ไปในยุค “กำเนิดวีไอ” เมื่อประมาณ 10-20 ปีที่ผ่านมาเราจะพบหุ้นเหล่านี้อยู่เต็มไปหมด เปรียบเหมือนเราเข้าไปพบโรงเพาะชำของ “ต้นกล้าหุ้น” ที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย แต่ในปัจจุบันเราจะพบเจอกับหุ้นแบบไหนบ้าง ลองไปติดตามกันดูดีกว่าครับ
ประเภทแรก “หุ้นพีอีสูง เติบโตสูง”
หุ้นแบบนี้ต้องบอกเลยว่า ช่วงที่ผ่านมามีอยู่เต็มไปหมด หุ้นประเภทอภินิหาร ขายของไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ที่ต้องบอกว่า ใครออกไปขายคนจีนได้มีแต่ร่ำรวยเป็นทิวแถว แต่ปัจจุบันหุ้นเหล่านี้ฟองสบู่ได้แตกเป็นที่เรียบร้อย ไม่เว้นแม้แต่ในต่างประเทศ
หุ้นที่ขายสินค้าให้กับคนจีนเยอะ ๆ ในอเมริกาก็มี นั่นคือ หุ้น Apple นั่นเอง ที่พอจีนมีมาตราการณ์ anti โทรศัพท์ “ไอโฟน” หุ้นตัวนี้ก็ตกระนาว แม้แต่ วอเรนต์ บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลกยังต้องเจ็บตัว
ว่าที่จริงหุ้นดี พีอีสูง หากมันยังเติบโตจริง ๆ ก็ถือว่าลงทุนได้นะครับ ถ้าการเติบโตนั้นเป็นการสะดุดชั่วคราว แต่หุ้นแบบนี้เราต้องพิจารณา “คูเมือง” ของกิจการด้วย นั่นก็คือ ความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้า ที่อยู่ในใจคนและยากที่จะเปลี่ยนแปลง ในช่วงเวลาหุ้นตกหนัก ๆ แบบนี้ อาจเป็นจังหวะที่ดีก็ได้ใครจะรู้
ประเภทที่สอง “หุ้นพีอีต่ำ เติบโตต่ำ”
หุ้นประเภทนี้นักลงทุนอาจต้องเน้น “เงินปันผล” เป็นหลัก เพราะหุ้นที่มีการเติบโตต่ำนั้น ตลาดมักจะปรับพีอีให้ต่ำเหมาะสมกับการเติบโตของหุ้น แต่หากสินค้าหรือบริการของเขายังดีมีชีวิตอยู่ กิจการก็สามารถดำเนินได้เรื่อย ๆ สร้างกระแสเงินสดออกมามาก หากไม่รู้จะนำไปต่อยอดอะไรก็มักจะปันผลออกมา
หุ้นแบบนี้มักอยู่ในอุตสาหกรรมที่ “ลงตัว” แล้ว หมายถึงมีการแบ่งแชร์การตลาดกันลงตัว และการแข่งขันควรจะต่ำลงด้วย สินค้าก็ยังไม่ถูกอะไรทดแทน จึงขายได้เรื่อย ๆ ปันผลมาเรียง ๆ นั่นเอง
ประเภทสุดท้าย “หุ้นพีอีต่ำ เติบโตสูง”
หุ้นประเภทนี้เป็นหุ้นที่น่าสนใจที่สุด เพราะหากเราเจอหุ้นพีอีต่ำ หมายความว่า ราคามันไม่แพง และถ้าเติบโตสูง แต่พีอียังต่ำ หมายความว่า ตลาดยังมองไม่เห็นมัน หรือคนในตลาดคาดไม่ถึงว่ามันจะสามารถเติบโตกลับมาได้
หุ้นประเภทนี้ยกตัวอย่างเช่น หุ้นที่เคยตกต่ำมานาน ทำให้ตลาดปรับพีอีลดลง หรือหุ้นที่โตช้าลง จากเคยเติบโตรวดเร็ว ตลาดก็ลงโทษด้วยการปรับพีอีให้ลดลงอย่างโหดร้ายทารุณ และเมื่อเวลาผ่านไปอะไร ๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น ทำให้พีอีต่ำติดดินอยู่อย่างนั้น ดูเหมือนจะไม่มีอนาคต
แต่สำหรับนักเจาะหุ้น ถ้าเราเข้าไปศึกษาหาความว่าอะไรเป็นเหตุปัจจัยที่มันตกต่ำ และมันจะกลับมาดีดังเดิมได้หรือไม่อย่างไร ถ้าเรารู้จริงนั่นคือ “โอกาส” ของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า ที่จะซื้อหุ้นพีอีต่ำ แต่แฝงการเติบโตสูงเอาไว้ ถ้าเราตาถึงจริง ๆ โอกาสก็จะเป็นของเราแน่นอน
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ …
หุ้นดีพีอีต่ำนั้นหายากแสนยาก แต่ถ้าเราหาเจอได้มันก็จะเปลี่ยนชีวิตการลงทุนของเราได้ ในสภาวะแวดล้อมที่มีหุ้นแบบนี้จำนวนมากอาจเกินขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทำให้เกิดนักลงทุนวีไอร่ำรวยกันมากมาย แต่ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอหุ้นแบบนี้ ลองขุดหากันดู เจอแล้วบอกผมด้วย จักขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
โดย นายแว่นลงทุน