การลงทุนระยะยาวมันคล้าย ๆ กับการวิ่งมาราธอน ถ้าเรามองช่วงสั้น ๆ อาจจะดูเหมือนเรายังวิ่งไปไหนไม่ไกล แต่เมื่อระยะทางผ่านไปเรื่อย ๆ คนที่ “อึดที่สุด” จะเป็นคนที่มีโอกาสชนะมากที่สุด
“เวลา” เป็นเพื่อนกับนักลงทุนระยะยาวเสมอ หลายคนอาจไม่เชื่อประโยคดังกล่าว … แต่ผมมีข้อพิสูจน์ครับ แต่ต้องขออกตัวไว้ก่อนว่า สิ่งที่บันทึกเอาไว้นั้น ไม่ได้ต้องการจะชี้นำหุ้น หรือต้องการเป็นเซียนหลังเกมส์แต่ประการใด แต่สิ่งที่อยากสื่อสารก็คือ อยากให้นักลงทุนระยะยาวมีกำลังใจ และเชื่อมั่นในแนวทางนี้ ลองไปติดตามกันดูดีกว่าครับ
ซื้อ CPALL ทิ้งไว้สิบปี จะเกิดอะไรขึ้น ?
*ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต*
โจทย์ของการลงทุนที่ตั้งเอาไว้ ก็คือ ถ้าเรามีเงินเริ่มต้นหนึ่งล้านบาท เอามาซื้อหุ้นค้าปลีก CPALL ทิ้งเอาไว้เฉย ๆ และเมื่อได้เงินปันผลจากหุ้น ก็เอามาซื้อ “ทบต้น” ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2552 – 2561 จะเป็นอย่างไร
เมื่อเราทราบโจทย์กันแล้ว ก็มาเริ่มลงทุนกันเลย … หากเราย้อนกลับไปปี 2552 ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 24.8 บาทต่อหุ้น ถ้าเรามีเงินหนึ่งล้านบาท เราจะสามารถซื้อหุ้น CPALL ได้จำนวน40,322 หุ้น คิดเป็นขนาดพอร์ตเริ่มต้น หนึ่งล้านบาทถ้วน และปีนั้นมีการปันผลออกมา 2.42% หรือปันผลให้เราเท่ากับ24,000 บาทต่อปี
ปี 2553ร าคาหุ้นจะอยู่ที่ 39.25 บาทต่อหุ้น และเรานำเงินปันผลมาซื้อเพิ่มเราจะมีหุ้น CPALL จำนวน 40,939.14 หุ้น คิดเป็นขนาดพอร์ต 1,606,861.29 บาทถ้วน และปีนั้นมีการปันผลออกมาให้เราเท่ากับ 32,779.97 บาทต่อปีแน่นอนที่สุดว่าเราเอาเงินปันผลกลับไปซื้อทบต้นในปีต่อไป
ปี 2554 ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 51.75 บาทต่อหุ้น และเรานำเงินปันผลมาซื้อเพิ่มเราจะมีหุ้น CPALL จำนวน 41,572.57 หุ้น คิดเป็นขนาดพอร์ต 2,151,380.53 บาทถ้วน และปีนั้นมีการปันผลออกมาให้เราเท่ากับ 58,302.41 บาทต่อปีแน่นอนที่สุดว่าเราเอาเงินปันผลกลับไปซื้อทบต้นในปีต่อไป… แต่ว่าปีนี้เป็นปีพิเศษ มีการปันผลเป็นหุ้น 1:1 หมายความว่า เราจะมีหุ้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปีต่อไป
ปี 2555 ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 46 บาทต่อหุ้น (ราคายังคงขยับขึ้นหลังปันผลเป็นหุ้น) และเรานำเงินปันผลมาซื้อเพิ่มเราจะมีหุ้น CPALL จำนวน 85,680.03 หุ้น คิดเป็นขนาดพอร์ต 3,941,281.31 บาทถ้วน โตแบบก้าวกระโดดเลย!! และปีนั้นมีการปันผลออกมาให้เราเท่ากับ 53,601.43 บาทต่อปีแน่นอนที่สุดว่าเราเอาเงินปันผลกลับไปซื้อทบต้นในปีต่อไป
เราจะทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทุกปี โดยเราไม่ได้เติมเงินเข้าไปใหม่ นอกจากเอาเงินปันผลไปซื้อทบต้นเข้าไปเท่านั้น ดังนั้นจึงขอตัดภาพไปปี 2561 เลยนะครับ
ปี 2561 ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 77.5 บาทต่อหุ้น และเรานำเงินปันผลมาซื้อเพิ่มเราจะมีหุ้น CPALL จำนวน 94,274.67 หุ้น คิดเป็นขนาดพอร์ต 7,306,287.05 บาทถ้วน หรือโตขึ้นมา 7.3 เท่าตัว !!และปีนั้นมีการปันผลออกมาให้เราเท่ากับ 103,749.28 บาทต่อปีแน่นอนที่สุดว่าเราเอาเงินปันผลกลับไปซื้อทบต้นในปีต่อไป
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ…
การลงทุนแบบนี้เราสามารถปล่อยให้หุ้นเติบโตไปได้เรื่อย ๆ แค่นำเงินปันผลเข้าไปซื้อทบ โดยเราไม่ต้องเติมเงินใหม่ ๆ เข้าไปนอกจากเงินปันผลเลย ผลก็คือ ถ้าเราทำแบบนี้กับหุ้นค้าปลีก CPALL เงินหนึ่งล้านบาท จะกลายเป็นเจ็ดล้านกว่าบาท หรือโตเจ็ดเด้งกว่า !
หลายคนอาจคิดว่า … มันจะมีอีกหรือหุ้นแบบนี้ คำตอบก็คือ “คุณต้องหาเอง และหาให้เจอด้วยตัวเอง” ไม่มีใครช่วยเราได้ เพราะผลของการทำงานนั้นคุ้มค่า มันกลายเป็นเงินเจ็ดเท่าของเงินต้น ใครที่ขยันหาหุ้นดี ๆ ผมขออำนวยพรให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้นะครับ
#นายแว่นลงทุน
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**สนใจลงทุนในพอร์ต RUNNING for Growth พอร์ตกองทุนรวมหุ้นซึ่งจัดโดยนายแว่นลงทุน คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเลย >>
https://www.finnomena.com/port/naiwaen